หลังจากรัฐบาลได้ออกมาประกาศการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๘ หรือ พ.ร.ก ฉุกเฉิน ซึ่งมีผลเริ่มใช้จั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา  ซึ่งหนึ่งข้อประกาศดังกล่าว คือ การห้ามมิให้มีการชุมนุม การทํากิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทําการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ส่งผลให้การทำกิจกรรมต่างๆ ต้องยุติลง  หนึ่งในนั้น คือ การถ่ายทำละคร และภาพยนตร์

cr photo : the tiger

จากมาตรการดังกล่าวทำให้บรรดาสถานีโทรทัศน์ต่างๆได้รับผลกระทบไปแบบเต็มๆ เนื่องจากไม่สามารถถ่ายทำละคร หรือถ่ายรายการทีวีได้ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้บรรดาสถานีโทรทัศน์ต่างๆ โดยเฉพาะช่วงที่มีความแข็งแกร่งในด้านของรายการละครอย่างช่อง 3  ช่อง 7 และช่องวัน  ที่ต้องปรับแผนกันอย่างเร่งด่วน ด้วยการนำละครเก่ามารีรัน เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติในช่วงนี้จนกว่าสถานการณ์จะปกติ

เห็นได้จากเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาช่อง 3 ได้มีการนำละครเรตติ้งดีอย่าง “ทองเอกหมอยาท่าโฉลง” มาออกอากาศอีกครั้งในช่วงไพร์มไทม์เวลา 20.20-22.30 น. โดยประมาณ  ซึ่งหลังจากเรื่องดังกล่าวจบก็จะตามด้วยเรื่อง “เขาวานให้หนูเป็นสายลับ” เช่นเดียวกับช่อง 7 ที่นำละครเรตติ้งดีอย่าง “ผู้บ่าวอินดี้ ยาหยีอินเตอร์” มารีรัน  และช่องวันส่งเรื่อง “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” ตามด้วย  "เธอคือพรหมลิขิต" มาออกอากาศ เพื่อประคองเรตติ้งละรายได้

นอกจากนี้  ในส่วนของรายการบันเทิงต่างๆ ก็ได้มีการนำเทปรายการเก่าๆ มาออกอากาศเช่นกัน  เพื่อตอบรับมาตรการ  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ต้องการให้คนไทยอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ

ด้วยความที่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด-19 มีความร้ายแรงกว่าที่คิด  ทำให้คนไทยกลับมาให้ความสนใจรายการข่าวมากขึ้น ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าว จึงทำให้หลายช่องหันมาให้ความสำคัญกับรายการข่าวเพิ่มขึ้น เพื่อดึงเรตติ้งในช่วงที่คนไทยอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ

เริ่มจากช่อง 3 ที่หยิบเอารายการข่าวมาออกอากาศตั้งแต่ช่วงเช้า 04.30 น. จันทร์-ศุกร์ กับช่วงของ ครอบครัวข่าว 3 ที่ยึดหลัก “ข่าวจริง ทันเหตุการณ์ พึ่งพาได้” ไล่มาตั้งแต่รายการ “เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง” “เรื่องเล่าเช้านี้” และเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30-12.15 น. กับ “เรื่องเล่า เสาร์-อาทิตย์”  ตามด้วยรายการ “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” จันทร์-ศุกร์ เวลา 11.20-12.20 น. ต่อด้วยรายการ “โหนกระแส”  ตามด้วยรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้”  จันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-16.45 น.  และปิดท้ายด้วยรายการ “ข่าว 3 มิติ”  ขณะที่เช้าวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 06.00-06.20 น. จะพบกับรายการข่าว “เช้าวันหยุด”  รายการ “ข่าววันใหม่” และปิดท้ายด้วยรายการข่าวด่วน “แฟลชนิวส์” เพื่ออัปเดตเหตุการณ์ปัจจุบันเข้ามาเป็นช่วงๆ  เพื่อให้ผู้ชมไม่พลาดข่าวสำคัญ

ขณะที่ช่อง 7 เองก็มีการเพิ่มความเข้มข้นของรายการข่าวในช่วงเวลาเย็นวันอาทิตย์ ด้วยการเสิร์ฟข้อมูลข่าวสาร อัพเดตข่าวเด็ดประเด็นแรง ให้ชมกันแบบสบายๆ สไตล์ News Variety Talk  และเต็มอิ่มไปกับ ข่าวเด่น เรื่องดัง สัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เกาะติดทิศทางสังคมไทย และสาระความรู้ที่ดูไม่เบื่อ ผ่านคอลัมน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น คอลัมน์ “คนในข่าว” ที่จะพาไปคุยต่างมุมกับคนดังในกระแส, คอลัมน์ “เรื่อง Fake Fake” ตีแผ่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวปลอม พร้อมข้อมูลอ้างอิงจากผู้เกี่ยวข้องหรือผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น          

