“ซูเปอร์มาร์เก็ต”ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัวเห็นได้จากยอดขายของ“ฟู้ดแลนด์”หนึ่งในผู้ประกอบการซูเปอร์มาร์เก็ตของไทยที่มียอดขายลดลง 3-4% ในปี2561ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคหันมาประหยัดและเน้นการจับจ่ายใช้สอยเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
นอกจากนี้การที่พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก คือเน้นความสะดวกสบายมากขึ้นและการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งบริการที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้หลายธุรกิจได้รับผลกระทบจากบริการดังกล่าวเช่นเดียวกับธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต
จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้“ฟู้ดแลนด์”ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจเริ่มจากแผนการขยายสาขาใหม่ต่อปี ซึ่งก่อนหน้านี้นายสมศักดิ์ ตีระพัฒนกุล ประธาน บริษัท ฟู้ดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัดได้เคยออกมาประกาศว่าจะรุกหนักกับการขยายสาขาฟู้ดแลนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตปีละไม่ต่ำกว่า 4-5 สาขาแต่หลังจากเจอพิษเศรษฐกิจชะลอตัวกำลังซื้อของผู้บริโภคมีความผันผวน ทำให้“ฟู้ดแลนด์”ต้องปรับแผนหันมาขยายร้านใหม่เพียง 1-2 สาขาต่อปีเท่านั้น
ขณะเดียวกัน“ฟู้ดแลนด์”ยังมีแผนที่จะลดขนาดของหน้าร้านให้มีขนาดเล็กลง เนื่องจากปัจจุบันที่ดินหายากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบัน"ฟู้ดแลนด์”ยังมีที่ดินขนาดใหญ่ประมาณ 10 ไร่ในกรุงเทพฯอีกจำนวน 3 แปลง เพื่อนำมาพัฒนาเปิดฟู้ดแลนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตแต่เนื่องจากที่ดินมีขนาดใหญ่กว่าที่จะเปิดให้บริการซูเปอร์มาร์เก็ตเพียงอย่างเดียว “ฟู้ดแลนด์”จึงมีแผนที่จะจับมือร่วมกับพันธมิตรผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงอย่างคอนโดมิเนียมในที่ดินผืนดังกล่าวควบคู่กันไป
นายอธิพล ตรีระสงกรานต์ ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บริษัทฟู้ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด กล่าวว่าแผนการขยายสาขาฟู้ดแลนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตนับจากนี้บริษัทยังคงเน้นหลักการที่โลเคชั่นดี ดังนั้นการขยายสาขาฟู้ดแลนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตนับจากนี้ บริษัทจึงจะเน้นจับมือไปกับคอมมูนิตี้มอลล์เป็นหลัก จากเดิมจะเน้นทั้งการเปิดเองแบบ Stand Alone และจับมือกับพันธมิตรศูนย์การค้าขยายธุรกิจควบคู่กันไป
เหตุผลที่ทำให้“ฟู้ดแลนด์”ตัดสินใจขยายซูเปอร์มาร์เก็ตควบคู่ไปกับผู้ประกอบการห้างค้าปลีก ปัจจัยหลักน่าจะมาจากห้างค้าปลีกดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าหรือคอมมูนิตี้มอลล์ ล้วนแต่เป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่จึงทำให้มีทราฟฟิคจำนวนมากเข้ามาใช้บริการอยู่แล้ว“ฟู้ดแลนด์”จึงไม่ต้องทำการตลาดมากเหมือนกับการเปิดสาขา Stand Alone ที่นอกจากต้นทุนในการขยายสาขาจะสูงแล้วยังต้องคาดหวังยอดขายให้ได้วันละประมาณ 6 แสนบาทจึงจะครอบคลุมต้นทุนที่ลงไป
นายอธิพล กล่าวต่อว่าถึงบริษัทจะเปิดร้านฟู้ดแลนด์น้อยลงแต่สินค้าและบริการต่างๆที่เป็นจุดเด่นของฟู้ดแลนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตยังคงเหมือนเดิม คือ มีคุณภาพและเน้นให้บริการลูกค้าเหมือนคนในครอบครัว เพราะถึงแม้เทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยมากแค่ไหนแต่ลูกค้าก็ยังต้องการปฏิสัมพันธ์อยู่ดี
