เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ซีอีโอแห่ยกระดับทักษะแรงงานในองค์กร


ซีอีโอทั่วโลกยกระดับทักษะแรงงานองค์กร หวังเสริมสร้างนวัตกรรม-ความไว้วางใจ


“ซีอีโอทั่วโลก”หันมาให้ความสำคัญ“การเพิ่มพูนทักษะใหม่”ให้แรงงาน หวังปิดช่องว่างทางทักษะ เร่งเสริมสร้างนวัตกรรม-ความไว้วางใจของสาธารณชน ชี้องค์กรไทยประสบปัญหานี้ ไม่ต่างจากทั่วโลกและหันมาลงทุนระบบบริหารทรัพยากรบุคคล พัฒนาทักษะแรงงานเดิมมากขึ้น เพื่อช่วยให้บุคลากรทำงานร่วมกับเทคโนโลยีได้โดยไร้รอยต่อ

บริษัท PwC ประเทศไทย เปิดเผยถึงรายงาน Talent Trends 2019: Upskilling for a Digital World ของ PwC ว่า 79% ของซีอีโอทั่วโลกที่ถูกสำรวจในปีนี้ แสดงความกังวลว่า การขาดแคลนทักษะแรงงานที่จำเป็นของพนักงานภายในองค์กรกำลังเป็นภัยคุกคามที่มีผลต่อการเติบโตขององค์กรในอนาคตเปรียบเทียบกับ63% ในปี 2557

นางสาว ภิรตา ภักดีสัตยพงศ์ หุ้นส่วนสายงานที่ปรึกษา บริษัท PwC ประเทศไทย ระบุนี่เป็นข้อยืนยันว่าความกังวลเกี่ยวกับทักษะได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

“ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ถือเป็นประเด็นความกังวลของผู้บริหารในทุกภูมิภาคทั่วโลก”

ตัวอย่างเช่น ซีอีโอจากญี่ปุ่น (95%) และยุโรปกลางและตะวันออก (89%) แสดงความกังวลในประเด็นนี้มากที่สุด ขณะที่ซีอีโอจากอิตาลี (55%) และตุรกี (45%) มีความกังวลเรื่องทักษะแรงงานน้อยที่สุด

อย่างไรก็ตาม 55% ของบรรดาซีอีโอที่มีความกังวลมากที่สุด กล่าวว่าธุรกิจของพวกเขาไม่สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆได้อย่างมีประสิทธิภาพและอีก 52% กล่าวว่าต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านแรงงานสูงขึ้นรวดเร็วกว่าที่คาดไว้

“การเพิ่มพูนทักษะใหม่และเสริมสร้างทักษะเดิมที่มีอยู่กลายเป็นวาระสำคัญของซีอีโอทั่วโลก”
หนุนอบรมทักษะเดิมที่มีอยู่-เพิ่มพูนทักษะใหม่ให้แรงงาน

ทั้งนี้ผลสำรวจพบว่าซีอีโอกำลังปรับเปลี่ยนวิธีปิดช่องว่างทางทักษะความสามารถให้กับแรงงานของตน โดยเกือบครึ่ง (46%) ของซีอีโอทั่วโลกกล่าวว่า การฝึกอบรมทักษะเดิมที่มีอยู่และการเพิ่มพูนทักษะใหม่ กลายเป็นโครงการความคิดริเริ่มที่มีความสำคัญที่สุดต่อการปิดช่องว่างทางทักษะ ตรงข้ามกันกับผู้บริหารเพียง 18% ที่กล่าวว่า จะว่าจ้างแรงงานที่มีทักษะจากภายนอกอุตสาหกรรมของตน

“ผลสำรวจปีนี้ยังตรงข้ามกับผลจากการสำรวจในปีที่ผ่านๆมา ที่ระบุว่าซีอีโอกำลังมองหาแรงงานที่มีทักษะจากกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและมีการจ้างแรงงานชั่วคราวจากภายนอก (Gig economy worker)”

