การตลาด
สกู๊ป ''10 เศรษฐีไทย'' ตอบรับจดหมายปิดผนึกนายกโชว์กึ๊นแบ่งเบาภาระรัฐอุ้มประชาชน


หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง 20 มหาเศรษฐีไทย เพื่อขอความช่วยเหลือจากเหตุการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดมีมหาเศรษฐีไทยตอบรับจดหมายดังกล่าวแล้วจำนวน 10 ราย ประกอบด้วย  กลุ่มคิงเพาเวอร์  กลุ่มซีพี  กลุ่มเมืองไทย กลุ่มบีทีเอส  กลุ่มกรุงเทพดุสิตเวชการ กลุ่ม TCP  กลุ่มพีเอ็มส์ กรุ๊ปส์ กลุ่มโอสถสภา กลุ่มศรีสวัสดิ์ และกลุ่มเซ็นทรัล

 
 
การตอบรับดังกล่าวกลุ่มมหาเศรษฐีไทยส่วนใหญ่ยังไม่ลงรายละเอียดในด้านของการให้ความช่วยเหลือประชาชนคนไทย  เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นเรื่องที่ใหญ่  การวางแผนโครงการให้ความช่วยเหลือประชาชนชาวไทย  จึงต้องมีความรอบคอบและต้องเห็นผลจริง ดังนั้น แต่ละรายจึงออกมาประกาศแผนการคร่าวๆ ว่าจะทำอะไรบ้างเท่านั้น เช่น  นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทยแคปปิตอล จำกัด(มหาชน)  ที่ออกมาระบุว่า  พร้อมช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนภายในองค์กรเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชน
 
เช่นเดียวกับ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์  ที่ออกมาระบุว่า พร้อมให้ความร่วมมือภาครัฐอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือประชาชนผ่านโครงการหลากหลายรูปแบบ ส่วนรายละเอียดของโครงการยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้  
 
ส่วน นายประยุทธ มหากิจศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท พีเอ็มส์ กรุ๊ปส์  ออกมาเปิดเผยข้อมูลในเบื้องต้นว่าพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนผ่านโครงการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในจังหวัดลำพูนตลอด 6 เดือน พร้อมจัดส่งผู้เชี่ยวชาญไปทำงานวิจัยเพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกร  และ นายฉัตรชัย แก้วบุญตา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มศรีสวัสดิ์  ที่ออกมาระบุว่า พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชน ด้วยการเข้ามาช่วยแก้ไขหนี้นอกระบบ เพื่อแบ่งเบาภาระของภาครัฐ  ซึ่งหากแก้ปัญหาดังกล่าวได้เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว
 
 
สำหรับมหาเศรษฐีที่เหลือไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคิงเพาเวอร์  กลุ่มซีพี  กลุ่ม TCP กลุ่มดุสิตเวชการ กลุ่มโอสถสภา หรือกลุ่มเซ็นทรัล มีรายละเอียดในการให้ความช่วยเหลือประชาชนพอสมควร  โดยนายเฉลิม อยู่วิทยา  กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท สยาม ไวเนอรี่ จำกัด บริษัทในเครือกลุ่ม TCP ระบุว่า ได้เสนอแผนช่วยเหลือประชาชนผ่านโครงการ "พึ่งตนเพื่อชาติ" ซึ่งในส่วนของโครงการดังกล่าวเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณ 300 ล้านบาท
ขณะที่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ อดีตประธานคณะผู้บริหาร และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด ผู้ก่อตั้งสายการบิน บางกอก แอร์เวย์ส  ระบุว่า พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่แพทย์สภา และกระทรงสาธารณสุข แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำภายใต้งบ 100 ล้านบาท  และ นายเพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เตรียมจัดสรรงบ 100 ล้านบาท ทำโครงการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือรายละเอียด
 
ด้านกลุ่มของคิงเพาเวอร์  โดย นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ระบุว่า พร้อมช่วยภาครัฐแก้ปัญหาวิกฤติประเทศ  ด้วยการตั้งงบ 1,500 ล้านบาท สนับสนุนรัฐบาลผ่าน 4 โครงการหลัก คือ 1.ทางการแพทย์  2.ทางการพัฒนาสังคม  3.ทางด้านการพัฒนาเยาวชน และ 4.ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
 
