แบงก์-นอนแบงก์
TCAPโชว์ศักยภาพผลประกอบการดีต่อเนื่องพร้อมจ่ายปันผล 2.60 บาทต่อหุ้น


บมจ.ทุนธนชาตหรือTCAPโชว์ศักยภาพผลประกอบการดีต่อเนื่อง ไตรมาส 1 ปี 2562 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 4,061 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.78% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน พร้อมเตรียมจ่ายเงินปันผล 2.60 บาทต่อหุ้น ถือเป็นบริษัทที่สามารถจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือTCAPเปิดเผยว่าในไตรมาส 1 ปี 2562บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 4,061 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148 ล้านบาท หรือ 3.78% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ จำนวน 2,016 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117 ล้านบาท หรือ6.16%จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมเฉลี่ย (ROAA) และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทเฉลี่ยอยู่ที่ 1.53% และ 12.08% ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์ของธนาคารธนชาต ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ TCAP ที่ได้ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric)และมุ่งเน้นในการเป็นธนาคารหลัก (Main Bank)ที่ลูกค้าใช้บริการเป็นผลให้ธนาคารธนชาต และบริษัทย่อยมีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยในไตรมาส1ปี 2562 ฐานรายได้รวมของบริษัทฯและบริษัทย่อย ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 6.25% จากปริมาณสินเชื่อและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 8.15% จากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิและกำไรสุทธิจากเงินลงทุน ในส่วนของค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานปรับลดลง 7.13% จากการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานก่อนการตั้งสำรอง (PPOP) เพิ่มขึ้น 10.25% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายหนี้สูญหนี้สงสัยจะสูญลดลง 30.75%

ในส่วนสินทรัพย์รวมของกลุ่มธนชาตปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปีที่ผ่านมา โดยสินเชื่อขยายตัว 1.21% จากการเติบโตของสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อเช่าซื้อที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เงินรับฝากลดลง 1.11% แต่อย่างไรก็ตามเงินฝากออมทรัพย์และกระแสรายวัน (CASA) ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 49.29%

ทางด้านสินเชื่อด้อยคุณภาพของกลุ่มธนชาตปรับตัวลดลง2.88%จากสิ้นปี 2561และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio)อยู่ที่ 2.28% ขณะที่ อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญทั้งหมดต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) อยู่ที่ 120.85% สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารเท่ากับ 19.18%

จากผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องทำให้TCAPสามารถจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2561 เป็นเงิน 2.60 บาทต่อหุ้น โดยแบ่งเป็นจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2561 ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท และเหลืออีก 1.60 บาทที่จะขออนุมัติจ่ายจากการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 เมษายน นี้

ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลของTCAP ได้จ่ายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปี 2559 ที่จ่าย 2.00 บาทต่อหุ้น ปี 2560 จ่าย 2.20 บาทต่อหุ้น และล่าสุดปี 2561จ่าย 2.60 บาทต่อหุ้น ถือเป็นบริษัทที่สามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง

“เมื่อดูถึงศักยภาพโดยรวมทั้งหมด TCAP ไม่เพียงแต่ได้ประโยชน์จากการลงทุนในธนาคารธนชาตและบริษัทย่อย ยังมีธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ซึ่ง Active เพิ่มขึ้น รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ที่ยังช่วยหนุนกำไรให้สูงขึ้นอีก นอกจากนี้ภายหลังการรวมกิจการระหว่าง ธนาคารธนชาตและทีเอ็มบีเสร็จสมบูรณ์ธนาคารใหม่นี้จะมีความสามารถในการเติบโตทางธุรกิจและสร้างผลกำไรที่ดีขึ้น ซึ่งผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นนี้จะสะท้อนมาสู่ TCAP อย่างมีนัยสำคัญ เพราะ TCAP เป็น 1 ในผู้ถือหุ้นใหญ่ ด้วยสัดส่วนที่ไม่น้อยกว่า 20% เมื่อผนวกกับผลการดำเนินงานที่ดีของบริษัทลูกอื่นๆ จะทำให้ TCAP ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีและมีการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไปในอนาคต“นายศุภเดช กล่าว

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 เม.ย. 2562 เวลา : 19:20:46
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 10:43 am