การตลาด
สกู๊ปจับตา "บอนชอน" ชิงแชร์ตลาดไก่ทอดกว่าหมื่นล้านใต้หลังคา"ไมเนอร์"


ปีนี้ถือเป็นปีที่ธุรกิจร้านอาหารมีความคึกคักเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมายักษ์ใหญ่ของวงการธุรกิจต่างพากันซื้อกิจการร้านอาหารที่มีศักยภาพเข้ามาอยู่ในพอร์ตบริหารของตัวเองไม่ว่าจะเป็นการเข้าซื้อกิจการร้านสตาร์บัคส์ของกลุ่มไทยเบฟ ตามด้วยการซื้อกิจการร้านแหลมเจริญของกลุ่มเอ็มเคและล่าสุดการซื้อกิจการร้านไก่ทอดบอนชอน (Bonchon) ของกลุ่มไมเนอร์ เพราะการได้ธุรกิจร้านอาหารที่มีศักยภาพเข้ามาเสริมทัพจะทำให้ธุรกิจเดินเร็วขึ้น

 


 
 
สำหรับการซื้อกิจการของร้านไก่ทอดบอนชอนที่เกิดขึ้นไปเมื่อกลางเดือน พ.ย.2562 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการก้าวไปข้างหน้าธุรกิจร้านอาหารของกลุ่มไมเนอร์ เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มไมเนอร์ยังไม่มีธุรกิจไก่ทอดอยู่ในพอร์ตบริหาร ทั้งที่ตลาดไก่ทอดในประเทศไทยมีมูลค่าสูงเกือบ 15,000 ล้านบาท

แม้ว่าปีนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะมีการคาดการณ์ว่าตลาดรวมอาหารฟาสต์ฟู้ดจะมีอัตราการเติบโตเพียง 3% เท่านั้น ซึ่งถือว่าโตต่ำกว่าทุกปีก่อนๆที่ตลาดจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 5-7% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย แต่กลุ่มไมเนอร์ก็ยังเล็งเห็นโอกาส เพราะผู้เล่นในตลาดน้อยและคนไทยก็ชื่นชอบการรับประทานไก่ทอด จึงทำให้ตัดสินใจก้าวเข้าสู่ในธุรกิจดังกล่าว

หลังจากสุ่มเจรจากันมาพักใหญ่ บริษัท มาชิสโสะ จำกัด เจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านไก่ทอดบอนชอนในไทยก็ตัดสินใจขายหุ้นให้กับบริษัท ชิคเก้น ไทม์ จำกัด บริษัทลูกของไมเนอร์ ฟู้ด ในสัดส่วน 100% คิดเป็นมูลค่า 2,000 ล้านบาท ทำให้บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าของธุรกิจไก่ทอดบอนชอน 100% เต็ม โดยเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) หรือ MINT ได้ส่งหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ได้ให้ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือถือหุ้นอยู่ 99.73% จัดตั้งให้บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด โฮลดิ้ง จำกัด ภายใต้ทุนจดทะเบียนจำนวน 200 ล้านบาท เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 100% ในบริษัท ชิคเก้น ไทม์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารแฟรนไชน์ร้านไก่ทอดบอนชอน (Bonchon)
 
 

 
 
ทั้งนี้ในบริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท เป็นการซื้อจากผู้ขายจำนวน 6 ราย เพื่อเข้าเป็นเจ้าของและดำเนินกิจการร้านอาหารบอนชอนในประเทศไทย ซึ่งจะสร้างความแข็งแกร่งและกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

สำหรับการลงทุนของกลุ่มไมเนอร์ ในบริษัท ชิคเก้น ไทม์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารชื่อดังภายใต้แบรนด์ไก่บอนชอนนั้น ปัจจุบันมีจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการอยู่ที่กว่า 40 สาขาในประเทศไทย ด้วยเงินลงทุนจำนวน 2,000 ล้านบาท โดยจะเป็นผู้ดำเนินการร้านบอนชอนที่มีอยู่เดิมทั้งหมดในประเทศไทยและแม้ว่าการลงทุนดังกล่าวจะไม่รวมสิทธิแฟรนไชส์ในการเปิดสาขาใหม่แต่ไมเนอร์ก็ได้มีการเจรจากับเจ้าของสิทธิแฟรนไชส์หลักในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้ไมเนอร์มีสิทธิในการขยายสาขาร้านไก่บอนชอนทั่วประเทศต่อไป

