การตลาด
สกู๊ป ''ร้านสะดวกซื้อ'' เปิดศึก ''โมบายล์ คอนเนอร์'' เจาะลูกค้าชานเมือง


ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา การนำกลุ่มสินค้าเทคโนโลยีประเภทโทรศัพท์มือถือ พ่วงด้วยซิมการ์ดของค่ายทรูมูฟเอชเข้ามาจำหน่ายในรูปแบบเคาน์เตอร์ภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น  ถือเป็นการสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้บริโภคพอสมควร เพราะไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงห้างสรรพสินค้าก็มีโทรศัพท์มือถือมาจำหน่ายใกล้ๆ บ้าน

แม้ว่าความหลากหลายของจำนวนสินค้าจะมีไม่มากเท่ากับการเดินทางไปดูสินค้าที่ห้างสรรพสินค้า แต่ด้วยราคาขายที่ไม่แพง ยิ่งบางรุ่นบางยี่ห้อจัดอยู่ในขั้นว่าถูกมาก เพราะขายพ่วงซิมการ์ดทรูมูฟเอช  และที่ขายถูกแบบสุดๆ คือ โทรศัพท์มือถือที่เป็นเฮ้าส์แบรนด์ของค่ายทรูมูฟเอช เลยทำให้การขายสินค้าในกลุ่มนี้ค่อนข้างได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
 
 
สำหรับสาขาที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเลือกนำมาเปิดโซนจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีนั้น จะเน้นไปที่สาขาชานเมือง  และสาขาต่างจังหวัดเป็นหลัก เนื่องจากสาขาดังกล่าวมีโอกาสขายสินค้าประเภทเทคโนโลยีได้ดีกว่าสาขาที่อยู่ในเมือง เพราะเป็นสาขาที่อยู่ห่างไกลจากห้างสรรพสินค้า  
 
ในส่วนของสาขาร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่จะสามารถนำสินค้าโทรศัพท์มือถือเข้าไปเปิดให้บริการในรูปแบบเคาน์เตอร์ได้ จะต้องเป็นสาขาที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่  หรือมีพื้นที่ร้านประมาณ 3-4 ห้อง  เพราะถ้าหากเล็กไปก็จะทำให้การจัดวางสินค้าไม่สวยงามและไม่มีความน่าสนใจ
 
ปัจจุบันร้านเซเว่นอีเลฟเว่น มีจำนวนสาขาเปิดให้บริการไปแล้วกว่า 12,000 สาขา  แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปบ้าง แต่บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ยังคงเดินหน้าขยายร้านเซเว่นอีเลฟเว่นสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องตามแผนการดำเนินงานเดิมที่ได้วางไว้ 
 
สำหรับในปี 2563 นี้ ซีพี ออลล์ มีแผนที่จะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 11,500-12,000 ล้านบาท โดยงบลงทุนส่วนใหญ่จะยังคงใช้ไปกับการขยายร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาใหม่ประมาณ 700 สาขา ภายใต้งบลงทุนประมาณ 3,800-4,000 ล้านบาท  ส่วนอีกประมาณ  2,400-2,500 ล้านบาท จะใช้ไปกับการปรับปรุงสาขาเก่าให้มีความสวยงามและทันสมัย  เนื่องจากบางสาขาเปิดให้บริการมาค่อนข้างนาน จึงทำให้ร้านค่อนข้างทรุดโทรม  ซึ่งจากแผนการดำเนินงานดังกล่าว ซีพี ออลล์ คาดว่าภายในปี 2564 จะมีจำนวนสาขาร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเปิดให้บริการครบ 13,000 สาขาย่างแน่นอน
 
พร้อมกันนี้ ยังมีแผนที่จะใช้งบไปกับการลงทุนในโครงการใหม่ การลงทุนบริษัทย่อย และศูนย์กระจายสินค้า เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 4,000-4,100 ล้านบาท  นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและเทคโนโลยีสารสนเทศรวมอีกประมาณ 1,300-1,400 ล้านบาท 
 
