เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
หมดโปรโมชั่นบ้านดอกเบี้ยต่ำไม่จำเป็น"รีไฟแนนซ์"...หวั่นได้ไม่คุ้มเสีย


ปกติแต่ละแบงก์มักนำเสนอโปรโมชั่นของสินเชื่อบ้านอยู่แล้ว โดยเฉพาะลูกค้ารายใหม่อย่างคุณ ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยต่ำหรือเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ในช่วงปีแรกๆเพื่อจูงใจให้คุณกู้เงินกับแบงก์นั้นๆแต่พอหมดช่วงโปรโมชั่น อัตราดอกเบี้ยที่เหลือคุณก็ต้องชำระในอัตราที่ปรับสูงขึ้นเรื่อยๆตามเงื่อนไขที่กำหนด


ทำให้หลายๆคนมองหาแนวทางประหยัดค่าดอกเบี้ยด้วยการพยายามผ่อนชำระหนี้สินให้หมดไปเร็วๆโดยนำเอาโบนัส หรือเงินเดือนจากการทำงานมาจ่ายเพิ่มขึ้น ในแต่ละงวดเพื่อลดต้นลดภาระดอกเบี้ยให้ได้มากที่สุด

วันนี้"มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯ”ขอแนะนำให้ลองพิจารณาเรื่อง การรีไฟแนนซ์ซึ่งเป็นการกู้เงินก้อนใหม่ เพื่อไปโปะหนี้ก้อนเก่า เพื่อลดภาระการผ่อนชำระโดยมีสินทรัพย์หรือบ้านของคุณหลังเดิมนั่นแหละเป็นตัวค้ำประกัน

“ที่สำคัญคือคุณต้องพยายามหาเงื่อนไขการให้กู้ยืมที่ดีกว่าเดิม เช่น ดอกเบี้ยลดลง จำนวนเงินผ่อนต่อเดือนลดลง หรือระยะเวลาผ่อนนานขึ้น”

ทั้งนี้โดยทั่วไปแบงก์จะมีเงื่อนไขให้รีไฟแนนซ์ได้หลังจากผ่อนบ้านไปแล้วเป็นเวลากี่ปีซึ่งจะระบุไว้ให้ในสัญญากู้ เช่น ผ่อนชำระมาแล้วอย่างน้อย 3-5 ปี เป็นต้น

ดังนั้นถ้าจะให้ดีลองทำตาม“3 ขั้นตอน รีไฟแนนซ์อย่างไรให้มีกำไรคุ้มค่า”ก่อนตัดสินใจเลือกแบงก์ขอกู้ซื้อบ้านดังนี้

ก่อนอื่นคุณต้องเริ่มจากการ เปรียบเทียบเงื่อนไขของแบงก์ต่างๆเนื่องจากกฎเกณฑ์ของแต่ละแบงก์ไม่เหมือนกัน โดยประเด็นหลักๆที่คุณต้องพิจารณาคือ อัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสินเชื่อที่จะรีไฟแนนซ์ โดยจะต้องต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยตลอดสินเชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งเงื่อนไขเรื่องจำนวนเงินผ่อนต่องวดที่ลดลงและระยะเวลาการผ่อนชำระที่นานขึ้น เพื่อคำนวณว่าจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้คุณได้มากขนาดไหน

เมื่อคุณเปรียบเทียบเงื่อนไขของแบงก์ต่างๆของแต่ละแบงก์แล้ว คุณต้องทำการสำรวจค่าใช้จ่ายอื่นๆเพราะการ         รีไฟแนนซ์ก็คล้ายกับการขอสินเชื่อใหม่ ดังนั้นคุณก็จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในกระบวนการต่างๆไม่ว่าจะเป็นการจดจำนองหลักประกัน1% ของวงเงินกู้ การประเมินมูลค่าหลักประกัน การทำประกันอัคคีภัย ซึ่งหลายๆแบงก์มักจะยื่นข้อเสนอประเภทฟรีค่าธรรมเนียมต่างๆ เพื่อจูงใจให้ตัดสินใจเลือกรีไฟแนนซ์ด้วย

ที่สำคัญคือคุณต้องตรวจสอบเงื่อนไขการไถ่ถอนสินเชื่อจากแบงก์เดิมด้วยว่ากำหนดให้สามารถรีไฟแนนซ์ได้ตั้งแต่ปีที่เท่าไรของการกู้ เพราะถ้าผิดเงื่อนไขคุณจะต้องจ่ายค่าปรับการไถ่ถอนก่อนกำหนดด้วย

และขั้นตอนสุดท้ายคุณจะตัดสินใจว่าจะรีไฟแนนซ์หรือไม่เพราะหลังจากคุณได้ข้อมูลแหล่งเงินกู้ที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดแล้ว คุณก็ควรต้องวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจ โดยนำค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาเปรียบเทียบกับจำนวนดอกเบี้ยทั้งหมด ที่คุณจะประหยัดไปได้ หากคุณดูแล้วคุ้มค่าต่อการรีไฟแนนซ์ก็ติดต่อแบงก์และดำเนินการตามขั้นตอนได้เลย

หรือถ้าต้องการวงเงินสินเชื่อรีไฟแนนซ์สูงกว่ายอดสินเชื่อคงเหลือเดิม ให้ลองยื่นเอกสารกับธนาคารเป้าหมายอย่างน้อย 3 แห่งขึ้นไป จบากนั้นเลือกรีไฟแนนซ์กับธนาคารที่ให้วงเงินสูงที่สุด ภายใต้เงื่อนไขการผ่อนชำระและค่าธรรมเนียมที่ใกล้เคียงกัน

หลังจากผ่อนบ้านจนครบกำหนดเวลาขั้นต่ำตามสัญญาเงินกู้แล้ว เรามีโอกาสและมีสิทธิในการตัดสินใจในเรื่องการรีไฟแนนซ์

อย่างไรก็ตามคุณต้องเปรียบเทียบรายละเอียดเงื่อนไขต่างๆให้ดี เพราะไม่ได้มีแค่เรื่องของดอกเบี้ยที่ถูกลงเท่านั้น ยังมีเรื่องค่าธรรมเนียมต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งคุณจะต้องคำนวณความคุ้มค่าก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

แต่ถ้าคำนวณแล้วเงินที่ประหยัดดอกเบี้ยไปไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียเวลาก็ควรเลือกชำระเงินกู้กับธนาคารเดิมจนหมดสัญญาดีกว่า

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 พ.ค. 2562 เวลา : 22:18:49
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 12:49 am