ในขณะที่หลายธุรกิจค่อนข้างประสบกับปัญหายอดขายหายไปจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่สำหรับกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพโดยเเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด กลับมามียอดขายในทิศทางที่เติบโตดีขึ้น เนื่องจากทุกคนหันมาให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดร่างกายกันมากขึ้น เพื่อห่างไกลจากโรคร้ายที่มองด้วยตาไม่เห็น
นอกเหนือจากกลุ่มสินค้าหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า เจลแอลกอฮอล์ ที่มียอดขายเติบโตสวนกระแสทุกสินค้าแล้ว ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายอย่างสบู่และครีมอาบน้ำก็มียอดขายเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน จะเห็นได้ว่าหลายปีที่ผ่านมาสินค้ากลุ่มนี้ไม่ค่อยออกมาประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านสื่อเท่าไหร่นัก แต่สำหรับปีนี้กลับมีการออกมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกันอย่างคึกคัก
เริ่มจาก บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด เจ้าของแบรนด์สินค้าอย่างบีไนซ์ ,ดีนี่ และทรอส ก็ออกมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อรับอานิสงส์ดังกล่าวอย่างคึกคักในช่วงกลางปี 2563 ที่ผ่านมา หลังจากมียอดขายสินค้ากลุ่มทำความสะอาดผิวกายเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา และเพื่อต่อยอดให้มียอดขายเพิ่มขึ้นก็ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หมวดทำความสะอาดและครีมอาบน้ำภายใต้แบรนด์บีไนซ์ , ดีนี่ และทรอส เข้าทำตลาด
ขณะดียวกัน ก็ได้มีการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์ อย่างเช่น ร้านค้าทั่วไป (Traditional Trade) ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ร้านสะดวกซื้อ และช่องทางออนไลน์ ที่ทำกิจกรรมผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งหลังจากออกมาทำการตลาดในรูปแบบดังกล่าว ทำให้ ยอดขายครีมอาบน้ำโดยรวมของบริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 7.7% แบ่งเป็น ครียมอาบน้ำบีไนซ์เติบโต 19% ครีมอาบน้ำทรอส เติบโต 58% ครีมอาบน้ำสำหรับเด็กดีนี่ เติบโต 33%
น.ส.ปัทมา ถกลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด กล่าวว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวของบริษัทมีความแข็งแกร่งและมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลปัจจุบันบริษัทเป็นบริษัทของคนไทยอันดับ 1 ที่มีสินค้าหลายรายการขึ้นเป็นผู้นำตลาด เช่น ครีมอาบน้ำเด็กดีนี่ ที่ปัจจุบันยังคงเป็นผู้นำตลาดที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 60% ซึ่งจากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าวทำให้บริษัทมั่นใจว่าภายในปี 2564 จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดในภาพรวมแซงบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลภายในปี 2564 อย่างแน่นอน
ปัจจุบันตลาดสบู่เหลวหรือครีมอาบน้ำมีมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 7,400 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มครีมอาบน้ำสำหรับผู้ใหญ่ประมาณ 6,000 ล้านบาท มีการเติบโต 2.4% และครีมอาบน้ำเด็กคิดเป็นมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,400 ล้านบาท
จากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวทำให้ บริษัท ยูนิลีเวอร์ เอเชีย ไพรเวท จำกัด เล็งเห็นโอกาส ด้วยการปัดฝุ่นสบู่ "ไลฟ์บอย" (Lifebuoy) เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังอีกครั้งในรอบ 40 ปี ด้วยการเตรียมงบกว่า 50 ล้านบาท ทำกิจกรรมการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายในทุกรูปแบบ เพื่อฟื้นคืนชีวิตให้กับสบู่ "ไลฟ์บอย
