ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องสำหรับตลาดธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงามในประเทศไทย เห็นได้จากการที่มีผู้เล่นรายใหม่กระโดดเข้ามาทำธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงามอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการพัฒนาตัวสินค้า หรือการเปิดเป็นคลินิก เนื่องจากปัจจุบันคนไทยให้ความสนใจดูแลตัวเองให้ดูดีมากขึ้น จึงทำให้กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
จากความสนใจที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันตลาดธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงามของประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 250,000 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยที่ประมาณ 15-20% ทุกปี โดยในมูลค่าดังกล่าว แบ่งเป็นมูลค่าตลาดคลินิกความงามประมาณ 30,000 ล้านบาท และตลาดศัลยกรรมความงามอีก 30,000 ล้านบาท
มูลค่าทางธุรกิจที่มหาศาลดังกล่าวทำให้ผู้เล่นหลายรายทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่เพี้ยงพร้ำ หนึ่งในนั้นคือ “วุฒิศักดิ์คลินิก” เพราะช่วงที่ธุรกิจบูม “วุฒิศักดิ์คลินิก” มีจำนวนสาขาเปิดให้บริการมากถึง 120 สาขา ครองความเป็นผู้นำในตลาดคลินิกความงามแบบใสๆ แต่จากการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้ปัจจุบันเหลือสาขาที่เปิดให้บริการเพียง 34 สาขาเท่านั้น จากผู้นำตลาดอันดับ 1 หล่นมาเป็นอันดับ3
ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ “วุฒิศักดิ์คลินิก” ต้องออกมาประกาศปรับโครงสร้างทางธุรกิจครั้งใหญ่ในช่วงต้นปี 2562 ที่ผ่านมา ด้วยการดึง นายกวิน สัณฑกุล ผู้คร่ำหวอดในวงการธุรกิจค้าปลีกมานั่งเป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดับบลิวซีไอ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลและบริหารธุรกิจในเครือวุฒิศักดิ์
นายกวิน สัณฑกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดับบลิวซีไอ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากเข้ามาบริหารธุรกิจในเครือวุฒิศักดิ์ได้ 1 ปี ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจจาก “วุฒิศักดิ์คลินิก” สู่ “วุฒิศักดิ์ คอสเมติก” เพื่อรุกตลาดผลิตภัณฑ์ด้านความงามภายใต้แนวคิดบิวตี้ลีฟวิ่ง ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม
ในส่วนของ “วุฒิศักดิ์ คอสเมติก” ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบรนด์ของวุฒิศักดิ์เอง ได้แก่ ‘เมจิก คอลเลคชั่น’ ซึ่งจะประเดิมด้วยการเปิดตัว “วุฒิศักดิ์ บิวตี้ สเตชั่น” และกลุ่มที่เป็น ‘วุฒิศักดิ์ ซีเล็คส์ (Wuttisak Selects)’ ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ทางวุฒิศักดิ์คัดสรรมามอบให้แก่ลูกค้า ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องสำอาง สกินแคร์ อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ไปจนถึงบริการด้านความงาม อาทิ การต่อขนตา สปาเล็บ และทรีทเมนต์ใบหน้า เป็นต้น
สำหรับ 2 ผลิตภัณฑ์แรกที่จะพัฒนาเข้ามาทำตลาด คือ ผลิตภัณฑ์เจลอาบน้ำ และบอดี้โลชั่น ทั้งนี้เพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้าง นายกวิน ได้เตรียมงบประมาณ 100 ล้านบาท ลงทุนขยายช่องทางจำหน่ายสินค้า ตลอดจนกิจกรรมการตลาดส่งเสริมการขาย โดยมี ชาอึนยู ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังจากเกาหลี แห่งวง ASTRO และพระเอกซีรี่ส์เกาหลี มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งมียอดคนไทยติดตามผ่านโซเชี่ยลมีเดียถึง 3 ล้านคน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
