ซาโนฟี่และจีเอสเค ระบุผลการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ในสัตว์ทดลอง(ระยะพรีคลินิก) แสดงถึงความปลอดภัยและความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกัน พร้อมเดินหน้าทดสอบวัคซีนระยะ 1/2 ในมนุษย์ซึ่งมีอาสาสมัครลงทะเบียนร่วมการทดลองกว่า 400 คน คาดว่าจะเริ่มการทดสอบในระยะที่ 3 ภายในสิ้นปี 2563 และเตรียมเพิ่มปริมาณการผลิตแอนติเจนและสารเสริมฤทธิ์ โดยตั้งเป้าไว้ถึง 1 พันล้านโดส ภายในปี 2564
ซาโนฟี่และจีเอสเค ประกาศเดินหน้าทดสอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในระยะ 1/2 ในมนุษย์ โดยได้นำเทคโนโลยีชนิด recombinant DNA ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ซาโนฟี่ใช้ในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ประจำฤดูกาลของบริษัท ผสมผสานกับเทคโนโลยีสารเสริมฤทธิ์ที่เป็นที่ยอมรับในสถานการณ์การระบาดของจีเอสเค ในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
ในการทดลองในระยะ 1/2 มีอาสาสมัครผู้ใหญ่สุขภาพดีในพื้นที่ของโครงการวิจัย 11 แห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ลงทะเบียนเข้าร่วมทดสอบ จำนวน 440 ราย โดยจะทดลองแบบสุ่มตัวอย่างเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ใช้ยาหลอกและกลุ่มที่ถูกทดลองกับวัคซีนจริง เพื่อให้เกิดการประเมินอย่างแม่นยำในด้านความปลอดภัย การตอบสนองต่อวัคซีน และความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกัน
ซาโนฟี่และจีเอสเค คาดว่าจะสรุปผลการทดลองครั้งแรกภายในต้นเดือนธันวาคม 2563 และเตรียมเข้าสู่การทดลองระยะ 3 ในเดือนธันวาคม 2563 ในกรณีที่ข้อมูลที่ได้มีเพียงพอสำหรับการขอใบอนุญาต บริษัทมีแผนจะยื่นคำร้องขออนุมัติตามกฎหมายภายในครึ่งปีแรกของปี 2564
ซาโนฟี่ ได้ดำเนินการทดลองทางคลินิกและจดทะเบียนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยผลการทดลองในสัตว์ทดลองระยะพรีคลินิก แสดงถึงความสามารถในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันที่เป็นที่น่าพอใจ โดยการฉีดวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี recombinant ที่มีสารเสริมฤทธิ์ รวม 2 ครั้ง จะตรวจพบแอนติบอดีชนิด Neutralizing antibody ในระดับสูงเทียบเท่ากับระดับแอนติบอดี้ในร่างกายของผู้ป่วยที่ฟื้นตัวจากการติดเชื้อโรคโควิค-19 โดยผลการทดลองในระยะพรีคลินิกจะเผยแพร่ในปี 2563 ในขณะเดียวกัน ซาโนฟี่และจีเอสเค กำลังเตรียมเพิ่มปริมาณการผลิตแอนติเจนและสารเสริมฤทธิ์ โดยตั้งเป้าการผลิตไว้สูงถึง 1 พันล้านโดสภายในปี 2564
โธมัส ทรีออมป์ รองกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการระดับสากล ซาโนฟี่ ปาสเตอร์ กล่าวว่า “ซาโนฟี่ร่วมกับจีเอสเค ได้นำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับมาต่อสู้กับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโรคโควิด-19 โดยมีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย โครงการวิจัยทางคลินิกของเราถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใกล้เป้าหมายในการพัฒนาวัคซีนนี้ เราคาดว่า ด้วยความมุ่งมั่นและการทำงานอย่างหนักของทีมงานและพันธมิตรจะช่วยให้เราสามารถสรุปผลการทดลองครั้งแรกได้สำเร็จภายในต้นเดือนธันวาคม และหากมีผลลัพธ์ที่ดีจะสนับสนุนให้เราเดินหน้าทดสอบวัคซีนในระยะที่ 3 ได้ภายในปีนี้”
โรเจอร์ คอนเนอร์ กรรมการผู้จัดการ จีเอสเค วัคซีน กล่าวว่า “ความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนจนถึงขั้นตอนการทดสอบทางคลีนิกถือเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญในการแก้ปัญหาการระบาดครั้งใหญ่ระดับโลกของโรคโควิด-19 ที่พวกเรากำลังเผชิญกันอยู่ และจะไม่สามารถสำเร็จได้หากขาดความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ ที่มีต่อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ได้นำเทคโนโลยีจากทั้งสองบริษัทมาใช้ประโยชน์ ซึ่งสารเสริมฤทธิ์จะช่วยให้เราสามารถผลิตวัคซีนได้จำนวนมากขึ้น”
นอกจากนี้ จีเอสเคยังได้ร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ และทีมนักวิจัยจากทั่วโลกเพื่อพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพและใช้เทคโนโลยีสารเสริมฤทธิ์ที่มีความสำคัญในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรค เพราะช่วยลดปริมาณเอนติเจนที่ต้องใช้ในการผลิตวัคซีนแต่ละโดส ส่งผลให้สามารถผลิตวัคซีนได้ในปริมาณที่มากขึ้น ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้มากขึ้น จึงช่วยปกป้องชีวิตให้กับผู้คนจำนวนมาก ทั้งนี้ จีเอสเคจะมุ่งเน้นในการค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผ่านการดำเนินการภายในองค์กรของจีเอสเคและร่วมกับพันธมิตรภายนอกองค์กร
การพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นี้ ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนและความร่วมมือจากองค์การวิจัยและพัฒนาทางชีวการแพทย์ชั้นสูง ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้ช่วยรัฐมนตรีสาธารณสุขฝ่ายการเตรียมพร้อมและการตอบโต้รับมือ กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ สหรัฐอเมริกา
ซาโนฟี่และจีเอสเคมุ่งมั่นพัฒนาวัคซีนนี้ให้มีใช้ทั่วโลก
ซาโนฟี่และจีเอสเคประกาศความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ในการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากโปรตีนด้วยเทคโนโลยีพันธุวิศวกรรมจำนวนกว่า 100 ล้านโดส เพื่อตอบสนองต่อปฏิบัติการ “Operation Warp Speed” ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยแก่ประชาชนในสหรัฐอเมริกาโดยเร็วที่สุด ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนจะจัดซื้อวัคซีนจำนวน 500 ล้านโดสเพื่อใช้ในระยะยาว รวมทั้ง ซาโนฟี่และจีเอสเค จะจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากโปรตีนด้วยเทคโนโลยีพันธุวิศวกรรม ให้กับรัฐบาลอังกฤษจำนวน 60 ล้านโดส
นอกจากนี้ ซาโนฟี่และจีเอสเค มีแผนในการจัดเตรียมวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในปริมาณที่เพียงพอและทั่วถึงผู้คนทั่วโลกภายในปี 2564/2565 ให้กับโครงการ COVAX ที่ถือเป็นเสาหลักด้านวัคซีนของแผนงาน ACT-Accelerator ขององค์การอนามัยโลก เพื่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 อย่างเท่าเทียม นับเป็นความร่วมมือระดับโลกระหว่างผู้นำรัฐบาลจากหลายประเทศ องค์กรด้านสุขภาพระดับโลก องค์กรธุรกิจ จนถึงจิตอาสาต่าง ๆ เพื่อร่วมพัฒนา ผลิต และสนับสนุนการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเท่าเทียม
ข่าวเด่น