เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจไทยปี 63 เสี่ยง ''ตกต่ำ'' เป็นประวัติการณ์


เศรษฐกิจไทยปี 63 เสี่ยง ”ตกต่ำ” เป็นประวัติการณ์


GDP ไตรมาส 1 ปี 2563 ต่ำสุดในรอบ 9 ปี
 
ไตรมาส 1 ปี 2563  ติดลบ 1.8%
ไตรมาส 1 ปี 2557  ติดลบ 0.4% 
ไตรมาส 4 ปี 2554  ติดลบ 4.0%
 
ประกาศกันออกมาแล้ว “ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ” หรือ จีดีพี ไตรมาส 1 ของปี 2563 ปรากฎว่าหดตัว 1.8% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ถือว่าดีกว่าที่สำนักพยากรณ์เศรษฐกิจส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะหดตัวมากกว่า -2% แต่ถือเป็นการลดลง ”ครั้งแรก” นับตั้งแต่ไตรมาส 1 ในปี 2557 แต่ “ต่ำที่สุด” ในรอบ 9 ปี หรือตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งเป็นปีน้ำท่วมใหญ่
 
และเมื่อปรับฤดูกาลออกแล้ว จีดีพีไตรมาส 1 ปี 2563 หดตัว 2.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็นการติดลบต่อเนื่อง จากจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2562 ที่หดตัว 0.2% ดังนั้นเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ถือว่าได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจ “ถดถอยทางเทคนิค” แล้ว (technical recession) เนื่องจากจีดีพีปรับฤดูกาล ติดลบติดต่อกัน 2 ไตรมาส
 
อย่างไรก็ดี  แม้จีดีพีไตรมาส 1 ที่ผ่านมา จะต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี แต่เชื่อว่าจะเป็นการหดตัวน้อยที่สุดในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19  ยังไม่ชัดเจน โดยไตรมาส 2 ของปีนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และทุกสำนักวิจัยเศรษฐกิจ ฟันธงว่า จีดีพีไตรมาส 2 จะหดตัวมากกว่าไตรมาส 1 ที่ผ่านมา และจะเป็นการหดตัว “รุนแรง” ที่สุดของปีนี้ จากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์ และการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนในไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ เศรษฐกิจจะยังคงหดตัวต่อเนื่อง เป็นการติดลบที่คาดว่าจะติดลบน้อยลงตามลำดับ


ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2563 ของสำนักวิจัยต่างๆ
 
สศช. -5.5%
ธปท.-5.3%
อีไอซี ไทยพาณิชย์  -5.6%                     
วิจัยกรุงศรี -5.0%
สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด-5.0%
บล.ภัทร -9.1%
Krungthai COMPASS -8.8%

ข้อมูล ณ วันที่ 18 พ.ค. 2563

ดังนั้น เศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่าจะหดตัวรุนแรงที่สุดตั้งแต่ปี 2541 ที่หดตัว 7.6% เนื่องจากวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 โดยสำนักพยากรณ์เศรษฐกิจส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจีดีพีปี 2563 จะหดตัวราว -5% ถึง -6%  ภายใต้สมมติฐานสำคัญ คือ สามารถควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ภายในไตรมาส 2 และไม่มีการแพร่ระบาดรอบ 2 กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาขับเคลื่อนในช่วงไตรมาส 3 และ 4  ส่งผลให้เศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
 
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยปีนี้มีความเสี่ยงจะตกต่ำมากกว่าปี 2541 เพราะเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจย่ำแย่ทุกตัว โดยเฉพาะการส่งออกและการท่องเที่ยวที่หดตัวรุนแรง และเครื่องยนต์ทั้งสองตัวมีสัดส่วนต่อจีดีพีค่อนข้างสูง โดยสำนักวิจัยบางแห่งประเมินว่าอาจจะถึง -8% ถึง -9% แต่ถ้าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยืดเยื้อไปถึงครึ่งปีหลัง และมีการแพร่ระบาดซ้ำ ประเมินกันว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจติดลบถึง 10% หรือตกต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ 
 
อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด -19 ของไทย จะเริ่มคลี่คลายลง แต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะการแพร่ระบาดโควิด-19 ในต่างประเทศยังน่ากังวล จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และทะลุ 5.4 ล้านคนไปแล้ว โดยเสียชีวิตกว่า 3.4 แสนคนนั่นหมายว่าเศรษฐกิจโลกยังน่าเป็นห่วง
 
โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะหดตัว 3% และเศรษฐกิจไทยจะหดตัวรุนแรงถึง -6.7% ดังนั้นหากยังไม่มีวัคซีนรักษาโรค ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจทั่วโลกและเศรษฐกิจไทยก็ยังคงอยู่ แต่จะมีความรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์กันไว้หรือไม่ ยากที่จะประเมิน ที่ทำได้คือต้องเตรียมพร้อมรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้ทันท่วงที เพราะนี่คือวิกฤติครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของเศรษฐกิจโลก

บันทึกโดย : วันที่ : 25 พ.ค. 2563 เวลา : 10:44:30
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 2:21 pm