การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
ผู้ว่าฯภูเก็ต สั่ง "ปิดโรงแรม" ทุกแห่ง สกัดโควิด-19 มีผลพรุ่งนี้


นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ลงนามในประกาศจังหวัดภูเก็ต ที่ 1797 / 2563 เรื่อง ปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19

 

 

 

ประกาศดังกล่าว ระบุว่า โดยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในปัจจุบันได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขวางไปหลายประเทศทั่วโลก โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตรายฉบับที่ 3 พ.ศ.2563 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 กำหนดให้โรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ 2558 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 เกี่ยวกับโรคดังกล่าวและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดภูเก็ตพบว่ายังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว


อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ 2558 และข้อ7(1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่หนึ่ง) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตตามมติที่ประชุมครั้งที่ 12/2563 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 จึงออกคำสั่งไว้ดังนี้
 
 
ปิดโรงแรมที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฏหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 ทุกประเภทและสถานประกอบการในลักษณะเดียวกัน ยกเว้น โรงแรมซึ่งทางราชการใช้เป็นโรงพยาบาลสนามหรือสถานที่พักเพื่อสังเกตอาการหรือใช้ประโยชน์อื่นใดในทางราชการ ในการแก้ไขปัญหาตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับโรงแรมที่มีผู้พักอยู่ก่อนซึ่งคำสั่งนี้มีผลใช้บังคับให้พักต่อไป จนกว่าผู้เข้าพักจะแจ้งออกจากห้องทั้งหมดแล้วให้ปิดทันทีโดยไม่มีการรับผู้เข้าเพิ่มอีก ทั้งนี้ให้โรงแรมที่ยังมีนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางเข้าพักอยู่ต้องแจ้งจำนวนและรายชื่อผู้เข้าพักให้ที่ทำการปกครองอำเภอทราบ เพื่อตรวจคัดกรองผู้เข้าพักทุกคน หากผู้เข้าพักคนใดมีอาการเข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการยังสถานที่ที่จังหวัดกำหนด
 
 
 
 
 
 
 
 
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้จะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่หนึ่ง)

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
 
สั่ง ณ วันที่ 2 เมษายน 2563
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 เม.ย. 2563 เวลา : 16:43:36
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 12:52 am