ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดในด้านของเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่ประเทศไทยก็ยังมีเรื่องให้ชื่นใจเป็นระยะๆ เริ่มจากที่ทั่วโลกให้คำชื่นชมในด้านของการบริหารจัดการโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศ โดย Global COVID-19 Index (GCI) จัดให้ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 การฟื้นตัวของแต่ละประเทศจากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 จาก 184 ประเทศทั่วโลก ด้วยคะแนนรวม 82.27 และจัดอยู่ในกลุ่มเรตติ้ง 5 คือ ประเทศที่บรรเทาการระบาดของไวรัสได้ก้าวหน้าที่สุดในโลก
ล่าสุด Time Out Group กลุ่มธุรกิจสื่อและความบันเทิงระดับโลก ได้มีการเผยรายชื่อ 40 ย่านสุดคูล (top 40 coolest neighbourhoods) จากทั่วโลก ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างวัฒนธรรม อาหาร และความสนุกสนานแบบคนท้องถิ่น กับการสนับสนุนและความมีน้ำใจที่ผู้คนในย่านมีให้กับชุมชนของพวกเขาท่ามกลางช่วงเวลาแสนวุ่นวายในปี 2563 โดยมีรายชื่อของ จุฬา-สามย่าน ติดอันกับที่ 16 ของโลก
รายชื่อดังกล่าวได้ถูกเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2561 ภายหลังได้รับการรวบรวมและเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้คนในท้องถิ่นผ่านการสำรวจ Time Out Index ประจำปี ซึ่งสอบถามผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ ทั่วโลกกว่า 38,000 คนว่า ย่านไหน จุดไหนของเมืองที่พวกเขาชอบที่จะไปใช้เวลา ปล่อยตัว ปล่อยใจมากที่สุด
สำหรับการจัดอันดับปี 2563 นี้ เครือข่ายบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกของ Time Out ไม่เพียงคำนึงถึงความรู้สึก อาหาร เครื่องดื่ม ชีวิตยามค่ำคืน และวัฒนธรรมเสรีเท่านั้น แต่ยังพิจารณารวมไปถึงจิตวิญญาณของชุมชน ซึ่งสะท้อนความรักและการสนับสนุนอย่างไม่มีเงื่อนไขที่ผู้คนในย่านหยิบยื่นให้แก่ชุมชนและธุรกิจท้องถิ่นที่เปรียบเสมือนจิตวิญญาณของเมือง ซึ่งในส่วนของย่านที่ติดอันดับ 1 และได้ชื่อว่าเป็นย่านที่เจ๋งที่สุดในโลกประจำปี 2563 ได้แก่ Esquerra de l'Eixample ในเมืองบาร์เซโลนา
แม้ว่าจะมีภาพลักษณ์เป็นย่านอยู่อาศัยของเมืองหลวงแห่งแคว้นกาตาลัน แต่ย่านนี้สามารถแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของชุมชนได้อย่างน่าทึ่ง ผ่านโครงการริเริ่มหลายโครงการ เช่น Hidrogel Sessions ซึ่งเป็นกิจกรรมที่บ้านต่างๆ พากันออกมาร้องรำทำเพลงกันที่ระเบียงบ้านของตนเองในช่วงเวลาที่เมืองถูกล็อกดาวน์ นอกจากนี้ ย่าน Esquerra de l'Eixample ยังเต็มไปด้วยพื้นที่สาธารณะ เช่น สวน Espai Germanetes ที่ดูแลโดยชุมชน และธุรกิจอิสระที่ไม่เหมือนใครอย่าง Odd Kiosk แผงนิตยสาร LGBTQ+ แห่งแรกของโลก
นายเจมส์ แมนนิ่ง บรรณาธิการต่างประเทศของ Time Out กล่าวว่า เนื่องจากการเดินทางทั่วโลกยังไม่กลับสู่สภาวะปกติ รายชื่อย่านที่เจ๋งที่สุดของโลกประจำปีนี้จึงไม่ได้ตั้งใจที่จะช่วยให้คุณวางแผนการเดินทางทริปหน้า แต่มุ่งหวังให้เกิดการแสดงความชื่นชมยินดีแก่ย่านชุมชนที่ช่วยนำทางและขับเคลื่อนชีวิตของคนในเมือง ท่ามกลางช่วงเวลาที่ยากลำบากจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวจะทำให้ย่านชุมชนต่างๆ มีความสำคัญมากกว่าที่เคย เพราะสถานที่เหล่านี้ได้แสดงออกมาให้เห็นถึงจิตวิญญาณของเมืองอย่างถึงแก่น ด้วยการสนับสนุนจากธุรกิจอิสระ วัฒนธรรมท้องถิ่น และโครงการริเริ่มของชุมชน
