รายงานจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในวันนี้ (20 ส.ค.63) มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 7 คน ทำให้ผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,389 คน เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 2,444 คน และจากสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 452 คน มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 19 คน รวมหายป่วยสะสม 3,218 คน อยู่ระหว่างการรักษา 113 คน และเสียชีวิตคงเดิมที่ 58 คน
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ เดินทางกลับจากต่างประเทศ คัดกรอง ณ ด่าน และอยู่ในสถานกักกันของรัฐ (State Quarantine) ประกอบด้วย
ผู้เดินทางกลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3 คน ทั้งหมดเป็นชายไทย อายุ 28,38 และ 46 ปี อาชีพพนักงานบริษัท/โรงงาน เดินทางถึงไทยเมื่อ 7 ส.ค.63 เข้าพักที่ State Quarantine ใน จ.กรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 18 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
กลับจากฮ่องกง 1 คน เป็นชายไทย อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวไปฮ่องกง ตั้งแต่ ก.พ. 63 เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 15 ส.ค. เข้าพักที่ State Quarantine ในกรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อวันที่ 18 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
กลับจากสิงคโปร์ 2 คน เป็นชายไทยอายุ 51 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 7 ส.ค. (เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 1 คน) เข้าพัก State Quarantine ในจ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 18 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
และกลับจากอียิปต์ 1 คน เป็นักศึกษาหญิงไทย อายุ 21 ปี เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 17 ส.ค. เข้าพัก State Quarantine ใน จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อวันที่ 17 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
ส่วนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 22,578,851 คน เพิ่มขึ้น 272,313 คน โดยสหรัฐ บราซิล อินเดีย รัสเซีย และแอฟริกาใต้ มีผู้ป่วยติดเชื้อมากที่สุด ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 6,649 คน รวมเสียชีวิต 791,002 คน ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 115 โดยมีผู้ติดเชื้อรวม 3,389 คน และเสียชีวิต 58 คน
ขณะที่สถานการณ์ในเอเชีย ยังพบผู้ป่วยต่อเนื่อง ทั้งในประเทศอินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น และเวียดนาม โดยอินเดีย มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในเอเชีย รวม 2,835,822 คน เสียชีวิตรวม 53,994 คน
การนำคนไทยที่ตกค้างกลับประเทศ ในวันนี้ (20 ส.ค.63) จะมีคนไทยตกค้างเดินทางกลับ 597 คน มาจากอิหร่าน อินโดนีเซีย แคนาดา มัลดีฟส์ ไต้หวัน และวันพรุ่งนี้ (21 ส.ค.) จะมีคนไทยเดินทางกลับ 551 คน มาจากศรีลังกา สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา ทั้งหมดต้องเข้าอยู่ใน State Quarantine
ขณะที่การพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 คน ภายหลังพ้นจากการกักตัว 14 ยืนยันว่า ทั้ง 2 เคส ไม่ใช่การระบาดรอบ 2
โดยนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อจำนวน 2 คน เป็นเพศหญิง ทั้งคู่เดินทางกลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อถึงประเทศไทยได้เข้าในสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) ครบ 14 วันแล้ว ต่อมาได้เข้ามาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์เพื่อขอใบรับรองแพทย์เพื่อเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ ปรากฎผลเป็นบวก รายละเอียดดังนี้
คนที่ 1 เพศหญิง อายุ 34 ปี เคยทำงานที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย โดยไม่มีอาการใด ๆ และเข้าสถานกักกันโรคของรัฐ State Quarantine ครบ 14 วัน ตรวจเชื้อครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. พบสารพันธุกรรมในปริมาณน้อย แต่ผลถือว่าเป็นผลแล็บกำกวม ตรวจครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. พบตรวจไม่พบเชื้อ แล้วเมื่อครบ 14 วัน จึงอนุญาตให้กลับภูมิลำเนาที่ จ.ชัยภูมิ และต้องแยกตัวต่ออีก 10 วัน
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ส.ค. มีเหตุต้องเดินทางไปต่างประเทศ จึงเข้ารับการตรวจร่างกายและหาเชื้อโควิด-19 ที่ รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ เพื่อขอใบรับรองแพทย์ในการเดินทาง และเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ผลตรวจพบสารพันธุกรรมโควิด-19 ในปริมาณน้อย และเมื่อเจาะเลือดตรวจพบว่ามีภูมิคุ้มกันของโรค แพทย์จึงรับเข้าทำการรักษาใน รพ.แล้ว จึงสรุปว่า รายนี้เป็นผู้ป่วยยืนยันรายเดิม และไม่ได้เป็นการติดเชื้อใหม่ ไม่มีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรค
ส่วนคนที่ 2 เพศหญิงอายุ 35 ปี เคยทำงานที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.เดินทางกลับประเทศไทย และเข้าสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) เป็นเวลา 14 วัน และผลการตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง ไม่พบเชื้อ เมื่อพักในสถานกักกันโรคฯ ครบ 14 วัน จึงอนุญาตให้กลับภูมิลำเนาที่ จ.เลย
ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ส.ค.เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ด้วยรถยนต์ส่วนตัว เพื่อเตรียมตัวไปทำงานต่างประเทศ และเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ได้เข้ารับการตรวจสุขภาพและตรวจหาพันธุกรรมโควิด-19 ที่ รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ เพื่อขอใบรับรองแพทย์ในการเดินทาง ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และทาง รพ.ได้ทำการรับเข้ารักษาในระบบแล้ว
ข่าวเด่น