ไปได้สวยเลยทีเดียวสำหรับร้าน “ทาโก้ เบลล์”( Taco Bell) หลังจากเปิดให้บริการสาขาแรกที่ เดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์ แอท ชิดลม ในช่วงเดือน ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา ลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้บริษัท สยาม ทาโก้ จำกัด ต้องเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มเติมที่สยามพารากอน, เซ็นทรัล พลาซา ปิ่นเกล้า และสามย่านมิตรทาวน์
จากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าวทำให้ ตระกูลมหากิจศิริ เจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านทาโก้ เบลล์ ในประเทศไทยเริ่มมองหาโอกาสในตลาดต่างจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากตลาดดังกล่าวยังมีช่องว่างให้เข้าไปทำตลาดได้อีกมาก เพราะยังไม่มีคู่แข่งที่ก้าวเข้ามาทำร้านอาหารในรูปแบบเดียวกับร้านทาโก้ เบลล์ อย่างจริงจัง ขณะที่ความต้องการของลูกค้ามีค่อนข้างสูง
ย้อนกลับไปก่อนที่ร้านทาโก้ เบลล์จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ทาโก้ เบลล์ เป็นกลุ่มร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดของอเมริกา ตั้งอยู่ในเออร์ไวน์รัฐแคลิฟอร์เนีย บริษัทย่อยในเครือของ Yum! Brands, Inc ให้บริการอาหาร Tex-Mex หลากหลายชนิด เช่น ทาโก้, เบอร์ริโซน่า, quesadillas, nachos, รายการพิเศษอื่นๆและรายการ “value menu” หลากหลายรายการ โดยปัจจุบัน ทาโก้ เบลล์ มีสาขาเปิดให้บริการประมาณ 7,000 สาขา ให้บริการลูกค้ามากกว่า 2,000 ล้านรายต่อปี
สำหรับในประเทศไทย ร้านทาโก้ เบลล์ ดำเนินการบริหารแฟรนไชส์ ภายใต้ บริษัท สยาม ทาโก้ จำกัด ซึ่งเป็น บริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA และ บริษัท ซีเอ็ม แคปปิตอล จำกัด (โดยครอบครัวมหากิจศิริ) โดย TTA เป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ให้บริการเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าทางเรือ ซึ่งประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นเพื่อการลงทุนเชิงกลยุทธ์ทั้งในเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และแอฟริกา พอร์ตการลงทุนในปัจจุบันประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือ กลุ่มธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่ง กลุ่มธุรกิจปุ๋ยเคมีเพื่อการเกษตรและกลุ่มการลงทุนอื่น (ธุรกิจอาหาร)
ก่อนหน้าที่จะนำร้าน ทาโก้ เบลล์ มาเปิดให้บริการ TTA ได้สิทธิ์แฟรนไชส์ร้าน พิซซ่า ฮัท (Pizza Hut) จาก บริษัท ยัม! แบรนด์ส อิงค์ ซึ่งเป็นเจ้าของแฟรนไชส์เดียวกันกับทาโก้ เบลล์ เข้ามาบริหาร ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจเช่นกัน จากความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าวทำให้นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) มีความมั่นใจในการนำธุรกิจร้านทาโก้ เบลล์ เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทย
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA และกรรมการ บริษัท สยามทาโก้ จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ร้านทาโก้ เบลล์ เปิดให้บริการมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีความ “ยูนีค” เพราะมีความเป็นเม็กซิกันสไตล์และมีผู้เล่นในตลาดน้อย ซึ่งในอีก 3 ปีนับจากนี้บริษัทคาดว่าจะมีร้านทาโก้ เบลล์ เปิดให้บริการทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 40 สาขา
ปัจจุบันร้านทาโก้ เบลล์ มีจำนวนสาขาเปิดให้บริการ 4 แห่ง คือ เดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์ แอท ชิดลม, สยามพารากอน, เซ็นทรัล พลาซา ปิ่นเกล้า และสามย่านมิตรทาวน์ โดยในในเดือน ธ.ค.นี้ จะเปิดร้านใหม่เพิ่มอีก 1 สาขาที่เซ็นทรัล เวสท์เกต ขณะที่ปี 2563จะเปิดเพิ่มเป็นกว่า 10 สาขา แต่ละสาขาคาดว่าจะใช้งบลงทุนเฉลี่ยที่ประมาณ 10 ล้านบาท
ในจำนวนสาขาใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น นอกจากจะเน้นเปิดให้บริการในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลแล้ว นายเฉลิมชัย ยังมองหาโอกาสในส่วนของหัวเมืองท่องเที่ยว และตลาดเพื่อนบ้านอย่างกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง หรือซีแอลเอ็มวี ซึ่งประกอบไปด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม อีกด้วย โดยขณะนี้ได้เริ่มมีการเจรจากับบริษัทแม่ เพื่อขอรับสิทธิ์ในการขยายสาขาร้านทาโก้ เบลล์ ในพื้นที่ดังกล่าวไปบ้างแล้ว
.jpg)
สำหรับแผนการทำตลาดของร้านทาโก้ เบลล์ ในช่วงเดือนสุดท้ายของปีนี้ ล่าสุดได้มีการเปิดตัวเมนูระดับโลกอย่าง “เนคเค็ด ชิกเก้น ทาโก้” ในประเทศไทย หลังจากสาขาในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ญี่ปุ่น หรืออินเดีย ได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดีหลังจากนำเมนูดังกล่าวเข้ามาทำตลาด ซึ่งในส่วนของประเทศไทย นายเฉลิมชัย ได้วางแผนโปรโมทเมนู “เนคเค็ด ชิกเก้น ทาโก้” ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยการเน้นกลยุทธ์สร้างกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ ด้วยการให้แฟนท้าโก เบลล์มาร่วมแชร์เรื่องราวความลับของตน พร้อมแฮทแทค #กล้าที่จะเผย (#Dare to reveal) โดยทาโก้ เบลล์ จะทยอยเปิดเผยเรื่องราวของเมนู “เนคเค็ด ชิกเก้น ทาโก้” รวมถึงเซอร์ไพรส์ต่างๆ ให้ทุกคนได้แปลกใจกันตลอดช่วงเวลาของการเปิดตัวเมนูสุดฮอตในครั้งนี้
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่าภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคในไตรมาสสุดท้ายนี้ค่อนข้างชะลอตัว แม้จะเป็นช่วงไฮซีซัน ทำให้บริษัทต้องมองหาความแปลกใหม่เพื่อดึงดูดลูกค้า ด้วยการนำเมนูขึ้นชื่อของทาโก้ เบลล์ ไม่ว่าจะเป็น ครั้นช์แรป ซูพรีม, กริลด์สตัฟท์ เบอร์ริโต้ ,เมนูซิกเนเจอร์ ครั้นชี่ ทาโก้ และ เนคเค็ด ชิกเก้น ทาโก้ ที่ได้ความนิยมทั่วโลกเข้ามาทำตลาดในไทย ด้วยโปรโมชั่นชุดละ 99 บาท ซึ่งหลังจากเปิดตัวสินค้าดังกล่าวเข้าทำตลาดคาดว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดีเหมือนกับในหลายประเทศที่ประสบความสำเร็จ
ด้านนายอังกุช ตูลี่ กรรมการผู้จัดการ ทาโก เบลล์เอเชีย แปซิฟิค กล่าวว่า ตลาดในเอเชียแปซิฟิคเป็นตลาดที่มีอัตราเติบโตสูงสุดของทาโก้ เบลล์ นอกเหนือจากตลาดสหรัฐอเมริกา โดยปัจจุบันสาขานอกสหรัฐอเมริกา เปิดให้บริการแล้ว 580 สาขา โดยประเทศอินเดียมีแนวโน้มเติบโตที่ขยายไปถึง 600 สาขา ใน 2-3 ปีข้างหน้าเช่นเดียวกันกับประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์จะขยายเพิ่มรวม 100 สาขา ส่วนในจีนมี 7 สาขามีแนวโน้มเติบโตอีกมาก ส่วนในสหรัฐฯมี 7,000 สาขาและเปิดสาขาใหม่ปีละประมาณ 200 สาขา ยอดขายทาโก้เบลล์ในปีที่ผ่านมาทั่วโลก 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ตามแผน ทาโก้ เบลล์ อินเตอร์เนชั่นแนลที่ระบุไว้เมื่อตอนต้นปี 2562 ที่ผ่านมา ต้องการผลักดันสาขานอกสหรัฐ เพิ่มมากกว่า 1,000 สาขาใน 2 ปีข้างหน้า โดยตลาดเป้าหมายมีทั้งไทย และภูมิภาคเอเชีย ซึ่งขณะนี้ได้ขยายธุรกิจเข้าไปใน จีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะในอินเดีย คาดว่าอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีสาขามากกว่า 600 แห่ง เนื่องจากเทรนด์การบริโภคอาหารแม็กซิกันของคนรุ่นใหม่ในอินเดียกำลังเติบโต
จากเทรนด์การบริโภคอาหารแม็กซิกันที่กำลังเป็นที่นิยม เช่นเดียวกับตลาดในประเทศไทย จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมนายเฉลิมชัย ถึงมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 40 สาขาในอีก 3 ปีนับจากนี้ ซึ่งจากแผนการดำเนินงานดังกล่าวคาดว่าไทยน่าจะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มียอดขายน่าจับตามองไม่แพ้ จีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ อย่างแน่นอน
.jpg)
ข่าวเด่น