ยังคงต้องปรับตัวกันต่อไปสำหรับภาคธุรกิจของไทย แม้ว่าตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของไทยจะดีขึ้น เพราะไม่มีการแพร่ระบาดภายในประเทศ แต่จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัว เพราะไม่เช่นนั้นธุรกิจก็จะไปต่อไม่ได้
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าทุกธุรกิจมีการปรับตัวทั้งหมด สังเกตุได้จากร้านอาหารที่ไม่เคยขายเดลิเวอรี่เลย ต้องปรับตัวขายเดลเวอรี่ในช่วงที่ภาครัฐมีการประกาศล็อกดาวน์ประเทศ เพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้
นายอนุวัตร เฉลิมไชย นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ถือเป็นปัจจัยลบที่หนักที่สุด และวิกฤตที่สุด เนื่องจากเป็นปัจจัยลบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงทำให้ทุกคนต้องปรับตัวกันอย่างหนัก เช่นเดียวกับภาคธุรกิจ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้เกิดเทรนด์การตลาดแบบใหม่ที่มีชื่อว่า “การตลาดกลายพันธุ์ ( Market Mutation) เพื่อให้สอดคล้องกับยุค New Normal
เทรนด์การตลาดดังกล่าวเกิดขึ้นจากการปรับตัวของผู้ประกอบการในแต่ละธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น ร้านชาบูหรือสุกี้บางแบรนด์ที่เปิดร้านขายไม่ได้เลยในช่วงล็อกดาวน์ ได้ปรับตัวหันมาจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ เพื่อให้ขายสินค้าได้ และเพื่อให้สินค้ามีความน่าสนใจและขายสินค้าได้มากขึ้น แบรนด์ชาบูหรือสุกี้ดังกล่าวได้มีการคิดนอกกรอบ ด้วยการแถมหม้อให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ามีความรู้สึกว่าสั่งอาหารไปทานที่บ้านเหมือนกับนั่งทานที่ร้าน ซึ่งหลังจากใช้กลยุทธ์ดังกล่าวในการทำตลาด ปรากฎว่าลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี
นายอนุวัตร กล่าวต่อว่า การทำตลาดในยุคปัจจุบันไม่สามารถใช้อาวุธเดิม คือ 4P ประกอบด้วย Product, Price, Place และ Promotion ได้อีกต่อไป เพราะไม่เพียงพอที่จะทำให้ลูกค้าสนใจสินค้า และตัดสินใจซื้อสินค้าได้ เนื่องจากปัจจุบันลูกค้ามีความต้องการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ที่ผ่านมานี้ เป็นสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในโลกธุรกิจ ทั้งในแง่ของรูปแบบการทำการตลาด และ skillset ของบุคลากรคนทำธุรกิจ
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว ถือเป็นความท้าทายของภาคธุรกิจที่ต้องรับมือ เนื่องจากปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่าง เช่น 1. New Crisis ทั้งเรื่องโควิด-19 และ เรื่องสิ่งแวดล้อมอื่นๆที่แย่ลงทุกวัน 2. New Normal เมื่อผู้บริโภคก้าวสู่โลก digital lifestyle เต็มตัว นักการตลาดก็ต้องปรับกระบวนทัพตามอย่างรวดเร็ว 3. New Technology เข้ามามีบทบาทเปลี่ยนโลกการตลาดแบบเดิมๆ ซึ่งโลก analog เริ่มหายไป ถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้ง AI, Mixed Reality, 5G ฯลฯ ที่นักการตลาดต้องปรับตัวให้ทัน 4. New Consumers แบ่งผู้บริโภคเป็น 2 กลุ่มที่ต่างกันจนสุดขั้ว คือ กลุ่ม Generation Z กับ กลุ่มSilver Generation นักการตลาดยุคนี้ต้องให้ความสำคัญกับเรื่อง generation marketing มากขึ้น ซึ่งความท้าทายนี้สามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ได้ และ 5.ความไม่แน่นอน (Uncertainty) จากเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา จึงมีการเปลี่ยนแปลงมากมายในวงการธุรกิจและการตลาด ทั้งเรื่องเทคโนโลยีดิจิตอลที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น รวมถึงวิกฤติและความท้าทายต่างๆ ทำให้นักการตลาดในยุคนี้ต้องปรับตัวให้ทันกับโลกการตลาดยุคใหม่อยู่เสมอ
