เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
"ออมสิน"เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการStartup ไตรมาส 1 ปี 2562อยู่ในเกณฑ์ดี


ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยว่า“ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการStartup(SSI)ประจำไตรมาส1ปี2562ได้สำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ประกอบการStartupทั่วประเทศจำนวน500ตัวอย่างพบว่าดัชนีSSIประจำไตรมาส1ปี2562อยู่ที่ระดับ58.80ซึ่งสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ50แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการStartupยังคงมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางธุรกิจโดยรวม

         
อย่างไรก็ตามค่าดัชนีฯในไตรมาสที่1มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนอันเป็นผลมาจากหลายปัจจัยสำคัญไม่ว่าจะเป็นการชะลอคำสั่งซื้อของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯประกอบกับผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นจากคู่แข่งในตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งจากในและนอกประเทศส่งผลกระทบให้ยอดขายและคำสั่งซื้อมีการชะลอตัวลง

นอกจากนี้ยังมีปัญหาภัยแล้งในบางพื้นที่ทำให้ผลผลิตบางชนิดออกมาได้น้อยโดยเฉพาะผลผลิตข้าวนาปรังและอ้อยส่งผลกระทบให้รายได้ของเกษตรกรกลุ่มนี้ชะลอตัวลง
        
สำหรับดัชนีSSIในอีก3เดือนข้างหน้าผู้ประกอบการStartupมีมุมมองต่อภาวะธุรกิจStartupในภาพรวมดีขึ้นอยู่ที่ระดับ67.52โดยคาดหวังว่าหากการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จลุล่วงด้วยดีจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจของประเทศปรับตัวดีขึ้นอย่างไรก็ตามผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯซึ่งหากการเจรจาการค้าไม่ประสบผลสำเร็จจะส่งผลกระทบต่อยอดขายและคำสั่งซื้อของสินค้าหลายประเภทแต่ในทางกลับกันสินค้าไทยบางประเภทอาจได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯเพื่อทดแทนการซื้อจากจีนรวมถึงยังอาจได้รับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตของจีนและสหรัฐฯเช่นกันนอกจากนี้ไตรมาสที่2เป็นช่วงที่มีวันหยุดเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่จะส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
          
ทั้งนี้ผู้ประกอบการโดยรวมยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสืบเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดไตรมาสที่1ซึ่งส่งผลให้ค่าเชื้อเพลิงค่าไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อพิจารณาในแต่ละภาคธุรกิจได้แก่อุตสาหกรรมการผลิตการเกษตรการค้าและบริการดัชนีฯอยู่ที่ระดับ53.08-61.16แสดงถึงผู้ประกอบการStartupยังคงมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางธุรกิจโดยรวม(สูงกว่าค่ากลางที่ระดับ50)โดยดัชนีSSIในภาคการเกษตรอยู่ที่ระดับ61.16สูงที่สุดในทุกภาคธุรกิจเนื่องจากเข้าสู่ต้นฤดูกาลของผลไม้ที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเช่นมะม่วงทุเรียนและมังคุดซึ่งในไตรมาสแรกนี้ผลไม้ดังกล่าวได้ผลผลิตดีส่งผลให้รายได้ภาคเกษตรในกลุ่มนี้เพิ่มสูงขึ้นประกอบกับผู้ประกอบการภาคเกษตรบางส่วนมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเพาะปลูกและการผลิตเพิ่มขึ้นทำให้สามารถบริหารจัดการผลผลิตและพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้คุณภาพและมีมาตรฐานเพิ่มขึ้น
        
อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการStartupยังคงมีข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจโดยเฉพาะปัญหาภัยแล้งที่ทำให้ผลผลิตบางชนิดออกมาได้น้อยเช่นข้าวนาปรังและอ้อยอีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องโรคระบาดในสัตว์และแมลงศัตรูพืชสำหรับผู้ประกอบการstartupในธุรกิจท่องเที่ยวยังเผชิญกับการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีนและแนวโน้มนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เปลี่ยนจุดหมายจากการเที่ยวในประเทศเป็นการเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาถูกลงส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคาเพื่อแย่งชิงนักท่องเที่ยวกันเพิ่มขึ้นนอกจากนี้ปัญหาด้านอุปทานที่มีการแข่งขันกันมากขึ้นในช่องทางออนไลน์และปัญหาขาดแคลนบุคลากรที่มีฝีมือซึ่งมีต้นทุนค่าจ้างที่สูงยังคงเป็นข้อจำกัดที่สำคัญอีกประการของผู้ประกอบการที่เป็นTechStartup
          
ทั้งนี้ศูนย์วิจัยฯมองว่ายังมีประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังติดตามคือปัจจัยทางด้านต้นทุนของผู้ประกอบการStartupที่ยังอยู่ในระดับสูงทั้งค่าจ้างแรงงานผู้มีทักษะเฉพาะทางค่าเชื้อเพลิงและวัสดุอุปกรณ์นอกจากนี้ผู้ประกอบการStartupยังคงต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนในด้านเงินทุนโดยมีเงื่อนไขการกู้ยืมที่ยืดหยุ่นโดยให้พิจารณาคำสั่งซื้อหรือผลิตภัณฑ์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้และมีการผ่อนปรนการชำระหนี้เมื่อประสบปัญหารวมถึงการร่วมลงทุนเพื่อขยายธุรกิจและลงทุนเพิ่มเติมในด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์อีกทั้งสนับสนุนด้านการหาตลาดและเพิ่มความรู้ด้านการลงทุนการส่งออกการขยายธุรกิจภาษีตลอดจนด้านเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น

LastUpdate 13/05/2562 10:09:27 โดย : Admin
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 4:57 am