การตลาด
สกู๊ป ตลาดนาฬิกาฟื้น"สยามพารากอน "ปลุก"วอทช์ เอ็กซ์โป"ชิงยอดขาย


เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งสำหรับตลาดนาฬิกาในปี 2562 หลังจากเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับการเมืองของไทยเริ่มนิ่ง ภายหลังได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ส่งผลให้ผู้บริโภคและนักลงทุนมีความเชื่อมั่นที่จะออกมาลงทุนและจับจ่ายใช้สอยกันมาขึ้น ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวคาดว่าภาพรวมกำลังซื้อในครึ่งปีหลังนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน


สำหรับภาพรวมตลาดนาฬิกาในปี 2562 นี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 3% ซึ่งถือว่าดีกว่าปี 2561 ที่ตลาดรวมนาฬิกาค่อนข้างชะลอตัว ส่งผลให้มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 25,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนาฬิการะดับลักซ์ชัวรี่ ( ราคา 500,000 บาท ขึ้นไป) มีสัดส่วนตลาดอยู่ที่ประมาณ 20% กลุ่มนาฬิกาไฮเอนด์ ( ราคา 100,000 – 500,000 บาท) มีสัดส่วนตลาด 34.85% กลุ่มนาฬิกามิดเอนด์ ( ราคา20,000 – 100,000 บาท) มีสัดส่วนตลาด อยู่ที่ประมาณ 30.62% กลุ่มนาฬิกาแฟชั่นและเทรนด์ ( ราคา 5,000 – 20,000 บาท) มีสัดส่วนตลาด คิดเป็น 14.53% ซึ่งกลุ่มนาฬิกาที่มีการขยายตัวมากที่สุด คือ กลุ่มนาฬิกาแฟชั่นและเทรนด์ โดยเฉพาะนาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch) มีการเติบโตกว่า 10% จากเดิมจะมีอัตราการเติบโตเพียง 1.2% เท่านั้น เนื่องจากเป็นบนาฬิกาที่สามารถพกติดตัวได้ตลอดเวลา

 
 
 
จากการขยายตัวที่ดีขึ้นของตลาดนาฬิกา ส่งผลให้บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เล็งเห็นโอกาสในการกระตุ้นยอดขายกลุ่มสินค้านาฬิกา ด้วยการจัดงาน “สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2019 “ ซึ่งจะจัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “THE RHYTHM OF TIMEPIECES” รวบรวมความสุดยอดของประดิษฐกรรมแห่งเรือนเวลาจากทั่วโลกกว่า 180 แบรนด์ชั้นนำ รวมกว่า 30,000 เรือน มาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงาน

ในส่วนของการจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการจัดงานปีที่ 13 และมีการอัพเดทเทรนด์นาฬิกาที่ส่งตรงมาจากงานบาเซิล เวิลด์ ผ่านการจัดงานนิทรรศการแสดงเรื่องราวความเป็นมาอันทรงคุณค่าของเรือนเวลาแบรนด์ต่างๆ ที่จะมอบประสบการณ์และความรู้แก่วอทช์ เลิฟเวอร์ โดยการเนรมิตพื้นที่บริเวณ ฮอลล์ ออฟ เฟม, คริสตัล คอร์ท แผนกนาฬิกา พารากอนดีพารท์เมนต์สโตร์ ชั้น M และแฟชั่น ฮอลล์, แฟชั่น แกลเลอรี่, สตาร์โดม, เมน ฮอลล์ 2 ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เป็นสถานที่จัดแสดงนาฬิกาครั้งยิ่งใหญ่ โดยงานดังกล่าวจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 9 ก.ค. – 7 ส.ค. 2562

ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดงาน “สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2019 “ เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทั้ง 2 บริษัท จึงได้มีการทุ่มงบประมาณกว่า 45 ล้านบาท ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นให้ยอดขายภายในงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

 
 
 
 
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การจัดงาน “สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2019 “ ในปีนี้คาดว่านาฬิกาแบรนด์หรู และนาฬิการุ่นลิมิเต็ด หรือรุ่นพิเศษฉลองครบรอบต่างๆ ในกลุ่มไฮเอนด์จะยังคงมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Franck Muller, Breitling, Hublot, Ulysse Nardin หรือ Nomos Glashütte เนื่องจากสินค้ายังเป็นที่ต้องการของตลาดนักสะสม และกลุ่มคนที่ชอบนาฬิการุ่นพิเศษ