จากความสำเร็จที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นได้รับดังกล่าว ทำให้ร้านสะดวกซื้ออื่นๆ เริ่มให้ความสนใจในการนำสินค้าประเภทเทคโนโลยีเข้ามาจำหน่ายภายในร้าน เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับลูกค้า โดยล่าสุด บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้ชื่อ ร้านท็อปส์เดลี่ และร้านแฟมิลี่มาร์ท ก็จับมือกับ เอไอเอส เปิดบริการ AIS Corner ในร้านท็อปส์ เดลี่ และแฟมิลี่มาร์ท รวม 69 สาขาทั่วประเทศ
 
นางสาวเมทินี พิศุทธิ์สินธพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า  ความร่วมมือระหว่างท็อปส์ เดลี่, แฟมิลี่มาร์ท และเอไอเอส ในครั้งนี้  ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างจุดแข็งและเสริมความแกร่งให้กับธุรกิจในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นอกเหนือจากความใส่ใจในการคัดสรรสินค้าที่ดีที่สุด ซึ่งบริษัทยังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น
 
 
สำหรับการเปิด AIS Corner ในครั้งนี้  ถือเป็นการช่วยสร้างความหลากหลายด้านสินค้าและบริการให้กับร้านท็อปส์ เดลี่ และแฟมิลี่มาร์ท  ขณะเดียวกัน ยังถือเป็นการช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่สนใจเทคโนโลยี ในขณะเดียวกัน ยังถือเป็นการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการของเอไอเอส พร้อมมอบสิทธิประโยชน์!  ให้กับสมาชิก The 1  
 
ทั้งนี้  เมื่อลูกค้าที่เป็นสมาชิก The 1  ซื้อโทรศัพท์มือถือราคาพิเศษพร้อมเปิดเบอร์ใหม่ จะได้รับคะแนน The 1 พิเศษสูงสุด 3,000 คะแนน พร้อมพรีเมียมเซต 9 in 1 มูลค่า 500 บาท ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน - 31 ตุลาคม 2563 ซึ่งหาก 69 สาขาที่นำสินค้าของเอไอเอสมาจำหน่ายประสบความสำเร็จ  เซ็นทรัล ฟู้ดรีเทล ก็มีแผนที่จะขยายจุดบริการเพิ่ม โดยเฉพาะในส่วนของร้านแฟมิลี่มาร์ท ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการอยู่ที่ประมาณ 1,000 สาขา และในปีนี้มีแผนจะเปิดเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 100 สาขา
 
ด้าน นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)  หรือ เอไอเอส กล่าวว่า  เอไอเอส ในฐานะผู้นำเครือข่าย 5G ชั้นนำระดับภูมิภาคและอันดับ 1 ในไทยที่มีคลื่นมากที่สุด ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ บริษัทมีความตั้งใจที่จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ลูกค้าในวงกว้างและหลากหลายยิ่งขึ้น  ซึ่งการจับมือร่วมกับบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในครั้งนี้  ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการจำหน่ายที่จะทำให้สินค้าของเอไอเอส เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุมมากขึ้น 
 
 
สำหรับสินค้าที่นำมาจำหน่ายภายในร้านท็อปส์เดลี่และร้านแฟมิลี่มาร์ทในครั้งนี้  จะมีทั้งในส่วนของสมาร์ทโฟนราคาประหยัด พร้อมบริการเปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่ายเบอร์เดิม และเปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน ตลอดจนสมัครบริการเน็ตบ้าน AIS Fiber พร้อมตรวจเช็กพื้นที่ให้บริการและแนะนำแพกเกจสุดคุ้มค่า 
 
นอกจากนี้ ยังให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ดิจิทัลจากเทคโนโลยี 5G กับสมาร์ทโฟน “Samsung Galaxy A71 5G” ในราคาสุดคุ้มค่า เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่เอไอเอสเท่านั้น  หลังจากนี้คงต้องรอดูว่าค่ายดีแทคจะจับมือกับร้านสะดวกซื้อค่ายไหนขยายฐานลูกค้า
 

LastUpdate 19/09/2563 11:15:42 โดย : Admin
23-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 23, 2024, 6:36 pm