ศบค.เผยผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 1 คน เป็นทหารกลับจากฮาวาย สะสม 3,298 คน ยันพร้อมรับมือการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ระบุต้องไม่เกิดการแพร่กระจายในวงกว้างจนเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ว่า สถานการณ์ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในวันนี้ (29 ก.ค.63) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 คน เดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,298 คน หายป่วยสะสม 3,111 คน ไม่มีเสียชีวิตเพิ่มคงที่ 58 คน อยู่ระหว่างการรักษา 129 คน
โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 คน เดินทางกลับจากสหรัฐ เป็นชายไทยอายุ 26 ปี อาชีพข้าราชการทหาร กลับจากการฝึกทหารที่ฐานทัพฮาวาย เดินทางถึงไทยเมื่อ 22 ก.ค.63 เข้าพักที่ State Quarantine จ.ชลบุรี ส่งตรวจหาเชื้อเมื่อ 27 ก.ค.63 (Day5) ผลพบเชื้อ โดยเริ่มป่วยเมื่อ 25 ก.ค.63 มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก มีเสมหะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศรีษะ โดยประวัติเดินทางไปฝึกตั้งแต่ 1-22 ก.ค.63 ทั้งหมด 151 คน ที่พักเป็นเต็นท์ๆ 7-8 คน โดยผู้ป่วยพักในเต็นท์และดื่มน้ำจากแก้วเดียวกับเพื่อนทหารที่เป็นผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้
ทั้งนี้พบว่าผู้ป่วยใหม่ในประเทศไทยส่วนใหญ่มีอายุ 20-49 ปี ในวัยทำงาน เป็นเหตุผลทำให้ไทยมีอัตราการป่วยและเสียชีวิตค่อนข้างต่ำ และพื้นที่การแพร่ระบาดของโรค อยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ภูเก็ต และ
"สถานการณ์การพร่ระบาดในไทยดีขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งเราใช้มาตรการทางสาธารณสุขและภาคสังคม ทั้งภาคสมัครใจและภาคบังคับ ทำให้เราเจอการแพร่ระบาดในประเทศครั้งหลังสุดคือ 25 พ.ค. 63 จากนั้นเป็นการพบผู้ติดเชื้อเป็นผู้มาจากต่างประเทศ"
สถานการณ์ต่างประเทศ มีผู้ติดเชื้อยืนยันทั่ว.โลกรวม 16,891,173 คน มีอาการรุนแรง 66,504 คน รักษาหายแล้ว 10,455,814 คน เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 6,847 คน รวมเสียชีวิตสะสม 663,3358 คน
ทั้งนี้พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในภูมิภาคเอเชีย ประเทศอินเดีย พบผู้ป่วยถึง 50,000 คน/วัน ขณะที่ทั่วโลกมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นวันละ 250,000 คน ดังนั้นในทุก 4-5 วันทั่วโลกจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 1 ล้านคน ถือเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นจำนวนมาก
ดังนั้นสถานการณ์ของโลก ทำให้ไทยยังไม่นิ่งนอนใจ แม้จะไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้ยืนยันว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศ ดังนั้นช่วงที่ไทยไม่เจอผู้ป่วยใหม่ในประเทศ ภาครัฐกำลังเตรียมความพร้อมรองรับ หากพบการแพร่ระบาดอีกครั้ง เพื่อการตอบโต้อย่างเหมาะสม จำกัดการแพร่ระบาดในวงจำกัด ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม
"เป้าหมายของเราไม่ใช่ไม่เจอผู้ป่วยในประเทศเลย แต่ถ้าเจอแล้วเราจะตอบโต้ให้ดีที่สุดเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดในวงกว้าง"
มาตรการที่จำเป็นต้องดำเนินกาต่อไปทั้งระดับบุคคลและองค์กร เน้นย้ำการหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านโดยไม่จำกัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้อื่น หรือการรวมตัวกันหมู่มากเป็นเวลานาน สวมใส่หน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย และมาตรการที่สำคัญที่สุด เป็นมาตรการด้านสาธารณสุข คือการป้องกัน การค้นหา การรักษา และการควบคุมโรค ดังนั้นของให้โรงพยาบาลร่วมมือกันป้องกัน และค้นหา โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอาการทางปอด บุคลากรทางการแพทย์ที่ควรตรวจหาเชื้อโควิด-19
ข่าวเด่น