จากการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ของภาครัฐที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่งผลให้ประเทศไทยเริ่มเห็น “ความปกติแบบใหม่กับสังคมไทย หรือ New Normal” เนื่องจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด-19 ยังไม่หายไปจากโลกใบนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศยุโรป และอเมริกา ซึ่งถือว่ามีการระบาดอย่างหนัก ส่งผลให้ปัจจุบันตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งทะยานเกือบ 4 ล้านคนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แม้ว่าประเทศไทยจะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะถ้าการ์ดตกเมื่อไหร่โรคโควิด-19 อาจกลับมาแพร่ระบาดระลอก 2 เหมือนกับประเทศญี่ปุ่น และสิงคโปร์ก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้ บรรดาผู้ประกอบการต่างๆ จึงต้องออกมารับลูกคำแนะนำของภาครัฐในการวางมาตรการป้องกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่นเดียวกับผู้ประกอบการวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ หากรัฐบาลไฟเขียวให้กลับมาเปิดกิจการได้ตามปกติ
นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ หรือ RSTA กล่าวว่า ในช่วง Restart phase! ก่อนที่จะกลับมาดำเนินกิจการ ทางสมาคมฯ ได้วางแผนแม่บท 6 ข้อ 47 มาตรการ ภายใต้นโยบาย “ย่านราชประสงค์ปลอดภัย มั่นใจไร้โควิด-19” โดยจะดำเนินการทดลองใช้ภายในย่านราชประสงค์ เพื่อศึกษาวิธีการจัดสรรพื้นที่เปิด ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะและเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้มีความสะอาดปลอดภัย สามารถติดตามตัวผู้มีความเสี่ยง หรือผู้ติดเชื้อย้อนหลังได้โดยการใช้ระบบกล้องซีซีทีวี มีการ Tracking ข้อมูลสุขภาพ และการเดินทางของพนักงานย้อนหลัง 14 วัน
เหตุผลที่ทำให้สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ต้องออกมาประกาศมาตรการเข้ม เนื่องจากย่านราชประสงค์เป็นศูนย์รวมสถานที่ และมีความหลากหลายด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรมของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว แหล่งที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร และศูนย์การค้า ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักและคุ้นเคย
นายชาย กล่าวต่อว่า หากย่านราชประสงค์สามารถดำเนินการตามมาตรการที่วางไว้ได้สำเร็จ เชื่อว่าจะสามารถนำไปเป็นต้นแบบให้ภาครัฐและเอกชนนำมาตรการดังกล่าวไปใช้จัดการพื้นที่สาธารณะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะกลับเข้ามาเที่ยวเมืองไทยหลังสถานการณ์โควิดควบคุมได้ เนื่องจากแผนแม่บท 47 มาตรการ ครอบคลุมความปกติใหม่ หรือ New Normal ของพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปได้
นอกจากนี้ สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ยังจะทำการวางโครงสร้างมาตรการการดูแลพื้นที่ออกเป็น 3 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 มาตรการพื้นที่สาธารณะของย่านราชประสงค์ โซนที่ 2 มาตรการของศูนย์การค้า และ มาตรการของอาคารสำนักงาน โซนที่ 3 มาตรการศูนย์อาหาร โดยจะมีการวัดอุณหภูมิทุกคนด้วยเครื่องมือตรวจจับอุณหภูมิความร้อน (Thermal Scan) บริการจุดจำหน่ายหน้ากาก RSTA ติดตามตัวผู้มีความเสี่ยง หรือผู้ติดเชื้อย้อนหลังได้โดยใช้ระบบกล้องซีซีทีวี มีการ Tracking ข้อมูลสุขภาพ และการเดินทางของพนักงานย้อนหลัง 14 วัน