นายอนุวัตร กล่าวต่อว่า การเกิดขึ้นของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในโลกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการทำตลาด หรือ Skillset ของบุคลากรที่ทำธุรกิจ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้ธุรกิจเกิดความท้าทาย เพราะโรคโควิด-19 ดิสรัปต์ทุกอย่าง และทำให้เกิดวิถีชีวิตแบบปกติ หรือ New Normal เมื่อผู้บริโภคก้าวไปสู่ digital lifestyle เต็มตัว นักการตลาดก็ต้องปรับกระบวนทัพตามการเปลี่ยนแปลงให้รวดเร็ว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่แทบไม่มีใครรรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างไร ช่องทางการทำตลาดและการขายสินค้าจะเป็นอย่างไร วิธีการขายสินค้าต้องทำแบบไหน หรือแม้แต่ความต้องการของลูกค้าที่ขึ้นอยู่กับใคร เพราะผู้บริโภคแต่ละกลุ่มมีความแตกต่างกันไปตามเจนเนอเรชั่น จึงทำให้นักการตลาดต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่
ด้วยเหตุนี้ นักการตลาดจึงควรมีการเพิ่มเติมความรู้ด้านการตลาดยุคใหม่ โดยการ Re-Skill & Up-Skill ซึ่งล่าสุดทางสมาคมการตลาดฯ ได้มีการพัฒนา 4 แกนความรู้หลักสำคัญที่นักการตลาดมองข้ามไม่ได้ คือ 1. Strategic marketing การวางกลยุทธ์ที่ชัดเจนก่อนออกเดินทางในโลกธุรกิจ 2. Martech & Innovations การเรียนรู้ที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาปรับใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่แตกต่าง 3. Storytelling การสื่อสารอย่างมีศิลปะ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในโลกที่เต็มไปด้วยสาสน์จากหลายแบรนด์ และ 4. Marketing integrity & Sustainability การเติบโตอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของธรรมาภิบาลที่ดี
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาหลักสูตรและเนื้อหาต่างๆ ที่ตอบโจทย์ทั้ง 4 ด้าน (4R) เพื่อเป็นการเรียนรู้ (Learning Pillars) และพัฒนาศักยภาพนักการตลาดไทย ประกอบด้วย 1. Reskill & Upskill สร้างโอกาสตัวเอง ให้มีศักยภาพพร้อมก้าวสู่โลกการตลาดยุคใหม่ 2. Response สามารถตอบโจทย์และปรับตามสถานการณ์อย่างทันท่วงที 3. Recover กลับสู่สภาวะการดำเนินธุรกิจตามปกติหลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย และ 4. Renew พัฒนาธุรกิจ โดยนำโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากวิกฤติมาใช้ เพื่อการเติบโตในระยะยาว
นายอนุวัตร กล่าวว่า หากองค์กรและนักการตลาดมีการปรับตัวและเติมความรู้ใหม่ๆ จะนำไปสู่ ผลลัพธ์ 3S คือ Survive, Strong, และ Sustainable ไม่ใช่แค่ให้ธุรกิจอยู่รอด แต่สามารถเติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน ซึ่งถ้าหากหน่วยงานไหนมีการพัฒนาศักยภาพของนักการตลาดตามที่กล่าวไปข้างต้น ธุรกิจของหน่วยงานนั้นๆ ก็น่าจะฟ่าฟันวิกฤตไปได้ด้วยดี มีรายได้และผลกำไรตามมาอย่างแน่นอน
ข่าวเด่น