นอกจากนี้ยังจะเปิดตัว “วุฒิศักดิ์ บิวตี้ สเตชั่น (Wuttisak Beauty Station)” ครั้งแรกกับปรากฏการณ์ป็อปอัพคอนเซ็ปต์สโตร์ด้านความงามที่ให้บริการรูปแบบใหม่ ซึ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่สร้างสรรค์มาเพื่อลูกค้าแต่ละท่านโดยเฉพาะ อัดแน่นไปด้วยนิทรรศการศิลปะแบบอินเตอร์แอคทีฟที่สร้างสรรค์และทันสมัย บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสราชดำริ
นายกวิน กล่าวต่อว่า“วุฒิศักดิ์ บิวตี้ สเตชั่น” เป็นคอนเซ็ปต์สโตร์แห่งแรกของวุฒิศักดิ์ คอสเมติก ซึ่งตั้งอยู่ ณ ทำเลใจกลางเมืองที่เดินทางสะดวก บนพื้นที่รวมกว่า 157 ตารางเมตร ภายในสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสราชดำริ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของวุฒิศักดิ์ให้เข้าถึงทุกความต้องการของทุกคนได้มากขึ้น รวมทั้งเป็นการตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มองหาประสบการณ์ที่ทันสมัย สร้างสรรค์ และแตกต่างจากการเลือกซื้อบิวตี้ไอเท็มในร้านค้าปลีกทั่วไป พร้อมรับบริการด้านความงามแบบเอ็กซ์คลูซีฟ
ด้านนายนิวัตร ดาวลอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วุฒิศักดิ์ คอสเมติก อินเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ภายใน วุฒิศักดิ์ บิวตี้ สเตชั่น จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วน‘ประสบการณ์’สำหรับบอกเล่าเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ของวุฒิศักดิ์ คอสเมติก ผ่านการตกแต่งพื้นที่ให้เป็นห้องนิทรรศการแบบอินเทอร์แอคทีฟในธีมต่างๆ อาทิ เซมเปอร์ ฟีเดลิส (Semper Fidelis) ยูนิคอร์น เทียรส์ (Unicorn Tears) นอร์ท สตาร์ (North Star) และ ออมเนียร์ วินซิท อมอร์ (Omnia Vincit Amor) กับอีกส่วนคือพื้นที่จัดจำหน่ายสินค้าและบริการด้านความงามที่มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ไว้พร้อมนำเสนอให้แก่ลูกค้า โดยในทุกตารางเมตรของสเตชั่นได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ลูกค้าและผู้ที่เดินทางสัญจรผ่านสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสราชดำริสามารถเข้าไปมีส่วนร่วม ทดลอง และสัมผัสประสบการณ์ด้านความงามในรูปแบบใหม่ที่ไม่ซ้ำใครได้อย่างครบครัน
นอกจากจะให้ความสำคัญกับการเดินหน้าลุยธุรกิจใหม่แล้ว ในส่วนของธุรกิจเก่าอย่าง “วุฒิศักดิ์คลินิก” ก็ยังคงมีให้เห็น แต่การขยายคลินิกนับจากนี้ไปจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป และเลือกทำเลที่มีศักยภาพในการขยายสาขาเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
ขณะเดียวกันก็จะทำการวิเคราะห์สาขาที่ผลการดำเนินงานดี มีลูกค้าและอยู่ในทำเลที่ใช่ ซึ่งจากแผนการดำเนินงานดังกล่าว ทำให้ปีนี้จะมีการปิดร้านวุฒิศักดิ์คลินิกบางสาขา และเปิดร้านใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งในส่วนของการปรับปรุงสาขาเก่าและเปิดสาขาใหม่คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท โดยในสิ้นปี 2562 นี้จะมีจำนวนร้านที่เป็นคลินิกอยู่ที่ประมาณ 18 สาขา และเป็นในส่วนของแฟรนไชส์ประมาณ 34 สาขา
พร้อมกันนี้ยังจะทำการอัพเกรดวุฒิศักดิ์บางสาขาให้เป็น “พรีเมี่ยม”เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้บริหารวุฒิศักดิ์ คาดว่าจะมีรายได้แตะ 4,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน โดยช่วงเวลาดังกล่าวมีความเป็นไปได้ว่า วุฒิศักดิ์คลินิกมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)
ปัจจุบันวุฒิศักดิ์ มีรายได้จากวุฒิศักดิ์ คอสเมติก มากกว่า 50% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการเปิดคลินิกความงาม ซึ่งปัจจุบันลดลงจากปกติกว่า 70% ส่วนรายได้สิ้นปี 2562 นี้คาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 400-500 ล้านบาท
ข่าวเด่น