"
น.ส.ธัญธร โชติชัยสถิตย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ยูนิลีเวอร์ เอเชีย ไพรเวท จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้นำสบู่ 'ไลฟ์บอย' (Lifebuoy) กลับมาทำการตลาดในประเทศไทยอีกครั้ง ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ด้วยการเตรียมงบการตลาดไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท เพื่อสื่อสารไปยังผู้บริโภค ซึ่งในส่วนของกลยุทธ์ที่นำมาใช้ยังคงมุ่งเน้นไปที่จุดแข็งของการเป็นสบู่แอนตี้แบคทีเรียอันดับ 1 ของโลก โดยเน้นประสิทธิภาพในการลดการสะสมของแบคทีเรียได้นานหลายชั่วโมงหลังการอาบน้ำ และทำความสะอาดชำระล้างสิ่งสกปรกอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสอดรับกับกระแสการดูแลรักษาสุขภาพที่เพิ่มขึ้น
ในส่วนของกลุ่มเป้าหมายหลักที่ "สบู่ไลฟ์บอย" ต้องการเข้าไปทำการตลาด คือ กลุ่มเป้าหมายเป็นคุณแม่ Gen M ซึ่งเป็นคุณแม่วัยทำงานและมีรายได้ระดับกลางถึงสูง รวมไปถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติกรรมในการเชื่อมต่อเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา ได้ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ รวมถึงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดกิจกรรมการตลาดแบบครบวงจร 360 องศา พร้อมกับดึงชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต และสายฟ้ากับพายุ มาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์ เพื่อมุ่งหวังให้เป็นตัวแทนของคุณแม่รุ่นใหม่ที่มีความใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดที่ดีที่สุด และปลอดภัยให้กับลูกทั้งสองคน
น.ส.ธัญธร กล่าวต่อว่า การดึง ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต และลูกชายทั้ง 2 คน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างความจดจำในแบรนด์สินค้าและเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของ "สบู่ไลฟ์บอย" ซึ่งเป็นสบู่อาบน้ำ และสบู่ล้างมือที่มาพร้อมกับส่วนผสมของ “แอคทีฟซิลเวอร์พลัส” เอกสิทธิ์เฉพาะของไลฟ์บอย เพื่อปกป้องคนไทยจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งในส่วนของสินค้าใหม่ที่นำมาทำตลาดในครั้งนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 สูตร คือ 'โททอล 10' สูตรทำความสะอาดล้ำลึก, มายด์แคร์สูตรถนอมผิว นุ่ม สะอาด ไม่แห้งตึง, คูล เฟรช สูตรเย็น สะอาด สดชื่น และ 'เลม่อน เฟรช' สูตรอาบสดชื่น ด้วยกลิ่นเลม่อนที่ทำให้คุณอาบสะอาด และลดการสะสมของแบคทีเรียได้ถึง 99.9% อ่อนโยนทุกสภาพผิว ใช้ได้ทั้งครอบครัว
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ “ไลฟ์บอย” ได้ทำการผลิตและนำออกจำหน่ายไปมากกว่า 60 ประเทศทั่วโก ซึ่งในส่วนของภูมิภาคอาเซียนมีจำหน่ายใน 8 ประเทศ ประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลลิปปินส์ เวียดนาม เมียนมา กัมพูชา และไทย ส่วนประเทศใหญ่ๆ นอกจากต้นกำเนิดที่อังกฤษแล้ว ยังมีจำหน่ายที่ประเทศอาร์เจนตินา บราซิล จีน อินเดีย ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ และอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น ลาซาด้า และช้อปปี้ รวมไปถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ได้แก่ บื๊กซี, บู๊ทส์, วัตสัน, กูร์เมต์มาร์เก็ต ,โฮม เฟรช มาร์ท, ท็อปส์ และวิลล่า มาร์เก็ต ซึ่งหลังจากออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง “สบู่ไลฟ์บอย” มั่นใจว่าจะกลับมาเป็นที่รู้จักในวงกว้างอีกครั้ง และมียอดขายเติบโตตรงตามเป้าหมายเหมือนที่ผ่านมาอย่าแน่นอน เนื่องจากแบรนด์ “ไลฟ์บอย” ทำตลาดอยู่ในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน
ข่าวเด่น