กลยุทธ์การลงทุน:
เราให้ระวังมากขึ้นต่อแรงขายบริเวณ 1300 จุด นอกจากมูลค่าพื้นฐานที่ตึงตัวแล้ว ตลาดมีความกังวลมากขึ้นต่อ Second wave ของ COVID หลังมีการปลด Lockdown และติดตามประเด็นการค้าสหรัฐ และจีน หลังมีการไฟเขียวให้ทรัมป์คว่ำบาตรจีนได้ หากไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัส ด้านดัชนี VIX ปรับขึ้นกว่า 30% สะท้อนความกังวลมากขึ้นของตลาด แนวโน้ม SET มองวันนี้ยังไม่ผ่าน 1300 จุด และกลับมาปรับลง โดยมีแนวรับอยู่ที่ 1292 และ 1284 จุด ส่วนบริเวณ 1278 จุด ต่ำกว่าจะกลับมาเป็นลบในภาพรวม กลยุทธ์ เน้นขายทำกำไร จะซื้อให้เล่นสั้น การซื้อลงทุนรอแถว 1200 จุด
ล็อคเป้าลงทุน:
- จากนี้ให้ระมัดระวังหุ้นที่ valuation แพง ราคาปรับขึ้นมามาก แต่มีความเสี่ยงปรับประมาณการฯ ลง โดยเฉพาะ THAI ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นเคลื่อนไหวผันผวนแรง ขณะที่แผนฟื้นฟูกิจการ (เช่น รายละเอียด แผนระยะสั้น-ยาว และระยะเวลา) ยังมีความไม่แน่นอน อีกทั้งภาพอุตสาหกรรมการบินเองก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก COVID-19 ซึ่งทำให้เรามองว่าการฟื้นกิจการยิ่งต้องใช้เวลา เรายังคงแนะนำหลีกเลี่ยงการเก็งกำไรใน THAI
- สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงยังคงให้ trading จบในวัน แนะนำ BBL คาดจะเป็นธนาคารแห่งเดียวที่ตั้งสำรองฯ ลดลงในปีนี้ แม้ NIM หดตัว แต่คาดสินเชื่อในปีนี้จะขยายตัวได้ 4% สวนทางกับ GDP ที่จะหดตัวแรง นอกจากนี้ยังมี upside ส่วนเพิ่มที่เรายังไม่ได้รวมในประมาณการจากการเข้าซื้อ Permata ที่จะช่วยหนุน ROE ขึ้นอีก 75 bps กำไรสุทธิเพิ่มอีก 8% สินเชื่อเพิ่มขึ้น 10% และ NIM เพิ่มขึ้นอีก 15 bps ราคาหุ้นปัจจุบันมี upside เกือบ 40%
ประเด็นสำคัญ
# ตลาดหุ้นสหรัฐร่วง นักลงทุนจับตาผลกระทบปลด Lockdown ต่อศก.
ผอ.ศูนย์โรงติดต่อแห่งชาติแจ้งเตือนต่อคองเกรสว่า ไวรัสยังควบคุมไม่ได้ การเร่งปลด Lockdown เร็วเกินไปจะทำให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีความกังวลประเด็นการค้าสหรัฐ-จีน หลังคณะกฎหมายของข้อตกลงการค้าระบุว่าปธน.ทรัมป์สามารถคว่ำบาตรจีนได้หากไม่ให้ความร่วมมือสืบสวนการแพร่ระบาดไวรัส ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับลง
# ราคาน้ำมันพุ่ง หลังซาอุดิอาระเบียจะตัดลดกำลังการผลิตใน มิ.ย.
โดยจะลดลงอีก 1 ล้าน สู่ 7.5 ล้านบาร์เรล/วัน ด้าน UAE และคูเวต จะลดกำลังผลิตลงประเทศละ 1.8 แสนบาร์เรล ขณะที่ EIA ปรับลดการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันปีนี้ลงอีก 2.9 ล้าน เหลือโตเพียง 8.13 ล้านบาร์เรล
# โค้งสุดท้ายของรายงานงบฯ 1Q63 บจ. ประกาศงบแล้วกว่า 230 บจ.
จากข้อมูลที่รวบรวมถึงวานนี้ พบว่า บจ. ใน SET กำไรสุทธิลดลงกว่า 45%YoY และ 27%QoQ โดยกลุ่มที่กำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยฯ คือ กลุ่มพลังงาน ลดลง 94%YoY และ 91%QoQ กลุ่มอสังหาฯ ลดลง 48%YoY และ 54%QoQ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ลดลง 46%YoY และ 10%QoQ กลุ่ม ICT ลดลง 17%YoY และ 13%QoQ
Wealth Strategy
กระจายการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกผ่านกองทุน TMBGF เน้นลงทุนในตราสารหนี้ Investment grade ในประเทศที่พัฒนาแล้ว
บทวิเคราะห์วันนี้
BBL – สามารถบริหารความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ได้
CPALL – 1Q63: กำไรเป็นไปตามคาด
GFPT – 1Q63: กำไรสุทธิดีเกินคาดเพราะรายการพิเศษ
IVL – 1Q63: พลิกฟื้นจากขาดทุนเพราะ spread ดีขึ้น
MTC – ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเพราะปรับคาดการณ์สำรองลดลง
PCSGH – 1Q63: กำไรสุทธิได้แรงหนุนจาก FX กำไรปกติอ่อนแอ
SPRC – 1Q63: ขาดทุนเพิ่มขึ้น QoQ เพราะราคาน้ำมันร่วงลงแรง
ข่าวเด่น