เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ธปท.รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนกรกฎาคม 2563


สรุปประเด็นสำคัญ

- ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนกรกฎาคม 2563 เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 จากเดือนก่อนที่ 38.5 มาอยู่ที่ระดับ 42.9 โดยปรับดีขึ้นในเกือบทุกธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ดัชนีรวมและดัชนีย่อยยังต่ำกว่า 50 ในทุกภาคธุรกิจ สะท้อนความเชื่อมั่นที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ แต่ทยอยมีสัญญาณปรับดีขึ้น
 
- ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 47.0 มาอยู่ที่ 48.6 โดยปรับดีขึ้นในเกือบทุกภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ผลิตยานยนต์ที่ดัชนีอยู่สูงกว่า 50 ได้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 
 
 
ในเดือนกรกฎาคม 2563 ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 มาอยู่ที่ 42.9 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในเกือบทุกธุรกิจ ยกเว้นกลุ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดัชนีฯ ลดลง หลังจากปรับดีขึ้นมากในเดือนก่อน โดยดัชนีฯ ของภาคการผลิตปรับเพิ่มขึ้นจากกลุ่มผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์และกลุ่มผลิตยานยนต์เป็นสำคัญ คาดว่าส่วนหนึ่งได้รับอานิสงส์จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในงาน Motor show ขณะที่ดัชนีฯ ของภาคที่มิใช่การผลิตปรับดีขึ้น นำโดยกลุ่มขนส่งและภาคก่อสร้างที่มีความเชื่อมั่นดีขึ้นในทุกองค์ประกอบ อย่างไรก็ตาม ดัชนีรวมและดัชนีย่อยยังคงต่ำกว่า 50 ในทุกภาคธุรกิจ สะท้อนว่าแม้ความเชื่อมั่นมีสัญญาณปรับดีขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับต่ำโดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังกังวลต่อภาวะธุรกิจที่เปราะบาง จากทั้งกำลังซื้อที่ซบเซาและความเสี่ยงของการระบาดระลอกสองที่สูงขึ้น 
 
 
ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 48.6 ซึ่งปรับดีขึ้นในเกือบทุกภาคธุรกิจ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของกลุ่มผลิตยานยนต์ที่ดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีฯ ที่อยู่เหนือระดับ 50 ได้เป็นเดือนที่สอง ส่วนหนึ่งเป็นผลดีจากการจัดงาน Motor show ที่จะช่วยกระตุ้นคำสั่งซื้อในระยะข้างหน้าได้บ้าง เช่นเดียวกับกลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร รวมถึงกลุ่มขนส่ง ที่ดัชนีฯ ปรับดีขึ้นมากจากทุกองค์ประกอบ เป็นผลจากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ ของกลุ่มโรงแรมและร้านอาหารยังต่ำกว่า 50 สะท้อนว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงคาดว่าภาวะธุรกิจจะไม่ดีนักจากปัจจุบัน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศไม่สามารถชดเชยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้
 
หมายเหตุ
 
ก. ธปท. จัดทำดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจจาก 6 องค์ประกอบ ได้แก่ การผลิต คำสั่งซื้อ การลงทุน ต้นทุนการผลิต ผลประกอบการ และการจ้างงาน โดยให้น้ำหนักเท่ากันทุกองค์ประกอบ สำหรับวิธีการคำนวณดัชนี Diffusion Index ของแต่ละองค์ประกอบเป็นดังนี้
      ดัชนี = (100 x ร้อยละของผู้ตอบ “ดีขึ้น”) + (50 x ร้อยละของผู้ตอบ “คงเดิม”) + (0 x ร้อยละของผู้ตอบ “แย่ลง”)
ข. การอ่านค่า
   ดัชนี = 50 หมายถึง ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นทางธุรกิจทรงตัวจากเดือนก่อน (จำนวนผู้ตอบว่าดีขึ้นมีเท่ากับจำนวนผู้ตอบว่าแย่ลง)
   ดัชนี > 50 หมายถึง ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นทางธุรกิจดีขึ้นกว่าเดือนก่อน (จำนวนผู้ตอบว่าดีขึ้นมีมากกว่าจำนวนผู้ตอบว่าแย่ลง)
   ดัชนี < 50 หมายถึง ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นทางธุรกิจแย่ลงกว่าเดือนก่อน (จำนวนผู้ตอบว่าดีขึ้นมีน้อยกว่าจำนวนผู้ตอบว่าแย่ลง)
ค. ดัชนีฯ ประมวลจากผลการสำรวจที่ได้จากกลุ่มตัวอย่างธุรกิจขนาดเล็ก กลางและใหญ่ 610 ราย คิดเป็นร้อยละ 76.3 ของแบบสอบถามที่ส่งออก
ง. การสำรวจเริ่มส่งแบบสอบถามในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนที่สำรวจ และรวบรวมประมวลผลในวันทำการแรกของเดือนถัดไป
 
ดัชนีความเชื่อมั่นด้านอื่นๆ
 

- ดัชนีฯ ด้านสภาพคล่องทั้งปัจจุบันและ 3 เดือนข้างหน้าปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แต่ยังอยู่ต่ำกว่า 50 สะท้อนว่าธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงมีสภาพคล่องลดลง ส่วนหนึ่งจากการที่ไม่ได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพียงพอตามต้องการ
 
 
- แม้สถานการณ์ COVID-19 มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ธุรกิจมีความกังวลเพิ่มขึ้นต่อภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง จากความเสี่ยงของการแพร่ระบาดระลอกสองที่สูงขึ้นและมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐที่สิ้นสุดลงบางส่วน สำหรับการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในอีก 12 เดือนข้างหน้าทรงตัวเท่าเดือนก่อนที่ร้อยละ 1.4 
 

LastUpdate 03/08/2563 18:14:27 โดย : acnews
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 12:52 am