เช่นเดียวกับายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์  ที่ตอบรับจดหมายเปิดผนึกนายก ด้วยการให้การสนับสนุนรัฐบาลผ่านงบประมาณ 700 ล้านบาท  ผ่านการพัฒนาโครงการต่างๆ โดยที่ผ่านมากลุ่มซีพี ได้เริ่มดำเนินการพัฒนาโครงการไปบ้างแล้ว ประกอบด้วย  การลงทุนโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยฟรี  100 ล้านบาท การเพิ่มการผลิตหน้ากาก 75 ล้านบาท การบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ชุด PPE และTest Kit 30 ล้านบาท  โครงการมอบอาหารต้านโควิด-19 ให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ถูกกักตัว 200 ล้านบาท  การมอบเงินให้กับโรงพยาบาล และโครงการอื่นๆ 77 ล้านบาท  การแจกอุปกรณ์สื่อสารให้โรงพยาบาล ให้ดาต้า ให้หุ่นยนต์ ให้ซิมโทรศัพท์มือถือ และให้อินเตอร์เน็ต 120 ล้านบาท เป็นต้น
 
จากแนวทางดังกล่าวกลุ่มซีพี มีแผนที่จะวางแผนการดำเนินงานเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือภาครัฐและประชาชน ดังนี้  โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ระบบชลประทานแก้มลิง 4.0 โครงการเกษตรผสมผสาน โดยการทำโครงการต้นแบบ 4 ประสาน เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร โครงการแพลตฟอร์มออนไลน์เรียนทางไกลและแพทย์ทางไกล  โครงการวิจัยสู้ภัยโควิด-19 วิจัย Test Kit วัคซีน และยารักษาโรค เป็นต้น
 
 
ปิดท้ายกันที่กลุ่มเซ็นทรัล ที่ออกมาระบุว่า  ยินดีให้การสนับสนุนภาครัฐอย่างเต็มที่  ด้วยการชูแนวทางฟื้นฟูสังคมและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน  เพื่อตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐาน 3 มิติ ได้แก่ การสร้างอาชีพเสริมรายได้ การลดค่าครองชีพ และการส่งเสริมสุขภาพ 
 
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและเป็นวิกฤตที่ทั่วโลกต้องเผชิญ ครอบครัวจิราธิวัฒน์ และกลุ่มเซ็นทรัลได้ตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญต่อความรับผิดชอบและการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการปรับแนวทางการแก้ปัญหา เข้ากับแผนของความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมบูรณาการให้เกิดความยั่งยืน เริ่มตั้งแต่มาตรการช่วยเหลือพนักงานในเครือกว่า 74,000 ราย โดยคงสถานะการจ้าง และการมอบประกันภัยโควิด-19 ให้กับทุกคน 
 
นอกจากนี้  ยังมีแผนที่จะริเริ่มโครงการต่างๆ ภายในปี 2563 โดยมุ่งไปที่กระบวนการภายใต้ความต้องการพื้นฐานทั้ง 3 ส่วน ได้แก่ 1. มาตรการสร้างอาชีพ เสริมรายได้ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างอาชีพและรายได้ที่ยั่งยืนแก่คนไทยในทุกระดับ  2. สร้างอาชีพแก่ชุมชนอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่น รวมถึงการช่วยเหลือคนพิการให้มีอาชีพ ภายใต้งบประมาณ 150 ล้านบาท และ 3. สร้างแพลตฟอร์มระดมทุนออนไลน์ (Crowdfunding Platform) ให้คนที่ต้องการเริ่มธุรกิจใหม่แต่ยังขาดเงินทุน รวมถึงสนับสนุนนักเรียน โรงเรียน โรงพยาบาล และงานวิจัย ตั้งเป้าการระดมทุนกว่า 100 ล้านบาท
 
ขณะเดียวกัน ยังมีการนำเสนอมาตรการลดค่าครองชีพ ลดและตรึงราคา  รวมไปถึงมาตรการส่งเสริมสุขภาพ โดยมาตรการทั้งหมดนี้กลุ่มเซ็นทรัลหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระรัฐบาลและฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยได้เป็นอย่างดี  
 

บันทึกโดย : วันที่ : 09 พ.ค. 2563 เวลา : 10:36:11
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 9:04 pm