แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปบ้าง สำหรับภาพรวมธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น แต่โดยภาพรวมรวมก็ถือว่ายังมีการขยายตัวในทิศทางที่น่าพอใจ เนื่องจากอาหารญี่ปุ่นยังเป็นอาหารที่คนไทยให้ความนิยมและชื่นชอบ ดูได้จากจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี
จากข้อมูลขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือเจโทร กรุงเทพฯ ระบุว่า ภาพรวมตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยปี 2563 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.6% เป็น 4,094 ร้าน จากเดิมมีอยู่ที่ 3,637 ร้าน โดยประเภทร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ ร้านอาหารประเภทซูชิ มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 504 ร้าน มากกว่าปี 2562 ถึง 50.9% จากการขยายในรูปแบบแฟรนไชส์ของเชนร้านอาหารญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่เร่งบุกตลาด และการขยายตัวของผู้เล่นรายใหม่ให้ความสนใจเข้ามาทำตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบันไทยถือเป็นประเทศที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นมากที่สุดในอาเซียน และจากการสำรวจเมื่อปี 2561 และ 2562 พบว่าร้านอาหารญี่ปุ่นไม่ได้มีอยู่ทุกจังหวัด แต่ปี 2563 นี้ พบว่ามีร้านอาหารญี่ปุ่นกระจายตัวทั่วทุกจังหวัดของไทยแล้ว ส่งผลให้ร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างจังหวัดมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 21% และทำให้ปัจจุบันมีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดให้บริการ 1,989 ร้าน เติบโตกว่ากรุงเทพฯ 4 เท่าตัว ซึ่งในส่วนของกรุงทพฯ มีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดให้บริการอยู่ที่ประมาณ 2,105 ร้าน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.6% ซึ่งจากแนวโน้มการขยายตัวของตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างจังหวัดที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 48,6% เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีสัดส่วน 37.3%
สำหรับประเภทร้านอาหารที่น่าจับตามอง คือ ร้านอาหารประเภทซูชิและภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นเนื่องจากมีจำนวนร้านอาหารเปิดมากกว่าในกรุงเทพฯ 2 เท่า ทำให้สัดส่วนกว่า 60% ของร้านอาหารทั้ง 2 ประเภทอยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวทำให้มีการคาดการณ์ว่าตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างจังหวัดยังมีโอกาสเติบโตได้อีก เนื่องจากในต่างจังหวัดวัฒนธรรมการรับประทานอาหารญี่ปุ่นยังมีไม่มากนัก
ส่วนจังหวัดที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดให้บริการมากที่สุด คือ กรุงเทพฯและชลบุรี เนื่องจากเป็น 2 จังหวัดที่มีจำนวนร้านอาหารเพิ่มขึ้นมากที่สุด เพราะมีปัจจัยด้านประชากรที่อยู่อาศัยในพื้นที่เป็นจำนวนมาก และมีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่มากที่สุดเป็น 2 อันดับแรกของประเทศ
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีอัตราการขยายตัวของร้านอาหารญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มีการลดลงของจำนวนร้านมากเป็นประวัติการณ์ คือ ลดลงมากถึง 726 ร้าน นับตั้งแต่ปี 2550 เนื่องจากมีการปิดกิจการและขายกิจการให้แก่ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ภายหลังจากมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา ทำให้ร้านอาหารญี่ปุ่นมียอดขายเพียง 0-30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน (เดือนเมษายน) แม้จะมีการปรับตัว ด้วยการเน้นบริการส่งดีลิเวอรี่มากขึ้น แต่เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป คือ ทำอาหารทานเองที่บ้านมากขึ้นเลยทำให้หลายร้านยังฟื้นตัวได้ช้า โดยเฉพาะร้านที่พึ่งพิงชาวต่างชาติ
