ประกัน
''ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง'' ปรับกลยุทธ์ บุกอีสาน ลุยเพิ่มจำนวนดีลเลอร์ส่งงาน โกยยอดเข้าพอร์ต


“ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง” สู้ศึกชิงแชร์ ตั้งธงบุก “อีสาน” ลุยเพิ่มจำนวนดีลเลอร์ส่งงาน โกยยอดเข้าพอร์ต ตั้งเป้าเติบโตในภาคอีสานอีกเท่าตัว พร้อมทุ่มงบ 150 ล้าน สร้างระบบไอที ติดตามทวงหนี้เร็ว “ทวงก่อน ได้ก่อน” 


 

นายฮิเดโต ฟูจิวาระ ประธาน บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงโค้งท้ายของปี 2563 ต่อเนื่องถึงปี 2564 บริษัทฯจะปรับกลยุทธ์การตลาด มุ่งเน้นตลาดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ อีสาน เป็นหลัก เพราะมองว่ายังมีช่องว่างทางการตลาดอีกมาก โดยตั้งเป้าในปีหน้าจะเติบโตในภาคอีสานอีกเท่าตัว โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนดีลเลอร์ เพื่อส่งงานปล่อยสินเชื่อเข้าพอร์ตให้กับบริษัท 

ปัจจุบันภาวะการแพร่ระบาดของโรคโค-วิด 19 ทำให้ผู้ประกอบการที่ขายรถจักรยานยนต์และปล่อยกู้ด้วยเงินส่วนตัวเองบางรายประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน จากการที่มีลูกค้าบางรายอาจผ่อนชำระค่างวดล่าช้า ทำให้การหมุนเวียนของเงินทุนเกิดสะดุด ผู้ประกอบการเมื่อขายรถจักรยานยนต์ได้แต่ไม่สามารถปล่อยกู้เองได้แล้ว อาจจะต้องหันมาส่งงานสินเชื่อให้กับผู้มีสายป่านยาวกว่า จึงเป็นช่องทางที่บริษัทฯสามารถเข้าไปเจาะตลาดในส่วนนี้ได้ รวมถึงเหตุผลที่ลูกหลานของผู้ประกอบการบางรายไม่รับช่วงต่อในการบริหารธุรกิจในลักษณะรวมยอด ขายเอง ปล่อยกู้เอง 

“บริษัทฯมีแผนเพิ่มจำนวนดีลเลอร์ที่ส่งงานสินเชื่อให้เพิ่มขึ้นอีก 10% จากปัจจุบันมีกว่า 400 ราย เทียบกับในระบบทั้งหมดทั่วประเทศที่มีดีลเลอร์อยู่ 1,500 ราย” นายฮิเดโต ฟูจิวาระ กล่าว   
      

ประธาน ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง ยังกล่าวต่อไปว่า บริษัทฯให้ความสำคัญกับเรื่องระบบไอทีมาก โดยทุ่มงบประมาณ 150 ล้านบาท ในการวางระบบไอทีใหม่ โดยเฉพาะการติดตามทวงหนี้ที่มีการตั้งทีมไอทีผนวกเข้ากับระบบเทคโนโลยีต่อสายอัตโนมัติเพื่อการติดตามทวงหนี้ได้รวดเร็วมากขึ้น เนื่องจากในภาวะการณ์เช่นนี้ “ใครทวงก่อน ย่อมได้ก่อน” ฉะนั้นจึงมั่นใจได้ว่า การควบคุมระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) น่าจะสามารถทำได้ นอกเหนือจากการวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้ที่ดีว่าลูกหนี้จะมีความสามารถชำระหนี้ได้หรือไม่ในอนาคต 

“การควบคุม NPL ให้อยู่ในระดับที่บริษัทสามารถควบคุมจัดการได้ นอกจากจะต้องมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องทำควบคู่กันคือ การขยายพอร์ตสินเชื่อให้มีการเติบโต เพื่อสัดส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อ จะได้ลดลง จึงเป็นเหตุผลที่บริษัทฯจะต้องเร่งมือในการปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ให้เพิ่มขึ้น โดย ณ ปัจจุบัน บริษัทฯมี NPL อยู่ที่ 1%” นายฮิเดโต ฟูจิวาระกล่าว 
 

นายฮิเดโต ฟูจิวาระ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนการขยายสาขา บริษัทฯตั้งเป้าในปีนี้ที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 3-6 สาขา จากปัจจุบันมีทั้งสื้น 37 สาขาทั่วประเทศ พร้อมตั้งเป้าหมายสัญญาซื้อขายรถจักรยานยนต์ไว้ที่ 275,000 สัญญา จากสิ้นปีก่อนมีเพียง 125,000 สัญญา จึงทำให้สัดส่วนทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ปัจจุบันอยู่ที่ 8.9% ซี่งภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 9%  และจะเติบโตขึ้นเป็น 10% ในปีหน้า 

สำหรับกรณีที่มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้บัตรเครดิตจ่ายขึ้นต่ำ เหลือ 5% จากเดิม 10% ซึ่งจะหมดอายุในปี 2564  และจะทยอยจ่ายขั้นต่ำ 8% ในปี 2565 ก่อนจะกลับมาจ่ายขั้นต่ำ 10% ในปี 2566  นั้นจะกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง หรือไม่ หากลูกหนี้มีภาระหนี้สินหลายทาง ผู้บริหารซัมมิทฯรายหนึ่ง กล่าวว่า ไม่น่าจะกระทบ เพราะรถจักรยานยนต์ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ถือว่าเป็นเครื่องมือทำมาหากิน ฉะนั้นคงจะยากที่จะปล่อยให้เครื่องมือทำมาหากินเพื่อสร้างรายได้หมดไป มั่นใจว่าอย่างไรลูกหนี้ก็จะต้องจ่ายชำระหนี้ค่างวดรถจักรยานยนต์ก่อนที่จะจ่ายหนี้บัตรเครดิต 

LastUpdate 28/10/2563 11:20:34 โดย : Admin
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 1:00 am