ฝึกอบรมทักษะเดิมที่มีอยู่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

ด้านนางสาว แครอล สตับบิงส์ หัวหน้าร่วม สายงาน Global People & Organisation ของ PwC สหราชอาณาจักร กล่าวว่า แม้การฝึกอบรมทักษะเดิมที่มีอยู่ให้กับพนักงานต้องอาศัยการลงทุนแต่เทียบกับทางเลือกอื่นๆ เช่น การจ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงานที่ถูกปลดและต้นทุนในว่าการเฟ้นหาพนักงานใหม่ ที่มีทักษะที่กำลังเป็นที่ต้องการ มองว่า การฝึกอบรมทักษะเดิมที่มีอยู่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า
 
พนักงานสนใจการปรับปรุงทักษะเดิม

ทั้งนี้การให้ความสำคัญกับการปรับปรุงทักษะเดิมที่มีอยู่ของพนักงาน ยังเป็นที่ต้องการของพนักงานด้วย โดยผลจากการสำรวจพนักงานทั่วโลกกว่า 12,000 ราย พบว่าพนักงานยินดีที่จะใช้เวลา 2 วันต่อเดือนในการเข้าฝึกอบรม เพื่อยกระดับทักษะทางด้านดิจิทัลของตนจากนายจ้างปรับสมดุล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงานและสร้างความไว้วางใจ

นอกจากนี้ผลสำรวจยังชี้ว่าการหันมาให้ความสำคัญกับการเพิ่มพูนทักษะใหม่ เกิดขึ้นหลังจากการเพิ่มขึ้นของการใช้ระบบออโตเมชันและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (Artificial Intelligence: AI) แม้ว่าเทคโนโลยีเกิดใหม่เหล่านี้จะเข้ามาแทนที่พนักงานบางตำแหน่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความคิดเห็นของซีอีโอกลับแตกต่างกันไปตามขนาดและความรวดเร็วของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นๆ

ทั้งนี้สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนที่พบจากผลสำรวจ คือ การลงทุนในการเพิ่มพูนทักษะด้านดิจิทัลนั้น เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสิ่งที่จำเป็นต่อการสร้างแรงงานในอนาคต (Workforce of the future) เพราะการจะทำให้พนักงานมีส่วนร่วมในการมีทักษะใหม่ๆต้องอาศัยการมีวัฒนธรรมการเรียนรู้ขององค์กรที่แข็งแกร่ง ที่ถูกผนวกเข้าไปกับสถานที่ทำงานที่มีคุณภาพสูงอย่างแยกออกจากกันไม่ได้

“นายจ้างต้องเติมเต็มความต้องการของการสร้าง ‘ผลงานที่ดี’ ให้เพิ่มขึ้น โดยต้องสร้างประสบการณ์ที่เติมเต็มและมีคุณค่าสูงให้กับพนักงาน แม้เทคโนโลยีจะนำมาซึ่งโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพและการบริหารต้นทุน แต่ก็นำมาซึ่งโอกาสในการทำให้ชีวิตการทำงานมีคุณค่าและมีความหมายมากขึ้นด้วย” นางสาวแครอล กล่าว

องค์กรสร้างผลงานได้ดีควรมีข้อมูลแรงงาน

ดังนั้นการที่องค์กรจะสร้างผลงานที่ดีได้ต้องมีข้อมูลที่เกี่ยวกับแรงงานที่มีคุณภาพสูง โดยขณะที่ 86%ของซีอีโอ กล่าวว่า ข้อมูลของคนที่ถูกต้องมีความสำคัญ แต่ผลสำรวจพบว่ามีเพียง 29%ที่เชื่อว่าข้อมูลที่พวกเขาได้รับในปัจจุบันเพียงพอแล้ว

นอกจากนี้ซีอีโอยังตระหนักว่าผลกระทบของระบบออโตเมชันต่อแรงงานภายในองค์กร จะมีผลต่อการสร้างความไว้วางใจของสาธารณชน

“โดยครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่า การขาดความไว้วางใจในธุรกิจ ถือเป็นภัยคุกคามต่อการเติบโตขององค์กรและพวกเขารู้ว่า วิธีที่พวกเขาใช้จัดการกับระบบออโตเมชันจะเป็นบททดสอบความไว้วางใจของสาธารณชน”

จี้รัฐควรคุ้มครองพนง.ที่ถูกเทคโนโลยี่แทนที่

ในประเด็นนี้ซีอีโอยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันถึงความรับผิดชอบต่อการถูกแทนที่ด้วยระบบออโตเมชันและเอไอของพนักงานว่าควรตกเป็นของใคร โดย 66%ของซีอีโอเชื่อว่า รัฐบาลควรจัดให้มีสิ่งจูงใจเพื่อให้เกิดการพัฒนาและใช้เอไอ ในขณะที่ 56% คิดว่ารัฐบาลควรจัดให้มีมาตรการคุ้มครองพนักงานที่ถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี ซึ่งประเด็นนี้ยังมีข้อที่ต้องถกเถียงอีกมาก

ด้าน นายภูชาน เสธิ หัวหน้าร่วม สายงาน Global People & Organisation PwC สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า รูปแบบของสถานที่ทำงานกำลังถูกปรับเปลี่ยนไปจากรูปแบบเดิมๆที่มีอยู่มานานหลายสิบปีและกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงอย่างทันทีทันใด โดยไม่มีจุดสิ้นสุดที่แน่นอน

คำแนะนำ 5 ข้อสำหรับซีอีโอ

ดังนั้นองค์กรจะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายในการเดินไปสู่ความสำเร็จ รวมถึงการสร้างและคงไว้ซึ่งความไว้วางใจ อันจะเป็นกุญแจสำคัญทั้งต่อตัวพนักงานเองและภาครัฐ รวมไปถึงสังคมโดยรวมด้วย

อย่างไรก็ตาม คำแนะนำ 5 ข้อสำหรับซีอีโอ ได้แก่ 1.ปรับปรุงการวิเคราะห์ข้อมูลของพนักงาน 2.ผู้นำธุรกิจต้องสื่อสารถึงกลยุทธ์ในการปรับปรุงทักษะเดิมที่มีอยู่ของพนักงานได้อย่างชัดเจนขึ้น และต้องชี้แจงได้ว่าแท้จริงแล้ว การปรับปรุงทักษะเดิมที่มีอยู่ มีความหมายสำหรับพนักงานของพวกเขาอย่างไร

3.การสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากภายนอกจะมีความสำคัญไม่แพ้กัน 4.การปรับปรุงทักษะเดิมที่มีอยู่ของพนักงาน เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการเป็นองค์กรที่คนต้องการทำงานด้วย และ5.ต้องมีแนวทางใหม่ๆ ในการบริหารสถานที่ทำงาน เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบของสถานที่ทำงาน

องค์กรไทยขาดแคลนแรงงานมีทักษะ
นอกจากนี้นางสาวภิรตา ยังกล่าวเสริมว่า องค์กรไทยกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ โดยเฉพาะทักษะด้านดิจิทัล เช่นเดียวกับองค์กรทั่วโลก โดยทาเลนท์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูล ทักษะทางด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง การเรียนรู้ของเครื่องจักรและการป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลกำลังเป็นที่ต้องการมาก

แต่หลายๆบริษัทในประเทศก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหานี้ ส่วนใหญ่หันมาลงทุนด้านบุคลากรมากขึ้น โดยนำระบบบริหารจัดการบุคลากรเข้ามาใช้ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและขยายขีดความสามารถในการวิเคราะห์ทรัพยากรบุคคลขององค์กร

นอกจากนี้บริษัทไทยหลายรายยังมุ่งเน้นในการจัดโปรแกรมฝึกอบรมการเพิ่มพูนทักษะด้านดิจิทัลให้แก่พนักงานมากขึ้นด้วย เพื่อปิดช่องว่างทางทักษะและลดความกังวลของพนักงานในการถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 ก.ค. 2562 เวลา : 20:51:12
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 10:54 pm