การตลาด
สกู๊ป ''โลตัส-บิ๊กซี'' เปิดศึก ''ดัมพ์ราคา'' กระตุ้นยอดขายฝ่าวิกฤตโควิด -19 ผู้บริโภคชะลอกำลังซื้อ


ถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยจะคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น  แต่ภาพรวมพฤติกรรมของผู้บริโภคยังคงมีความระมัดระวังในเรื่องของการจับจ่ายใช้สอย และเน้นซื้อสินค้าคุณภาพราคาประหยัดเป็นหลัก เนื่องจากทุกคนยังไม่มั่นใจว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยจะกลับมาระบาดรอบ 2 อีกเมื่อไหร่ 

จากพฤติกรรมดังกล่าวของผู้บริโภคส่งผลให้ผู้ประกอบการในธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตต้องหันมาเน้นทำการตลาดรูปแบบการจำหน่ายสินค้าคุ้มค่าคุ้มราคา  เพื่อช่วยผู้บริโภคประหยัดค่าครองชีพ เริ่มจากห้างเทสโก้ โลตัสที่ออกมาประกาศเปิดตัวแคมเปญ “ราคามหาชน” เพื่อต่อยอดความแรงของแคมเปญโรลแบ๊คและแคมเปญลดราคา
 
 
นางวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ประธานกรรมการฝ่ายการตลาด เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นได้สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าล่าสุดพบว่า ลูกค้ายังคงมีความกังวลอย่างสูงในด้านรายจ่าย ค่าครองชีพ และความมั่นคงในหน้าที่การงาน แม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลจะออกมาตรการเยียวยาและให้ความช่วยเหลือก็ตาม  
 
ทั้งนี้  เพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพของผู้บริโภค  ล่าสุดได้มีการเปิดตัวแคมเปญครั้งใหญ่สุดของปีภายใต้ชื่อ “ราคามหาชน” โดยการตัดราคาสินค้าที่จำเป็นทุกหมวดหมู่ และตรึงราคายาวนานกว่า 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. - 25 พ.ย. 2563 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้าและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19  ซึ่งในส่วนของการทำแคมเปญดังกล่าวเทสโก้ โลตัส ได้ใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ในการลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นสูงสุด 50% 
 
นอกจากนี้  ยังมีการตัดราคาอาหารพร้อมทานและเมนูในศูนย์อาหารให้มีราคาขายเพียง 25 บาท ตลอดกว่า 3 เดือน ที่เทสโก้ โลตัส ทั้ง 2,000 กว่าสาขาทั่วประเทศ และเทสโก้ โลตัส ช้อปออนไลน์ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค  ส่งความสุข และผู้บริโภคได้ความอิ่มท้อง 
 
 
นางวรรณ  กล่าวต่อว่า ความโดดเด่นของแคมเปญราคามหาชน ที่มีความพิเศษและแตกต่างจากแคมเปญโรลแบ๊คและแคมเปญลดราคาที่ผ่านมา คือ ทำการสำรวจความคิดเห็นของมหาชน ผ่านการสำรวจความคิดเห็นลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และใช้การประมวลผลข้อมูล big data ของฐานสมาชิกบัตรคลับการ์ด 15 ล้านคน เพื่อคัดเลือกสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพในแต่ละหมวดหมู่  ซึ่งนอกจากตัดและตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่มหาชนมีมติเลือกมาแล้ว บริษัทยังลดราคาอาหารพร้อมทานและเมนูในศูนย์อาหารเทสโก้ โลตัส ทั่วประเทศ เหลือเพียงเมนูละ 25 บาท พร้อมกับทำโปรโมชั่นอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย  เช่น รับส่วนลดทันทีที่แคชเชียร์เมื่อซื้อสินค้า , ซื้อ 1 แถม 1, ซื้อหลายชิ้นประหยัดกว่าเดิม และราคาอาหารสดสุดคุ้ม เป็นต้น 
 
