ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ นอกจากโรคไข้หวัดใหญ่ที่เป็นโรคยอดฮิตแล้ว “โรคไข้เลือดออก” ก็เป็นอีกหนึ่งโรคที่อันตรายไม่แพ้กัน จากสถิติขององค์การอนามัยโลกนั้นพบว่า สถานการณ์ระบาดของโรคไข้เลือดออกในหลายประเทศ โดยเฉพาะในเขตร้อนนั้น มีอัตราสูงขึ้นเรื่อยๆ
โดยอาการในระยะแรกนั้น ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ส่วนใหญ่จะมีไข้สูงอยู่ประมาณ 2-7 วันร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ปวดตามร่างกาย เบื่ออาหาร อาเจียน หรืออาจมีอาการหน้าแดงในบางราย
ระยะถัดมา (ระยะวิกฤติ) เป็นระยะที่มีการรั่วไหลของพลาสมา ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับช่วงที่มีไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยอาจมีอาการกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น บางรายอาจมีอาการระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว อาจพบมีเลือดออกผิดปกติ เช่น มีเลือดกำเดา อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายเป็นเลือด
ระยะสุดท้าย (ระยะพักฟื้น) ผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้น ไข้ลดลง เกล็ดเลือดที่เคยต่ำลงจะกลับมาสูงขึ้น ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น อยากทานอาหารมากขึ้น อาจตรวจพบผื่นที่มีลักษณะเป็นวงกลมเล็กๆ สีขาวท่ามกลางผื่นแดง ความดันโลหิตก็จะดีขึ้น จนทุกอย่างเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ
หากเพื่อนๆ มีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์เพื่อเข้ารับคำแนะนำและหาวิธีรักษาที่ถูกต้อง ไม่ควรซื้อยามาทานเอง เนื่องจากหากเรารักษาผิดวิธีจะยิ่งทวีคูณอาการให้หนักขึ้น การซื้อยาลดไข้มาทานเองแบบผิดๆ อาจจะยิ่งทำให้เพิ่มความรุนแรงของโรคมากขึ้น ซึ่งยาลดไข้ชนิดที่ห้ามทานโดยเด็ดขาด คือ แอสไพรินและไอบูโพรเฟน เนื่องจากยาสองชนิดนี้จะยิ่งไปกระตุ้นให้เกิดภาวะเลือดออกผิดปกติจนเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยได้
นอกจากเราต้องป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคโควิด-19 แล้ว ในช่วงฤดูฝนแบบนี้โรคไข้เลือดออกก็เป็นอีกโรคหนึ่งที่เพื่อนๆ ต้องระวังเหมือนกันนะครับ หมั่นตรวจดูแหล่งน้ำขังตามที่ต่างๆ ที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลายเพื่อช่วยลดการระบาดของโรคไปด้วยกันนะครับ
ข่าวเด่น