ส่วนช่อง TNN16 ก็เดินหน้าลุยรายการข่าวอย่างเต็มที่เช่นกัน  โดยล่าสุดล่าได้มีการเปิดตัวรายการใหม่ “Business Watch จับกระแสธุรกิจ”  เพื่อตอบโจทย์กลุ่มสังคมปัญญาอย่าง ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ และผู้บริหาร เพื่อก้าวสู่การเป็นอันดับ 1 ช่องข่าวเศรษฐกิจทีวีดิจิทัล

นายองอาจ ประภากมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกัด  ผู้บริการช่อง TNN16 กล่าวว่า  เพื่อตอกย้ำจุดยืนการเป็นสถานีข่าวคุณภาพเข้มข้นตามสโลแกน “ทันโลก ทันเศรษฐกิจ ทันทุกความจริง” จึงไม่หยุดยั้งในการสรรค์สร้างและพัฒนาคอนเทนต์จนได้รายการใหม่อย่าง “Business Watch จับกระแสธุรกิจ” เป็นการนำเสนอเรื่องราวเชิงวิเคราะห์ ขยายความ เจาะลึกในทุกประเด็นข่าวเศรษฐกิจ ที่เป็นประโยชน์ต่อการรับรู้ของผู้ชม เพื่อเตรียมพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

ด้านช่องไทยพีบีเอสก็มีการปรับผังรายการใหม่เกือบ 100% เพื่อยกระดับการผลิตเนื้อหา เชื่อมเครือข่าย โดยการระดมผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์ข้อมูลในมิติต่างๆ

รศ.ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส  กล่าวว่า หลังจากที่กรมควบคุมโรคเผยแพร่ Scenario 3  แบบที่อาจมีผู้ติดเชื้อถึง 17 ล้านคน ส่งผลให้ไทยพีบีเอสวางแผนยกระดับเนื้อหาให้ทันต่อสถานการณ์ ปรับผังและนำเสนอเนื้อหา COVID-19 ในสัดส่วน  60% ของผัง เริ่มจากรายการ “วันใหม่วาไรตี้” วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 น. รายการให้สาระความรู้การใช้ชีวิตในเรื่องรอบๆ ตัว “จับตาสถานการณ์” วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.30-13.00 น. เสนอข่าวเหตุการณ์เกี่ยวกับ COVID-19 มาตรการต่างๆ “โควิด-19 สู้ไปด้วยกัน” วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00-14.00 น. พื้นที่ของภาคพลเมือง นำเสนอความร่วมมือร่วมใจของชุมชนต้นแบบ สู้ภัยโควิดด้วยพลังของชุมชน รายการ “สถานีประชาชน” วันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00 น. จะเจาะที่การรับแจ้งปัญหาอันสืบเนื่องจากภาวะการระบาดนี้ เช่น ภาวะการตกงาน ปัญหาหนี้สิน โดยมีหน่วยงานภาครัฐมาร่วมรับฟังและหาทางออกให้กับประชาชน

สำหรับช่วงเวลาไพร์มไทม์ ก็จะมีรายการ “ข่าวค่ำมิติใหม่ทั่วไทย” วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น. และเสาร์-อาทิตย์ เวลา 18.00 น. รายงานสถานการณ์ปัจจุบันและมาตรการต่างๆ ของภาคนโยบาย เกี่ยวกับ COVID-19 นำเสนอให้เห็นความเคลื่อนไหวทั่วประเทศ “ตอบโจทย์ COVID-19” วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 20.30 น. เน้นสนทนากับฝ่ายนโยบายหรือผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับมาตรการ การแก้ไขปัญหาการระบาด COVID-19  รายการใหม่ “ไทยสู้โควิด-19” วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 21.00-22.15 น. รายการสดที่ตอบทุกข้อสงสัย ผู้ชมถาม ผู้เชี่ยวชาญตอบ

ส่วนวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ จะเป็นเวลาของเด็กและครอบครัว โดยตั้งแต่เวลา 06.00-09.00 น. จะเป็นรายการ “รู้สู้ภัย” วันเสาร์ เวลา 11.00 น. ที่ปรับมาเป็นการเตรียมพร้อมอย่างมีสติและเท่าทันสถานการณ์ในภาวะการระบาดของ COVID-19  รายการ “ฟังเสียงประเทศไทย ไทยสู้โควิด-19” วันเสาร์ เวลา 17.30 น. นำเสนอตัวอย่างการจัดการชุมชนในรูปแบบต่างๆ หลากหลายแง่มุม ทั้งเศรษฐกิจชุมชน  รายการ “รู้สู้ภัย ไทยสู้โควิด-19” วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. เน้นนำเสนอเรื่องราวจิตอาสา และบุคลากรการแพทย์ที่เป็นนักรบสู้โควิด-19 เป็นต้น