เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ราคาน้ำมันดิบปรับลดหลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์


บมจ.ไทยออยล์ระบุราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์


          (-) สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA)รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 10 เม.ย. 63 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 19 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการเพิ่มที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากโรงกลั่นในสหรัฐฯ ปรับลดกำลังการผลิต ตามความต้องการใช้น้ำมันที่หดตัว
          (-) สำนักงานพลังงานสากล(IEA)คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกอาจลดลงถึง 29 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน เม.ย. 63ซึ่งเป็นการลดลงต่ำสุดในรอบ 25 ปี และลดลง 9.3ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลัง 187 ประเทศทั่วโลกต่างออกมาตรการจำกัดการเดินทาง เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 
          (-) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)คาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะหดตัวลง 3% จากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งสวนทางการกับคาดการณ์ในเดือน ม.ค. 63 ที่ระบุว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.3%
          (-) ตลาดยังมีความกังวลต่ออุปทานที่ล้นตลาดจากความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง แม้กลุ่มโอเปกและพันธมิตรได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 63 ไปจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.63 แล้วก็ตาม

ราคาน้ำมันเบนซิน
          ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบหลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินยังคงถูกกดดันจากการปิดเมืองในหลายประเทศทั่วโลก

ราคาน้ำมันดีเซล
          ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอีก หลังอินเดียและมาเลเซียขยายระยะเวลาในการปิดเมืองไปจนถึงต้นเดือน พ.ค. 63เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 เม.ย. 2563 เวลา : 09:56:05
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 11:11 pm