การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
รายงานสถานการณ์โควิด-19 วันที่ 28 พ.ค. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11 ราย


ศบค. เผยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 11 คน ซึ่งกลับจากต่างประเทศทั้งหมดและกักตัวใน Staet Quarantine ไม่มีเสียชีวิต วอนทุกฝ่ายร่วมมือ สวมหน้ากาก 100% จับตาประชุม ศบค.พรุ่งนี้ (29 พ.ค.63) เตรียมเคาะกิจการ/กิจกรรมคลายล็อคดาวน์เฟส 3 พร้อมปรับลดเวลาเคอร์ฟิวจาก 5 ทุ่ม-ตี 4


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ป่วยโรคโควิด-19ในวันนี้ (28 พ.ค.63) พบว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อ 11 คน ทำให้ยอดสะสมอยู่ที่ 3,065 คน รักษาหายเพิ่ม 14 คน สะสม 2,945 คน และไม่มีผู้เสียชีวิต ทำให้ยอดสะสมอยู่ที่ 57 คน สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาอยู่ที่ 63 คน

  ผู้ป่วยใหม่ทั้ง 11 คน เป็นผู้ป่วยที่กลับจากต่างประเทศ และอยู่ใน State Quarantine ทั้งหมด แบ่งเป็น

  รายแรก เป็นหญิงไทย อายุ 32 ปี กลับจากท่องเที่ยวจากประเทศอินเดีย 1 คน และเข้าใน State Quarantine ที่ จ.สมุทรปราการ โดยไม่มีอาการ

 อีก 6 คน กลับจากประเทศกาตาร์ 6 คน โดยรายที่ 1-5 เป็นเพศชาย อาชีพพนักงานนวด และรายที่ 6 เป็นเพศหญิง อาชีพแม่บ้าน กลุ่มนี้ 3 คนไม่มีอาการ

  และ 4 คน กลับจากประเทศคูเวต เป็นเพศชาย ทำงานที่แคมป์ของบริษัทต่างชาติ

“ขอให้ใส่หน้ากากอนามัยกัน 100% เรากำลังจะไปสู่การผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 3 มีความเสี่ยงในเรื่องการติดเชื้อปานกลางไปทางสูง เครื่องมือที่จะป้องกันได้ดีที่สุด โดย WHO ยอมรับว่า การใช้หน้ากากอนามัยป้องกันได้ และเราประสบความสำเร็จตรงนี้ด้วย แม้ตัวเลขที่เกิดขึ้นตอนนี้มาจากต่างประเทศ และอยู่ใน State Quarantine ทั้งสิ้น แต่เรายังต้องร่วมมือกัน เพราะไม่ต้องการให้เกิดระลอกสอง เพราะในต่างประเทศอย่างสิงคโปร์ที่เกิดระลอก 2 ติดเชื้อหลักหมื่นคน และเราไม่อยากให้เกิดขึ้นกับของไทยเรา”

ด้านสถานการณ์ทั่วโลก 211 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ พบผู้ป่วย 5,789,843 คน อาการหนัก 52,974 คน รักษาหายแล้ว 2,497,024 คน และเสียชีวิต 357,432 คน โดย 5 อันดับแรก คือ สหรัฐ บราซิล รัสเซีย สเปน และสหราชอาณาจักร (UK) ขณะที่ไทยอยู่อันดับที่ 77

ภาพรวมการใช้งาน www.ไทยชนะ.com จำนวนกิจกรรม/กิจการลงทะเบียน 120,953 ร้าน จำนวนผู้ใช้งาน 14,719,447 คน เช็คอิน 38,851,693 คน เช็คเอาท์ 25,830,131คน และประเมินร้าน 14,980,678 คน

สำหรับกิจการ/กิจกรรมที่จะเปิดได้ในระยะต่อไป ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ต้องรอติดตามการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอาชา นายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศบค. ในวันพรุ่งนี้ (29 พ.ค.63) แต่เป็นที่ชัดเจนว่า จะมีการปรับลดเวลาเคอร์ฟิว จากปัจจุบันกำหนดเวลาเคอร์ฟิว 23.00น.-04.00 น.

อย่างไรก็ตาม มองว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ผู้ประกอบการตื่นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการที่เป็นความเสี่ยงสูง ขณะที่ประชาชนในฐานะผู้ใช้บริการ ต้องยอมรับความเสี่ยงด้วย ด้านผู้ให้บริการจะต้องเสนอแนวทางวิธีการที่ให้ประชาชนคนไทยมั่นใจในกิจการว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง จะเปิดมีมาตรการอย่างไร ที่จะป้องกันการติดเชื้อ

“ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่ามีกิจการใดบ้าง แต่ที่ทำได้ดี คือ ห้างสรรพสินค้า ที่ยังไม่มีติดเชื้อขึ้นมา ดังนั้นในระยะต่อไปกิจการภายในห้างจะเปิดได้มากขึ้น ด้าน กีฬา ถือเป็นส่วนสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรคได้ด้วย ซึ่งจะเปิดให้มากขึ้น เช่น การซ้อมของนักกีฬา และเคอร์ฟิว เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) บอกว่า แนวโน้มให้ลดเวลาลงจาก 23.00-04.00 อาจลดได้อีก แต่เวลาเท่าไรต้องรอพรุ่งนี้”นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

ทั้งนี้เมื่อมีการผ่อนคลายให้เปิดกิจการ/กิจกรรมระยะ 3 แล้ว สิ่งที่ต้องทำร่วมกัน กิจการ/กิจกรรมต้องผ่านการลงทะเบียนผ่านแอพฯ"ไทยชนะ" ส่วนผู้ใช้บริการ ต้องเช็คอิน-เช็คเอ้าท์ เพราะกิจการ/กิจกรรมระยะนี้มีเกณฑ์ติดเชื้อระยะปานกลาง-สูง

บันทึกโดย : วันที่ : 28 พ.ค. 2563 เวลา : 13:06:53
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 5:24 am