พร้อมกันนี้“ฟู้ดแลนด์“ยังจะเตรียมทำอาหารพร้อมรับประทาน(Ready to Eat) เช่น อาหารประเภทแกงและหมูตุ๋นไว้คอยบริการลูกค้า เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคต้องการความสะดวกมากขึ้น การพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันจึงถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้“ฟู้ดแลนด์”ยังมีแผนที่จะนำ“ร้านถูกและดี”ขยายออกไปนอกฟู้ดแลนด์ซูเปอร์มาร์เก็ต เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและมียอดขายเติบโตในทิศทางที่ดีสวนกระแสภาพรวมยอดขายซูเปอร์มาร์เก็ตเพราะปัจจุบันผู้บริโภคหันมารับประทานอาหารพร้อมทานมากขึ้น จึงทำให้“ฟู้ดแลนด์”เล็งเห็นโอกาสในธุรกิจดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้น“ฟู้ดแลนด์”จะนำร้านถูกและดีเข้าไปเปิดให้บริการในทำเลที่มีคนอาศัยจำนวนมากก่อน เช่น คอนโดมิเนียม โดยในต้นปี 2563 “ฟู้ดแลนด์”คาดว่าจะเปิดให้บริการร้านถูกและดีนอกฟู้ดแลนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตได้พร้อมกัน 3 สาขารวด
อย่างไรก็ดีโมเดลใหม่ของร้านถูกและดีที่จะเริ่มเปิดให้บริการในปีหน้านั้น นายอธิพล กล่าวว่า อาจเปิดให้บริการไม่ตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนกับสาขาที่อยู่ภายในฟู้ดแลนด์ซูเปอร์มาร์เก็ต เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายด้านไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการหรือวัตถุดิบ ดังนั้นจึงอาจมีการเปลี่ยนชื่อร้านจากถูกและดีเป็นชื่ออื่นโดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการวางแผนการตลาด
นายอธิพล กล่าวอีกว่าก่อนหน้านี้ได้มีการนำร้านถูกและดี โมเดลเล็กไปเปิดที่ประเทศสิงคโปร์ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแต่บริษัทไม่ได้ทำเองใช้วิธีการร่วมทุนและให้สิทธิ์กับเจ้าของร้านฮอกเกอร์ชาน (Hawker CHAN) ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านร้านอาหารในไทยเป็นผู้ดำเนินการเปิดร้านถูกและดีที่ประเทศสิงคโปร์ โดยบริษัทได้ขายสูตรอาหารขายเมนูละ 4-5 เหรียญสิงคโปร์หรือประมาณ 90 - 100 บาทต่อจาน
นอกจากจะมุ่งเน้นในเรื่องการปรับลดการเปิดสาขาใหม่และมุ่งเน้นการขยายร้านถูกและดีแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา”ฟู้ดแลนด์”ยังได้มีการเปิดแอพ“Foodland 366 Reward”สำหรับสะสมคะแนนเพื่อแลกของพรีเมี่ยม เพื่อช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยเริ่มทำงานเนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีการเก็บข้อมูลของลูกค้า หลังจากนี้จะเข้าใจมากขึ้นมียอดDownloads แล้ว1แสนราย คาดสิ้นปี2562จะมียอดDownloadsทะลุ 1.5 - 1.6 แสนราย
หลังจากเดินหน้าปรับกลยุทธ์ทำการตลาดใหม่“ฟู้ดแลนด์”มั่นใจว่าสิ้นปี 2562 นี้ภาพรวมยอดขายจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปี 2561 ที่มีรายได้จากธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ที่ประมาณ 5,800 ล้านบาท ด้วยการมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 6,200 ล้านบาท
ส่วนยอดขาย“ร้านถูกและดี”ในสิ้นปี 2562นี้คาดว่าจะอยู่ที่ 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561ที่มีรายได้อยู่ที่กว่า 650 ล้านบาทและเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มียอดขายอยู่ที่ประมาณ590 ล้านบาท เนื่องจากมีทั้งอาหารไทยและตะวันตกราคาตั้งแต่70 - 300 บาท ไว้คอยบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากจะมีธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตและธุรกิจร้านอาหารอย่างร้านถูกและดีแล้ว ปัจจุบัน“ฟู้ดแลนด์”ยังมีร้านอาหารในเครือที่รับสิทธื์แฟรนไชส์มาจากต่างประเทศอีก4แบรนด์ได้แก่ ร้านทิมโฮวาน (Tim Ho Wan) ปัจจุบันมี 4 สาขา, ร้านฮอกเกอร์ชาน (Hawker CHAN)ปัจจุบันมี 2 สาขา, ร้านทงคตสึคะซังราเมน (Tonkotsu kazan ramen) ปัจจุบันมี 3 สาขาและร้านมิสเตอร์พิซซ่า (Mr.Pizza) ปัจจุบันมี 1 สาขา ซึ่งทั้ง 4 แบรนด์ยังไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่มเติม
ข่าวเด่น