เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ผู้ว่าฯ ธปท.รับสงครามการค้าฉุดเศรษฐกิจ


ผู้ว่าการธปท.รับสงครามการค้าฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยและการส่งออก เตรียมหั่นเป้าจีดีพีเดือนมิ.ย.นี้  มองบาทยังผันผวนจากปัจจัยภายนอก ย้ำไทยไม่มีนโยบายแทรกแซงค่าเงินบาทเพื่อประโยชน์ทางการค้า         

 
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ยอมรับว่าการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้มีแนวโน้มต่ำกว่าที่ประเมินไว้ เพราะสงครามการค้าจีนกับสหรัฐยืดเยื้อและรุนแรงกว่าที่คาด ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุน โดยธปท.เตรียมปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลงจากปัจจุบันที่ 3.8% และการส่งออกจากปัจจุบันที่ 3% ภายในเดือนมิถุนายนนี้ นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศที่ยังเป็นปัจจัยกดดันต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
          
ด้านสถานการณ์ค่าเงินบาท ยอมรับว่าค่าเงินมีความผันผวนและมีความไม่แน่นอนสูง โดยมีปัจจัยจากภายนอกประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะสงครามการค้าสร้างความไม่แน่นอนส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ ดัชนีหุ้น ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งยืนยันว่าการบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการและภาคธุรกิจจะต้องดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ
          
ผู้ว่าฯธปท.ยังระบุถึงกรณีที่สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เดือนเมษายนลดลงเพราะมาตรการควบคุมของธปท.ว่าเป็นเรื่องปกติเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงจะต้องมีผลกระทบ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สมเหตุสมผลและจะส่งผลดีในอนาคต เพราะจะสามารถลดความร้อนแรงในการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อเก็งกำไร อย่างไรก็ตามธปท.จะประเมินการดำเนินงานอีกครั้งว่ามีผลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างไร
          
สำหรับกรณีที่สหรัฐเตรียมประกาศรายชื่อประเทศที่จะต้องเฝ้าระวังเรื่องการแทรกแซงค่าเงินเพิ่มขึ้นเป็น 20 - 25 ประเทศ จากปัจจุบัน13 ประเทศนั้น ยืนยันว่าไทยไม่มีนโยบายแทรกแซงค่าเงินเพื่อให้ได้ประโยชน์ทางการค้า ทั้งนี้นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนก แม้ไทยจะเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับที่สูง เกินดุลการค้ากับสหรัฐ แต่ไม่ได้เป็นผลจากการแทรกแซงค่าเงิน และยืนยันว่าหากมีรายชื่อติดอยู่จะไม่มีผลอะไรกับการดำเนินนโยบายทางการเงินแน่นอน




 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 พ.ค. 2562 เวลา : 16:34:07
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 1:19 am