เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ธปท.ชี้ภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ค.63 หดตัวสูงต่อเนื่อง


นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนพฤษภาคม 2563 หดตัวสูงต่อเนื่อง จากอุปสงค์ต่างประเทศทั้งภาคการท่องเที่ยวที่ยังหดตัวสูงจากการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ และภาคการส่งออกสินค้าที่หดตัวสูงขึ้นตาม

อุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่อ่อนแอ ส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนและการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายภาครัฐ
ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนหดตัวน้อยลงบ้าง จากการผ่อนคลายมาตรการ
ปิดเมืองและมาตรการเยียวยาของภาครัฐ
 

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบมากขึ้น ตามอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสด และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ปรับลดลง สำหรับตลาดแรงงานเปราะบางขึ้นมาก ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดใกล้สมดุล ส่วนดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายเกินดุลสุทธิ จากทั้งด้านสินทรัพย์และด้านหนี้สิน

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจไทยมีดังนี้

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศหดตัวสูงต่อเนื่องที่ร้อยละ 100 จากระยะเดียวกันปีก่อน
โดยเป็นผลจากการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทย ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทาง
เข้ามาท่องเที่ยวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ส่งผลกระทบรุนแรงต่อธุรกิจและแรงงานในภาคที่เกี่ยวเนื่องกับ
การท่องเที่ยว

มูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวสูงขึ้นมากที่ร้อยละ 23.6 จากระยะเดียวกันปีก่อน หากไม่รวมการส่งออกทองคำ มูลค่าการส่งออกหดตัวที่ร้อยละ 29.0 โดยเป็นการหดตัวสูงในเกือบทุกหมวดสินค้าและเกือบทุกตลาด ตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่อ่อนแอ และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่หดตัวสูง ประกอบกับผลของภัยแล้งที่ทำให้การส่งออกน้ำตาลหดตัวสูง ทั้งนี้ มีเพียงการส่งออกหมวดสินค้าเกษตรที่ขยายตัวได้ ตามการส่งออกผลไม้ไปจีนเป็นสำคัญ

เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนหดตัวสูงต่อเนื่องจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยการใช้จ่ายหดตัวในทุกหมวด จากปัจจัยสนับสนุนด้านกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่ยังอ่อนแอ ทั้งในมิติการจ้างงาน รายได้ และความเชื่อมั่นที่อยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ดี อัตราการหดตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน เนื่องจากในเดือนนี้เริ่มมีการทยอยผ่อนคลายมาตรการจำกัดการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้กิจกรรมบางส่วนสามารถกลับมาดำเนินการได้ รวมทั้งได้รับแรงพยุงจากมาตรการเยียวยาของภาครัฐ ประกอบกับรายได้เกษตรกรหดตัวน้อยลง ทั้งนี้ อุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่อ่อนแอ เมื่อประกอบกับสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวสูงขึ้น
เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนหดตัวสูงขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน จากทั้งการลงทุนหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ และการลงทุนหมวดก่อสร้าง สะท้อนถึงการชะลอการลงทุนของภาคธุรกิจเนื่องจากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่อ่อนแอทำให้มีกำลังการผลิตส่วนเกินเหลืออยู่มาก ประกอบกับผู้ประกอบการมีความกังวลกับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง

มูลค่าการนำเข้าสินค้าหดตัวสูงขึ้นมากที่ร้อยละ 34.2 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการหดตัวสูงในทุกหมวดสินค้า ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค วัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง และสินค้าทุน สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมที่อ่อนแอ โดยการนำเข้าสินค้าที่ลดลงมากในเดือนนี้ทำให้ดุลการค้าปรับสูงขึ้น แม้การส่งออกสินค้าจะหดตัวสูง

การใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวต่อเนื่องจากระยะเดียวกันปีก่อน สะท้อนบทบาทการพยุงเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจด้านอื่นๆ หดตัวสูง อย่างไรก็ดี รายจ่ายประจำที่ไม่รวมเงินโอนและการลงทุนของรัฐวิสาหกิจหดตัวหลังจากที่ขยายตัวสูงในเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน ทำให้รายจ่ายรัฐบาล
ที่ไม่รวมเงินโอนโดยรวมแล้วทรงตัว แม้รายจ่ายลงทุนที่ไม่รวมเงินโอนจะขยายตัวต่อเนื่อง

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้มีความเปราะบางมากขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบมากขึ้นจากเดือนก่อน จากอัตราเงินเฟ้อในหมวดอาหารสดและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ปรับลดลง สำหรับตลาดแรงงานเปราะบางมากขึ้น สะท้อนจากจำนวนผู้ขอรับสิทธิ์ว่างงานในระบบประกันสังคมที่เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาสมดุลหลังจากที่ขาดดุลในเดือนก่อน จากดุลการค้าที่เกินดุลสูง ส่วนดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายเกินดุลสุทธิต่อเนื่องจากทั้งด้านสินทรัพย์และ
ด้านหนี้สิน แม้นักลงทุนต่างประเทศจะยังขายหลักทรัพย์สุทธิต่อเนื่อง

 


บันทึกโดย : acnewsวันที่ : 30 มิ.ย. 2563 เวลา : 16:15:50
23-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 23, 2024, 6:07 pm