นายวิลเลียม เอลล์วูด ไฮเน็ค ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) หรือ MINT กล่าวว่า การเข้าลงทุนในครั้งนี้จะทำให้เครือร้านอาหารไก่บอนชอนในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นทั้งในด้านของรายได้และผลกำไรให้กับบริษัทในทันที เพราะบริษัทเชื่อว่าแนวโน้มธุรกิจอาหารในประเทศไทยยังคงมีทิศทางธุรกิจที่ดีในระยะยาว เนื่องจากความต้องการในการบริโภคของกลุ่มชนชั้นกลางมีรายได้สูงขึ้น

นอกจากนี้ร้านไก่บอนชอนยังมีแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร จึงทำให้กลุ่มไมเนอร์ มั่นใจว่าการได้ร้านไก่บอนชอนเข้ามาเสริมทัพในครั้งนี้จะทำให้ได้ประสบการณ์ที่แข็งแกร่ง และมีฐานการดำเนินงานที่มั่นคงในประเทศไทย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะทำให้กลุ่มไมเนอร์สามารถเพิ่มมูลค่าการลงทุนในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน

ด้านนายพอล เคนนี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ไก่ถือเป็นหนึ่งในเนื้อสัตว์ที่คนไทยให้ความนิยมมากที่สุด และตลาดความต้องการบริโภคไก่ยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้ร้านไก่บอนชอนมีความเหมาะสมในการเข้ามาอยู่ในพอร์ตธุรกิจร้านอาหารของบริษัท เพราะเป็นแบรนด์ร้านอาหารแบบนั่งรับประทานและซื้อกลับบ้านที่มีศักยภาพ

ในขณะเดียวกัน ยังช่วยให้ บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด จำกัด(มหาชน) มีธุรกิจร้านอาหารที่หลากหลาย และในเชิงของการลงทุนยังถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยยกระดับให้ ไมเนอร์ ฟู้ด ประสบตวามสำเร็จในการดำเนินธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยมากขึ้น

นายพอล กล่าวอีกว่าบริษัทใช้เวลาในการค้นหาแบรนด์ที่เหมาะสมเพื่อช่วยเสริมสร้างเครือร้านอาหารของเรา และมีความยินดีเป็นอย่างมากที่ค้นพบร้านอาหารที่มีคอนเซปต์ที่ไม่เหมือนใครในครั้งนี้ เพราะไก่เป็นหนึ่งในเนื้อสัตว์ที่คนไทยให้ความนิยมมากที่สุดและตลาดไก่ยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก ซึ่งร้านไก่ทอดบอนชอนมีความเหมาะสมเป็นอย่างมากกับแบรนด์ที่บริษัทมีอยู่และในขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับกลุ่มแบรนด์ของเรา อีกทั้งการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้จะช่วยยกระดับไมเนอร์ฟู้ดและตอกย้ำการเป็นผู้นำในธุรกิจร้านอาหาร
 
 

 
ปัจจุบัน บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจระดับสากล โดยประกอบ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ โดยในส่วนของธุรกิจร้านอาหารนั้น ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านอาหารกว่า 2,200 สาขา ใน 26 ประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, เดอะ คอฟฟี่ คลับ, ริเวอร์ไซด์ ,เบนิฮานา, ไทย เอ็กซ์เพรส, บอนชอน, สเวนเซ่นส์, ซิซซ์เลอร์, แดรี่ ควีน และเบอร์เกอร์ คิง

ขณะที่ร้านไก่บอนชอน เริ่มต้นธุรกิจเมื่อปี 2545 ในประเทศเกาหลีและในปัจจุบันเป็นแบรนด์ร้านอาหารเกาหลีและไก่ทอดสไตล์เกาหลีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีการสร้างความแตกต่าง ด้วยการทอดไก่สไตล์เกาหลีที่มีซอสอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง และความภักดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์บอนชอน ทำให้ร้านไก่บอนชอนมีการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน ครอบคลุม 9 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บาห์เรน คูเวต ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ กัมพูชา เวียดนาม พม่า และไทย โดยในส่วนของประเทศไทยปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการอยู่ที่ 40 สาขา

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 พ.ย. 2562 เวลา : 06:17:56
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 9:36 pm