เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
คาดFedลดดอกเบี้ย หนุนฟันด์โฟลว์ไหลเข้า ระวังบาทผันผวนหนัก


TMBคาดใกล้ถึงเวลาเฟดลดดอกเบี้ย อาจทำให้ฟันด์โฟลว์ไหลเข้าตลาดไทยและตลาดเกิดใหม่เพิ่มขึ้น ย้ำระวังเงินบาทผันผวน เหตุจากความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย ผลจากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้นจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรง ความเชื่อมั่นนักลงทุนที่ลดลงสะท้อนจากบอนด์ยีลด์ตัวยาวสหรัฐที่ลดต่ำมากในขณะที่อัตราเงินเฟ้อก็ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายต่อเนื่อง

จากภาวะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศคู่ค้าไม่ว่าจะเป็น จีน เม็กซิโก ยุโรปและญี่ปุ่น ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันที่มีชื่อเสียงอย่างJPMorgan และ Morgan Stanley แสดงความกังวลว่าหากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย โอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่สภาวะถดถอยภายในช่วงหลังของปีจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหากพิจารณาดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อการผลิต (manufacturing PMI)ของหลายๆประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจะเห็นว่าPMIของสหรัฐฯที่อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี ในขณะที่ PMI ของจีน เยอรมนี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักรและออสเตรเลียเริ่มชะลอหรือหดตัวลงแล้ว

ล่าสุดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีนปะทุขึ้นอีกครั้งมีการตอบโต้ทางภาษีกันไปมาและลุกลามไปถึงสงครามเย็นทางด้านเทคโนโลยี(Tech Cold War) โดยความขัดแย้งไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับจีนแต่ยังลามไปถึงประเทศคู่ค้าอันดับสองอย่างเม็กซิโกด้วย โดยสหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้า5%จากเม็กซิโกอย่างคาดไม่ถึงและขู่เพิ่มเป็น 25% ในเดือนตุลาคม หากรัฐบาลเม็กซิโกไม่สามารถจัดการผู้อพยพที่ผิดกฎหมายจากเม็กซิโกได้ นอกจากนี้ยังมีสงครามการค้ากับยุโรปและญี่ปุ่นโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เพิ่งถูกเลื่อนการขึ้นภาษีออกไปที่ต้องจับตาดูต่อ

ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนทั่วโลกรวมถึงของเศรษฐกิจสหรัฐฯเองด้วย โดยสะท้อนจากบอนด์ยีลด์สหรัฐที่อัตราผลตอบแทนระยะยาวลดลงจนต่ำกว่าระยะสั้น หรือที่เรียกว่า เส้นอัตราผลตอบแทนกลับด้าน (Inverted yield curve)ที่ในอดีตเป็นตัวบ่งชี้ที่ค่อนข้างแม่นยำของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอีก 1-2 ปีข้างหน้า จากข้อมูลตั้งแต่ปี 1976 เหตุการณ์เส้นอัตราผลตอบแทนกลับด้าน คืออัตราผลตอบแทนระยะ 10 ปี ต่ำกว่าระยะ 3 เดือน สามารถทายภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ถูกต้องกว่า 83% หรือทายถูก 5 ครั้งจาก 6 ครั้ง โดยผลต่างอัตราผลตอบแทนระยะ 10 ปี กับ 3 เดือน ติดลบเป็นเวลา 207 วัน เฉลี่ยประมาณ 68 basis point โดยล่าสุดแม้ทรัมป์ยังไม่ได้ประกาศทำสงครามการค้าอย่างเต็มรูปแบบกับอีกหลายๆคู่ค้าแต่เส้นอัตราผลตอบแทนกลับติดลบแล้วถึง 14 วันและติดลบต่ำสุดถึง 28 basis point ซึ่งหากสงครามการค้ารุนแรงกว่านี้ ก็จะทำให้ผลต่างอัตราผลตอบแทนติดลบหนักขึ้น สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุนที่แย่ลง

นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% ของเฟดต่อเนื่องตั้งแต่ตุลาคมปี 2018 ซึ่งล่าสุดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน PCE ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของ Fed ในเดือนเมษายนอยู่ที่เพียง 1.6% ลดลงจากเฉลี่ยปี 2018 ที่ 1.9% ซึ่ง Fed อธิบายว่ามาจากปัจจัยชั่วคราว สวนทางกับตลาดที่มองว่าเงินเฟ้อจะไม่กลับเข้าสู่เป้าหมายในระยะเวลาอันใกล้นี้

ดังนั้นTMB Analytics มองว่าFedอาจมีความจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในปี 2019 นี้ สอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์ หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐชุดปัจจุบันที่บอกว่ามีความเป็นไปได้ที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้ ซึ่งหากเฟดลดดอกเบี้ยจริงอาจทำให้มีฟันด์โฟลว์จากต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่รวมทั้ง

ตลาดเงินตลาดทุนในประเทศไทยมากขึ้นแต่จะมีความผันผวนสูงขึ้นนักลงทุนจึงควรติดตามท่าทีของFedอย่างใกล้ชิดและมีความเตรียมพร้อมอยู่เสมอ
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 มิ.ย. 2562 เวลา : 16:39:49
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 1:25 am