แม้ว่าจะมีวิกฤตแต่ก็ยังมีโอกาสให้มองเห็น เพราะหลังจากทุกอย่างสงบลง พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคก็จะกลับมาเหมือนเดิม ด้วยเหตุนี้ บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ ZEN จึงเล็งเห็นโอกาส ด้วยการออกมาเปิดตัวร้านอาหารญี่ปุ่นน้องใหม่เข้ามาทำตลาด เพื่อต่อยอดธุรกิจร้านอาหารและรายได้ในเครือ
นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) กล่าวว่า เพื่อต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ ‘อากะ’ ซึ่งเป็นร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นที่เปิดบริการมาแล้วกว่า 13 ปี ปัจจุบันมีร้านเปิดบริการรวม 24 สาขา สู่การให้บริการรูปแบบใหม่กับ “อากะ ชาบู” (AKA SHABU) บุปเฟ่ต์ชาบูที่ให้ลูกค้าอิ่มได้ไม่อั้น หลังจากประเมินภาพรวมร้านอาหารญี่ปุ่นประเภทชาบูในปี 2564 แล้วว่ายังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดสูงกว่า 15,000 ล้านบาท
สำหรับแบรนด์ “อากะ ชาบู” กลุ่มเซ็น มีการพัฒนาขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบหรืออาหารแบบบุฟเฟ่ต์ชาบูในสไตล์ญี่ปุ่น แบบไม่อั้น จุดเด่นของร้านอาหารแบรนด์นี้ คือ การคัดสรรวัตถุดิบที่หลากหลายมีคุณภาพให้ลูกค้าสามารถเลือกรับประทานเองโดยไม่ต้องรอเสิร์ฟ พร้อมจัดเตรียมเนื้อสัตว์และอาหารซีฟู้ดพร้อมเสิร์ฟ เพื่อคงคุณภาพอาหารที่สดใหม่ นอกจากนี้ได้จัดเตรียมหม้อชาบูสำหรับลูกค้าแต่ละราย เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปที่เลือกได้ 2 รสชาติ
นายบุญยง กล่าวต่อว่า ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้าน “อากะ ชาบู” สามารถเลือกรับประทานเซ็ตบุฟเฟ่ต์ 3 รูปแบบ ได้แก่ เซ็ตที่ 1 บุฟเฟ่ต์ Meat Lover Buffet สำหรับคนรักบุฟเฟ่ต์สุดคุ้ม ราคา 339+ บาทต่อคน เต็มอิ่มกับเนื้อหมู-ไก่ และเมนูบุฟเฟ่ต์กว่า 40 รายการ ล่าสุดได้จัดโปรโมชั่นพิเศษเพียง 299+ บาทต่อคน ตั้งแต่วันที่ 10 – 31 ธันวาคม 2563 เซ็ตที่ 2 บุฟเฟ่ต์ Regular Buffet ราคา 439+ บาทต่อคน บุฟเฟ่ต์ที่เพิ่มความอร่อยในส่วนของซีฟู้ด และเนื้อวัว ประกอบด้วย กุ้ง แซลมอน ปลาหมึกเจาะ และเมนูเนื้อวัวย่าง เนื้อลูกมะพร้าว เบคอนเนื้อ USA และเซ็ตที่ 3 Premium Buffet 549+ บาทต่อคน บุฟเฟ่ต์ของความพรีเมี่ยมที่มีทั้ง กุ้งแม่น้ำ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ เนื้อไทยวากิว เนื้อสันคอออสเตรเลีย ครบทั้งซีฟู้ด หมู เนื้อและเครื่องเคียงแบบไม่อั้น
ปัจจุบันร้าน “อากะ ชาบู” เปิดบริการแห่งแรกไปแล้วภายในร้านอากะ สาขาเซ็นทรัล บางนา ชั้น 2 ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการพบว่า ได้ผลการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารชาบูสไตล์ญี่ปุ่น และจากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าวทำให้ปี 2564 กลุ่มเซ็นมีแผนที่จะขยายร้าน “อากะ ชาบู” มากขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4 สาขา และจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
หลังจากเดินหน้าขยายสาขาร้าน “อากะ ชาบู” กลุ่มเซ็น ตั้งเป้าว่าจะเป็นผู้นำร้านอาหารญี่ปุ่นประเภทบุฟเฟต์ทั้งปิ้งย่างและชาบู ภายใน 3 ปีนับจากนี้ เนื่องจากมีโมเดลธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นครบทั้งปิ้งย่างและชาบู ซึ่งถือเป็นประเภทร้านอาหารญี่ปุ่นที่คนไทยชื่นชอบ
ข่าวเด่น