ปัจจุบัน เทสโก้ โลตัส มีสาขาทั่วประเทศอยู่ที่ประมาณ 2,046 สาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2563) แบ่งเป็น สาขาขนาดกลางและขนาดใหญ่ 411 สาขา  และสาขาเอ็กซ์เพรส 1,635 สาขา ส่วนสาขาที่เปิดใหม่ในปี 2563 (ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 14 ส.ค. 2563) มีร้านเอ็กซ์เพรสรูปโฉมใหม่ 63 สาขา  ปรับปรุงร้านเอ็กซ์เพรสเดิมให้เป็นรูปโฉมใหม่ 90 สาขา  และมีการพัฒนาบริการ omni-channel ผ่าน Tesco Lotus Shop Online สั่งสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่นและเว็บ ให้บริการใน 23 จังหวัด รวมไปถึงการให้บริการร้านค้าบน marketplace ชั้นนำ Lazada และ Shopee เข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ  การบริการ Chat & Shop สั่งสินค้าและจัดส่งโดยตรงจากสาขาใกล้บ้าน 36 สาขา 
การบริการ Chat & Collect สั่งสินค้าและรับสินค้าโดยตรงจากสาขาใกล้บ้าน ที่ไฮเปอร์มาร์เก็ตทั้ง 194 สาขา  และการบริการ Click & Collect สั่งสินค้าผ่านออนไลน์และรับด้วยตนเอง 45 สาขา ใน 23 จังหวัด
 
 
ด้าน บิ๊กซี  ซูเปอร์เซ็นเตอร์  ก็ฉลองครบรอบ 27 ปี ผ่านแคมเปญ แคมเปญ “บิ๊กซี ฉลองครบรอบ 27 ปี ช้อปสนุก สุขที่บิ๊กซี”  ด้วยการขนสินค้าหลายรายการครบครันมาจำหน่ายในราคาสุดพิเศษ  ควบคู่ไปกับการจำหน่ายสินค้าทั้งถูกทั้งแถมที่ผู้บริโภคต้องร้องว้าว  ตั้งแต่วันนี้ – 19 ส.ค. 2563
 
การออกมาจัดแคมเปญ “บิ๊กซี ฉลองครบรอบ 27 ปี ช้อปสนุก สุขที่บิ๊กซี” ด้วยการลดราคาสินค้าพิเศษครั้งยิ่งใหญ่ในรอบปีครั้งนี้  นอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 27 ปี ของบิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว  ยังเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับผู้บริโภค ในฐานะที่ห้างบิ๊กซีดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบาย “ห้างคนไทย หัวใจคือลูกค้า” 
 
สำหรับกลุ่มสินค้าทั้งถูกทั้งแถมที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ นำมาทำแคมเปญในครั้งนี้ ได้แก่ เบอร์ดี้ กาแฟ 3 อิน 1 โรบัสต้า, เอสเปรสโซ่ แพ็ค 40 ซอง ราคา 132 บาท/แพ็ค ฟรี คาร์เนชั่น เอ็กซ์ตร้า 385 กรัม 1 กระป๋อง มูลค่า 21 บาท TOSHIBA เครื่องซักผ้า ฝาบน ขนาด 10 กิโลกรัม รุ่น AW-B1100GT ราคา 8,990 บาท จากปกติ 9,990 บาท/เครื่อง ฟรี MISAWA เตาย่างบาร์บีคิว รุ่น KW401 1 เครื่อง มูลค่า 1,290 บาท  เป็นต้น  
 
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสินค้าแม่และเด็กอย่าง ตราหมี นมยูเอชที 180 มล. แพ็ค 4 ปกติแพ็คละ 51 บาท ซื้อ 3 แพ็ค รวมราคา 145 บาท เหลือเฉลี่ยแพ็คละ 48.33 บาท ฟรี แก้วน้องหมีรักแม่ 1 ใบ มูลค่า 39 บาท เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์นมตราหมี โอเมก้ายูเอชที ครบ 3 แพ็ค รวมถึงผ้าอ้อมเด็กแบรนด์ดังที่ขนขบวนมาลดราคาพิเศษ กว่า 20% 
 
ส่วนใครที่เข้าไปใช้บริการในศูนย์อาหารบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์  ก็มีการทำโปรโมชั่นพิเศษเมื่อซื้อบัตรศูนย์อาหารแบบแลกคืนไม่ได้ มูลค่า 150 บาท ที่ศูนย์อาหาร บิ๊กซี ฟู้ดปาร์ค รับฟรีหน้ากากผ้า พร้อมถุงผ้า มูลค่า 89 บาท/ชุด มี 3 แบบ 3 ลายให้เลือกสะสม เริ่มแล้ววันนี้ – 31 ส.ค. 2563  เป็นต้น 
 
จากการออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องของ 2 ยักษ์ใหญ่ไฮเปอร์มาร์เก็ตน่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นที่น่าพอใจ เพราะหากไม่ออกมาทำอะไร อาจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปีนี้ก็เป็นไปได้  ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปี 2563 นี้ น่าจะมีการหดตัว เพราะผลกระทบโรคโควิด-19  สูงถึง 5-8% 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 ส.ค. 2563 เวลา : 10:57:35
16-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 16, 2024, 8:14 pm