การตลาด
สกู๊ป "ชาเขียว"ดิ้นสู้กำลังซื้อซึมเร่งอัดโปรมอบโชคกระตุ้นยอดเข้าเป้า


แม้ว่าภาพรวมตลาดชาเขียวพร้อมดื่มของไทยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 (สิ้นมิ.ย.)จะมีการเติบโตในด้านของยอดขายราว 5.5% และปริมาณโตขึ้น 3.7% หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 6,439 ล้านบาท แบ่งเป็นชาเขียวพรีเมี่ยมสัดส่วน 10.5% ของมูลค่าตลาดชาทั้งหมด แต่หากดูแนวโน้มการขยายตัวตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ยังคงขยายตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับตลาดรวมชาเขียวพร้อมดื่ม เนื่องจากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจและกำลังซื้อยังคงส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ส่งผลให้ภาพรวมตลาดรวมชาเขียวยังคงขยายตัวอยู่ในแดนลบ


 
 
 
 
สำหรับภาพรวมตลาดชาเขียวในปี 2561 ที่ผ่านมามีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 13,000 ล้านบาท ลดลงจากปี 2560 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 13,800 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 2559 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 14,493 ล้านบาท ลดลงจากปี 2558 ที่มีมูลค่า 15,574 ล้านบาท และลดลงจากปี 2557 ที่มีมูลค่า 15,969 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีแบรนด์โออิชิเป็นผู้นำตลาดด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 45.4% ตามด้วยอิชิตัน 29.4%และอื่นๆ 25.2%

จากการขยายตัวที่ลดลงดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการในตลาดชาเขียวพร้อมดื่มต้องออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกันมากขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และหนึ่งในกลยุทธ์ที่นิยมเลือกใช้ คือ การทำโปรโมชั่นชิงรางวัล ซึ่งของรางวัลที่ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่เลือกนำมาจูงใจผู้บริโภค คือ รถยนต์

ล่าสุดค่ายอิชิตันออกมาจัดหนักกับกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยการส่งแคมเปญ “อิชิตัน ยกลัง ลุ้นรถ รวยทอง ภาค 2” เปิดโอกาสให้ร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศส่งชิ้นส่วนข้างลังชิงรางวัล รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จำนวน 4 คัน พร้อมบัตรเติมน้ำมันฟรี 1 ปี และทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 80 รางวัล รวมมูลค่าของรางวัลทั้งสิ้นกว่า 7.2 ล้านบาท

 
 
 
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)กล่าวว่าการจัดทำแคมเปญลุ้นรถรวยทองครั้งที่ 2 ในครั้งนี้ เป็นผลมาจากความสำเร็จของกลยุทธ์ในการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่องทางจัดจำหน่ายในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวทำให้สัดส่วนการขายช่องทาง Traditional Trade หรือการขายผ่านร้านค้าในชุมชนเติบโตขึ้นจนมีสัดส่วนเท่ากันกับช่องทางการจัดจำหน่ายในช่องทาง Modern Trade และร้านสะดวกซื้อ

การเติบโตดังกล่าวสะท้อนมาจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขายของร้านค้าในชุมชนที่ได้รับอานิสงส์จากระบบร้านค้าธงฟ้าประชารัฐทำให้มีผู้บริโภคซื้อสินค้าในร้านโชห่วยมากขึ้น จากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวทำให้อิชิตันจับมือร่วมกับ DKSH บริษัทผู้จัดจำหน่ายจัดแคมเปญกระตุ้นการขายให้กับร้านค้าในเครือข่ายที่มีความแข็งแรงอยู่แล้ว รวมไปถึงช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านแม็คโครที่พิสูจน์แล้วว่าสินค้าภายใต้เครืออิชิตันสามารถสร้างยอดขายให้กับร้านค้าชุมชนและโชห่วยได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้อิชิตันยังมีแผนที่จะใช้ 4 กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจในช่วง 4 เดือนนับจากนี้ ประกอบด้วย 1.การบริหารผลิตภัณฑ์ 2.การวางแผนกิจกรรมการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆของสินค้าแต่ละผลิตภัณฑ์ 3.กลยุทธ์การเข้าถึงร้านค้าปลีกรายย่อยทั่วประเทศ ผ่านแคมเปญ “อิชิตัน ยกลัง ลุ้นเบนซ์ รวยทอง” เพื่อกระตุ้นตลาด
Traditional Trade และ 4.การขยายตัวแทนจำหน่ายจาก DKSH เพิ่ม ส่งผลให้อิชิตันมีการกระจายสินค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันยังจะทำการขยายไลน์สินค้าเพื่อสุขภาพ เพื่อตอบรับเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ชาเขียวพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์ชิซึโอกะ โฮจิฉะ ชาเขียวคั่วพรีเมี่ยม ซึ่งนำเข้าใบชา 100% จากประเทศญี่ปุ่น มาเป็นอีกหนึ่งสินค้าหลักในการทำตลาด เนื่องจากปัจจุบันคนไทยให้ความสนใจบริโภคชาพร้อมดื่มพรีเมี่ยมมากขึ้น

