ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบพอสมควรจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด-19 เพราะตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด และภาครัฐออกมาประกาศมาตรการป้องกันส่งผลให้ยอดขายของกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการหยุดชะงักไปชั่วขณะ โดยสิ้นปี 2563 นี้คาดการณ์กันว่าภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าน่าจะอยู่ในแดนลบ ส่วนจะติดลบมากหรือน้อย หรือจะเสมอตัวเท่ากับปีที่ผ่านมาคงต้องรอลุ้นช่วงครึ่งปีหลังว่าดันยอดขายให้กลับมาได้มากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าสถานการณ์ของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะน่าเป็นห่วง แต่หากมองเจาะลึกไปที่แต่ละกลุ่มสินค้าจะพบว่าท่ามกลางวิกฤตก็ยังมีโอกาสให้พอเห็นอยู่บ้าง เพราะจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้คนทั่วโลกหันมาใส่ใจสุขภาพ ส่งผลให้กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติดูแลสุขภาพมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่นเดียวกับยอดขายกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อสุขภาพของไฮเออร์
นายจาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ไฮเออร์ กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดจีนในไตรมาสแรกของปี 2563 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดไว้ได้ โดยมีกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อสุขภาพเป็นหัวหอกหลักในการสร้างยอดขาย เพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ยอดขายกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อสุขภาพเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพกันมากขึ้น
จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวทำให้ “ไฮเออร์” ยังคงมียอดขายที่น่าพอใจสวนทางภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะยอดขายในกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฮม
ปัจจุบัน “ไฮเออร์” เป็นเจ้าของแบรนด์ระดับโลก 7 แบรนด์ ได้แก่ GE Appliances (สหรัฐอเมริกา), Candy (อิตาลี), AQUA (ญี่ปุ่น) Fisher & Paykel (ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์), Haier, Casarte และ Leader บริษัทมีโรงงาน 122 แห่งทั่วโลก ซึ่ง 54 แห่งอยู่ในต่างประเทศ
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยช่วงครึ่งปีหลัง 2563 นี้ “ไฮเออร์” ได้เตรียมทุ่มงบ 170 ล้านบาท ลุยขยายตลาดสมาร์ทโฮมอย่างเต็มรูปแบบ ควบคู่ไปกับการฉลองครบรอบ 1 ปี Haier Brand Shop ด้วยการขนทัพสินค้ากว่า 30 รายการ มาจัดโปรโมชั่นพิเศษลดราคาสูงสุด 30%
นายจาง กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทได้วางกลยุทธ์การตลาดโดยการเตรียมแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการชูจุดเด่นในด้านของคุณภาพสินค้า ดีไซน์ที่สวยงาม นวัตกรรมล้ำสมัย และฟังก์ชันที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค
ขณะเดียวกัน ก็จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Haier Smart Home เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ พร้อมกับใช้งบการตลาดอีก 170 ล้านบาท ในการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ควบคู่ไปกับการสร้างการรับรู้และส่งเสริมการขายทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ขยายช่องทางการตลาด เจาะกลุ่มธุรกิจ B2B ปรับภาพลักษณ์ร้านตัวแทนจำหน่าย และพัฒนาบริการทั้งก่อนและหลังการขายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมฉลองครบรอบ 1 ปี Haier Brand Shop สาขารัชดาภิเษก ด้วยการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองคืนกำไรและขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไฮเออร์ ด้วยการขนทัพสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 30 รายการ จัด Haier Live Surprise ลดสูงสุดถึง 30% หลังจากที่ผ่านมาเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ได้รับการตอบรับอย่างดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผู้บริโภคในไทย เห็นได้จากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี
เหตุผลที่ทำให้ “ไฮเออร์” ตัดสินใจเปิด Haier Brand Shop เพื่อทดลองตลาดแห่งแรกในไทยบนถนนรัชดาภิเษก ไปเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ก็เพื่อเป็นศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ตู้แช่ โทรทัศน์ เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว รวมถึงเป็น Experience Center จัดแสดงสินค้านวัตกรรมในกลุ่ม Haier Smart Home เพื่อขยายตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าสมาร์ทโฮมและอีโคซิสเต็ม
ปัจจุบัน Haier Brand Shop มี 2 สาขาในประเทศไทย คือ สาขาอาคารภคินท์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ มีพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร และสาขาศาลหลักเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยร่วมกับตัวแทนจำหน่ายคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ขอนแก่นไทยแลนด์ ซึ่งในส่วนของสาขานี้ถือเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมีพื้นที่กว่า 600 ตารางเมตร และจากผลการตอบรับที่ดีของทั้ง 2 สาขา ทำให้ “ไฮเออร์” มีแผนจะเปิด Haier Brand Shop เพิ่มรวมเป็น 20 สาขา ภายในปี 2565 เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ให้เพิ่มขึ้น
พร้อมกันนี้ “ไฮเออร์” ยังมีการจัดกิจกรรม Haier Live On Tour ชมแอนด์ช้อป ลุ้นรับทอง ซีซันแรก ซึ่งหลังจากเริ่มจัดกิจกรรมดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมาพบว่าลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี จากการเข้าไปจัดกิจกรรม Haier Live On Tour ในกว่า 30 จังหวัดทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ เนื่องจากลูกค้าทั่วประเทศสามารถสั่งซื้อสินค้า “ไฮเออร์” จากดีลเลอร์หรือร้านตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านได้อย่างสะดวกสบายผ่าน Facebook Haier Thailand และ Facebook ของร้านตัวแทนจำหน่าย
หลังจากการจัดดังกล่าว พบว่าลูกค้าให้การตอบรับชม Live และสั่งซื้อสินค้า “ไฮเออร์” เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดขายสินค้า ”ไฮเออร์” ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตสูงถึง 40% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นายจาง กล่าวอีกว่า แม้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ไฮเออร์ของบริษัทยังมียอดขายเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น ซึ่งจากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าวทำให้บริษัทตั้งเป้าไว้ว่าภาพรวมยอดขายในปี 2563 นี้น่าจะอยู่ที่ 6,530 ล้านบาท เติบโตจากปี 2562 ประมาณ 38%
ข่าวเด่น