ทั้งนี้ ผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ย่านราชประสงค์ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย และมีป้ายประชาสัมพันธ์เรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เป็นระยะ ในส่วนของการรักษาความสะอาด มีจุดบริการแอลกอฮอล์เจล และแม่บ้านที่สวมหน้ากากอนามัย หรือ Face Shield ทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลาง อาทิ บันไดเลื่อน ราวจับ ป้ายต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอ และร่วมมือกับกรุงเทพมหานครในการทำความสะอาด และพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทุกพื้นที่ในย่านราชประสงค์ทุกสัปดาห์
นายชาย กล่าวอีกว่า นอกจากมาตรการดังกล่าวที่จะมีความเข้มข้นแล้ว ทางสมาคมฯ ยังจะนำ 5 แกนหลักมาตรการความสะอาดและความปลอดภัยเชิงรุก มาร่างแม่บท เพื่อปรับใช้ในย่านราชประสงค์
ได้แก่ 1.การคัดกรองอย่างเข้มงวด (Extra Screening) ได้แก่ การตั้งจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิลูกค้าและพนักงาน บริเวณทางเข้าหลักของทุกอาคาร ลูกค้าและพนักงานต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ทั่วทุกศูนย์ ทุกร้านค้า และลิฟท์ทุกตัว
2.มาตรฐาน Social Distancing ได้แก่ เกษรวิลเลจ จำกัดจำนวนคนเข้าศูนย์การค้า ไม่เกิน 1 คน ต่อ 16 ตร.ม. ในทุกศูนย์การค้าจะมีการทำสัญลักษณ์หรือตีเส้นตาราง กำหนดระยะห่าง 1-2 เมตรทุกจุด ในลิฟท์ ห้องน้ำ พื้นที่ส่วนกลาง ร้านค้า และร้านอาหาร จัดพื้นที่นั่งรอสำหรับร้านค้า และ เดลิเวอรี แมน โดยให้มีระยะห่าง
3.การติดตามเพื่อความปลอดภัย (Safety Tracking) มีการ Tracking ข้อมูลสุขภาพและการเดินทางของพนักงาน ย้อนหลัง 14 วัน
4.การใส่ใจในความสะอาดทุกจุดสัมผัส (Extra Cleaning) ทำความสะอาดและพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อพื้นที่ส่วนกลางทุกสัปดาห์,ล้างทำความสะอาดระบบปรับอากาศด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกวัน ทำความสะอาดภายในห้องน้ำ ลิฟท์ จุดสัมผัสต่างๆ ทุก 30 นาที ทำความสะอาดฆ่าเชื้อบัตรจอดรถ บัตรศูนย์อาหารทุกศูนย์การค้า ก่อนและหลังการใช้งาน โดยศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ มีการติดตั้งเครื่อง UV-C ฆ่าเชื้อที่ถุงสินค้าหรือบริการสเปรย์ทำความสะอาดฆ่าเชื้อที่ถุงสินค้า
5.แนวทางลดการสัมผัส (Touchless Experience) จัดพนักงานเปิด-ปิดประตู และกดลิฟท์เพื่อลดการสัมผัส อัมรินทร์ พลาซ่า และ เซ็นทรัลเวิลด์ ส่งเสริมการใช้อีเพย์เมนท์ และสังคมไร้เงินสด เกษรวิลเลจ เซ็นทรัลเวิลด์ เดอะ แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ และ เดอะมาร์เก็ต แบงคอก มีบริการพรมเช็ดเท้าฆ่าเชื้อที่ประตูทางเข้า
นายชาย กล่าวปิดท้ายว่า หากภาครัฐสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ในระยะเวลาอันใกล้ผ่านการร่วมแรงร่วมใจของคนไทยทุกคน มาตรการผ่อนปรนและการกลับมาเปิดกิจการของผู้ประกอบการธุรกิจร้านค้า ร้านอาหารก็จะทยอยกลับมา ซึ่งผู้ประกอบการทุกคนมีหน้าที่ดำเนินการตามมาตรการรักษาความสะอาดปลอดภัยที่ภาครัฐกำหนดไว้อย่างแข็งขัน
สำหรับภาคธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์จะมีข้อกำหนด หรือการให้ Certify โรงแรมที่ผ่านเกณฑ์สะอาดปลอดภัย ออกมาเสริมความมั่นใจให้กับนักท่องที่ยว นอกเหนือจากมาตรการที่หน่วยงานภาครัฐกำหนดไว้ เช่น มาตรการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และมาตรการกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น
ทั้งนี้ ก็เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการในย่านราชประสงค์ ซึ่งนายชาย บอกว่า ยินดีน้อมรับคำแนะนำพร้อมนำไปปรับใช้อย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตให้กับคนทำงาน และนักท่องเที่ยว หลังจากภาครัฐไฟเขียวให้ธุรกิจต่างๆ ในย่านราชประสงค์สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงแรม สถานบันเทิง หรืองานอีเวนต์ต่างๆ ซึ่งกลางเดือน พ.ค.นี้ แว่วมาว่าภาครัฐจะมีการผ่อนปรนในระยะที่ 2 ให้กับอีกหลายธุรกิจ
ข่าวเด่น