ส่วนแผนการขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศ อิชิตัน ยังคงเดินหน้าขยายตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มประเทศที่จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ กลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง หรือ CLMV ซึ่งประกอบไปด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา และ เวียดนาม ขณะเดียวกันก็จะเร่งขยายตลาดในประเทศจีน ด้วยการนำชาเขียวพร้อมดื่มชิซึโอกะเป็นสินค้าหลักในการเข้าไปทำตลาด โดยสิ้นปี 2562 คาดการณ์ว่าจะมีรายได้เติบโต 12% จากปี 2561 ที่มีรายได้ประมาณ 5,216.2 ล้านบาท

 
 
 
 
 
ด้านโออิชิก็จัดหนักกับแคมเปญลุ้นโชคผ่านผลิตภัณฑ์ชาเขียวพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์ โออิชิ โกลด์ ด้วยการชวนลูกค้าไปดื่มด่ำประสบการณ์สุดพรีเมียม สัมผัสธรรมชาติแบบญี่ปุ่นและได้ฟินใกล้ชิดกับ เป๊ก ผลิตโชค ที่ Wakayama ดินแดนแห่งธรรมชาติและขุนเขา พร้อมสัมผัสฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ทริปนี้จะมีผู้โชคดีเพียง 20 คนเท่านั้นที่จะได้ไป ควบคู่ไปกับการทำแคมเปญลุ้นโชคทองคำและรถยนต์ โตโยต้า ยาริส เอทีฟ เพียงส่งฉลากโออิชิ 350 มล. และกล่องโออิชิ UHT ขนาด 180 มล. พร้อมเขียน ชื่อ ที่อยู่ส่งมาตามที่ระบุไว้ก็มีสิทธิ์ลุ้นโชคดังกล่าวแล้ว

ขณะเดียวกันยังจะมุ่งเน้นทำการตลาดผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.เพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีอินโนเวชั่น สร้างสีสันให้กับตลาด 2.ใช้นวัตกรรมใหม่ๆยกระดับสินค้าให้มีความพรีเมี่ยม และ 3.นำเสนอเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ ซึ่งการพัฒนาโออิชิ โกลด์ เก็นไมฉะ เข้ามาทำตลาดในช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้รักสุขภาพ

สำหรับแผนการทำตลาดต่างประเทศนั้น โออิชิ กรีนที ยังครองผู้นำในตลาดอาเซียน โดยเป็นอันดับ 1 ในลาวและกัมพูชา จึงมุ่งสร้างการเติบโตในตลาดต่างประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผลักดันการเติบโตในตลาด CLMV นอกจากนั้นในด้านภาพลักษณ์ยังรักษาภาพลักษณ์แบรนด์ได้อย่างแข็งแกร่งในทุกมิติ จากการวัดสุขภาพแบรนด์เติบโตในทุกๆ ด้าน

นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า โออิชิยังคงครองตำแหน่งผู้นำในตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศด้วยส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 46.2% จากการประสบความสำเร็จของการผสานพลังสามธุรกิจหลัก ทั้งโออิชิ กรีนที ร้านอาหารโออิชิและผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ในการจัดซัมเมอร์โปรโมชั่นในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา รวมทั้งการกลับมาผลิตสายเครื่องดื่มยูเอชทีได้เต็มประสิทธิภาพหลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้

ด้านนายกฤษฎา วรรธนะภาคิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายการเงินการบัญชี บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 มีรายได้รวม 3,482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในรายได้ดังกล่าวเป็นรายได้ที่มาจากธุรกิจเครื่องดื่ม 1,684 ล้านบาท เติบโต 11.1%

บันทึกโดย : วันที่ : 31 ส.ค. 2562 เวลา : 19:11:45
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 4:00 pm