ในส่วนของประเทศไทยปีนี้ได้รับการจัดอันดับเช่นกัน โดยย่าน "จุฬา-สามย่าน" เป็นตัวแทนเพียงหนึ่งเดียว ที่ติดโผในครั้งนี้ ด้วยอันดับที่ 16 โดย Time Out ระบุว่า ชุมชนรอบๆจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเคยเป็นย่านเก่าแก่ที่ค่อนข้างจะเสื่อมโทรม เต็มไปด้วยร้านโชว์ห่วย แผงรถเข็น ร้านอาหารข้างทาง และร้านชิ้นส่วนรถยนต์ แต่ตอนนี้ สำนักทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่เหล่านี้ให้กลายเป็นย่านรับประทานอาหารและพักผ่อนหย่อนใจ มีส่วนสาธารณะที่ได้รับการออกแบบอย่างทันสมัย
นอกจากนี้ ยังมีศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ และมีร้านหนังสือที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน จุฬา- สามย่าน ยังเป็นแหล่งเที่ยวราคาไม่แพง หากเทียบกับย่านฮิปๆ อย่างอารีย์และทองหล่อ และถึงแม้ว่าจะมีโรคโควิด-19 แพร่ระบาดในช่วงที่ผ่านา ส่งผลกระทบต่อวิถีชุมชนไปบ้าง แต่ผู้คนในชุมชนก็ไม่ละเลยที่จะให้ความสำคัญด้านศิลปะ โดยยังมีการจัดนิทรรศการด้านศิลปะภายใต้โครงการ Patumwan Art Routes
การจัดอันดับดังกล่าวหากมองแคบลงมาเฉพาะภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยถือว่าอยู่ในลำดับที่ 1 ของอาเซียน และเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคเอเชีย รองจาก Sham Shui Po ของฮ่องกง และ Shaanxi Bei Lu/Kangding Lu ของเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
ส่วน 40 อันดับ ที่ Time Out จัดเรตติ้งย่านสุดคูล (top 40 coolest neighbourhoods) ประกอบด้วย 1. Esquerra De L'Eixample (บาร์เซโลนา) 2. Downtown (ลอสแอนเจลิส) 3. Sham Shui Po (ฮ่องกง) 4. Bedford-Stuyvesant (นิวยอร์ก) 5. Yarraville (เมลเบิร์น) 6. Wedding (เบอร์ลิน) 7. Shaanxi Bei Lu/Kangding Lu (เซี่ยงไฮ้) 8. Dennistoun (กลาสโกว์) 9. Haut-Marais (ปารีส) 10. Marrickville (ซิดนีย์) 11. Verdun (มอนทรีออล) 12. Kalamaja (ทาลลินน์) 13. Hannam-dong (โซล) 14. Bonfim (ปอร์โต) 15. Ghosttown (โอ๊คแลนด์) 16. จุฬา-สามย่าน (กรุงเทพฯ) 17. Alvalade (ลิสบอน) 18. Noord (อัมสเตอร์ดัม) 19. Centro (เซาเปาโล) 20. Hole?ovice (ปราก)
21. Lavapies (มาดริด) 22. Opebi (ลากอส) 23. Narvarte (เม็กซิโกซิตี้) 24. Uptown (ชิคาโก) 25. Little Five Points (แอตแลนตา) 26. Wynwood (ไมอามี) 27. Phibsboro (ดับลิน) 28. N?rrebro (โคเปนเฮเกน) 29. Bugis (สิงคโปร์) 30. Gongguan (ไทเป) 31. Soho (ลอนดอน) 32. Binh Tanh (นครโฮจิมินห์) 33. Melville (โจฮันเนสเบิร์ก) 34. Kabutocho (โตเกียว) 35. Porta Venezia (มิลาน) 36. Taman Paramount (กัวลาลัมเปอร์) 37. Allston (บอสตัน) 38. Bandra West (มุมไบ) 39. Arnavutkoey (อิสตันบูล) และ 40. Banjar Nagi (อูบุด)
ข่าวเด่น