สำหรับพื้นที่การจัดงานในส่วนของ “วอทช์ แกลอเรีย (WATCH GALLERIA) นั้น จะเป็น NO.1 OF WATCH DESTINATION ของคนรักนาฬิกาอย่างแท้จริง ด้วยการรวบรวมนาฬิกาแบรนด์ดังทั่วทุกมุมโลกมากที่สุดกว่า 100 แบรนด์ รวมกว่า 10,000 เรือน บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ครอบคลุม 9 สาขาพร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่มรวมถึงนักสะสมนาฬิกา โดยการจัดกลุ่มนาฬิกาเป็น 5 คาแรคเตอร์ ได้แก่ LUXE, MODERN, ADVENTURE, SIMPLIFY และ FUN

นอกเหนือจากแบรนด์นาฬิกาครบครันที่สุดอย่างเต็มรูปแบบ ภายใน WATCH GALLERIA ยังรวบรวมนาฬิกาคอลเลคชั่นล่าสุดไปจนถึงคอลเลคชั่นเอ็กซ์คลูซีฟที่หายากส่งตรงจากงาน Basel World และ SIHH ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของงานนาฬิการะดับโลก เพื่อให้ลูกค้าได้ครอบครองนาฬิกาเรือนพิเศษก่อนใคร

นอกจากนี้ ยังมี POP UP จากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำส่งตรงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อาทิ GUCCI, LONGINES, GRAND SEIKO, CORUM, RADO และ FREDERIQUE CONSTANT เป็นต้น และเพื่อให้ยอดขายภายในงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เดอะมอลล์ กับสยามพารากอนฯ จึงได้มีการชู 3 กลยุทธ์ ในการผลักดันยอดขาย ประกอบด้วย 1. Smart watch ที่เพิ่มจำนวนแบรนด์และรุ่นออกสู่ตลาด โดยทาง WG จะขยายการจำหน่ายให้ครบทุกสาขาภายในQuarter4 เพื่อตอบรับกระแสการเติบโตของสินค้า segment นี้

2. Mid Luxe watch ที่ทาง WG จะขยายสาขา รวมถึงการนำรูปแบบ concept จากสวิสเซอร์แลนด์ ไปยังสาขาของเดอะมอลล์ เพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีกำลังซื้อที่อาศัยอยู่รอบเมือง และ 3. On line market ที่ทาง WG จะ Launch ร่วมกับ Lazada ในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งถือเป็น shop นาฬิกาแรกที่จะเปิดผ่านช่องทาง on line เป็นที่แรก ครั้งแรก โดยจะมีสินค้ากว่า 100 รายการ รวม 20 แบรนด์ มาจำหน่ายในช่วงเปิดตัว และจะเพิ่มเป็น 50 แบรนด์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าต่างจังหวัด ซึ่งหลังจากจบงานดังกล่าวคาดว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 360 ล้านบาท

ด้าน น.ส.ชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานกิจกรรมการตลาดและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า จากผลวิจัยของ BRANDZ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยทางการตลาดและสื่อสารการตลาดระดับโลก ระบุว่า ในปี 2562 ภาพรวมของตลาดแบรนด์ระดับ ลักซ์ชัวรี่ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 29% หรือมูลค่า 38,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.2 ล้านล้านบาท) ทำให้ตอนนี้มีมูลค่าตลาดรวม 171,300 ล้านเหรียญสหรัฐ (5.3 ล้านล้านบาท) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมนาฬิกานั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและยังคงเป็นไปในทิศทางบวก

ทั้งนี้ตัวเลขจากงานบาเซิล เวิลด์ ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่ามูลค่าการส่งออกนาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ มีมูลค่าถึง 2.1 หมื่นล้านฟรังก์สวิส หรือราว 6.7 แสนล้านบาท โดยมีตลาดเอเชียเป็นแกนนำหลัก ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 53% เพิ่มขึ้น 12.2% และฮ่องกงยังคงเติบโตเป็นอันดับต้นๆ ด้าน สหรัฐอเมริกา ยังมีส่วนสร้างให้ภาพรวมการเติบโตของธุรกิจดำเนินไปเป็นอย่างดีมีอัตราส่วน 14% ขณะที่ยุโรป ยังคงเป็นตลาดที่สำคัญ ด้วยอัตราส่วนทางการตลาด 31%

นอกจากนี้จากผลการวิจัยยังทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของหลายแบรนด์ที่มีการปรับดีไซน์รวมถึงราคาที่จับต้องได้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 ก.ค. 2562 เวลา : 13:11:45
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 3:23 pm