หลังจากมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระสอกใหม่ และเริ่มมีการแพร่กระจายไปในหลายจังหวัด ส่งผลให้ภาครัฐต้องออกมาประกาศขอความร่วมมือภาคเอกชนงดจัดกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการรวมตัวของคนหมู่มาก
จากการออกมาขอความร่วมมือดังกล่าว ทำให้งานใหญ่อย่าง “เคาน์ดาวน์” ต้องถูกยกเลิกการจัดงานไปทั้งหมด รวมไปถึงการจัดกิจกรรมเปิดตัวสินค้า และกิจกรรมเฉลิมฉลองในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้เม็ดเงินที่คาดว่าจะสะพัดในช่วงเดือนธ.ค.หายไปหลายหมื่นล้านบาท
นอกจากจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอีเวนต์ในรูปแบบต่างๆ แล้ว ในด้านของอุตสาหกรรมอาหารทะเลก็ได้รับผลกระทบไปไม่น้อยเหมือนกัน เพราะจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีตลาดกลางกุ้งเป็นสถานที่หลักในการแพร่ระบาด ส่งผลให้ผู้บริโภคชาวไทยไม่กล้าที่จะบริโภคอาหารทะเล เนื่องจากกลัวติดโรคโควิด-19 ทำให้ภาครัฐต้องออกมาสร้างความมั่นใจว่าอาหารทะเลไม่ใช่พาหะนำเชื้อโรค สามารถรับประทานได้เพียงแต่ต้องทำให้สุกเสียก่อน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกมาประเมินว่า ภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยอาจได้รับความสูญเสียจากการระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 ประมาณ 45,000 ล้านบาท ในกรอบเวลา 1 เดือน แบ่งเป็นความสูญเสียที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าประมงและอาหารทะเล ที่อาจมีมูลค่ารวมกันประมาณ 13,000 ล้านบาท ความสูญเสียจากการที่ประชาชนต้องชะลอการทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท ได้แก่ การเลี้ยงสังสรรค์ การจัดกิจกรรมต่างๆ และการลดความถี่ในการใช้จ่ายที่ร้านค้าปลีก เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังจะมีความสูญเสียจากการชะลอการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ คิดเป็นเม็ดเงินที่หายไปประมาณ 17,000 ล้านบาท หรือประมาณ 30% ของรายได้ท่องเที่ยวในช่วงเวลา 1 เดือน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวอาจสร้างผลกระทบด้านอื่นที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้อย่างชัดเจนด้วย เช่น ผลกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการที่ค้าขายสินค้าอื่นๆ ในตลาด และจากการที่ผู้คนหลีกเลี่ยงการสัญจรโดยเฉพาะการสัญจรไปในพื้นที่ที่มีการระบาดหรือพบผู้ติดเชื้อ เป็นต้น
การคาดการณ์ดังกล่าวของศูนย์วิจัยกสิกรไทย สอดคล้องกับศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยที่ออกมาประเมินว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่น่าจะส่งผลกระทบจากภาพรวมของเศรษฐกิจไทยคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 45,000-60,000 ล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในจังหวัดสมุทรสาคร และขยายไปในหลายจังหวัดประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสาครเฉลี่ยวันละ 1,000 ล้านบาท ซึ่งกว่า 70% มาจากภาคอุตสาหกรรมและอีกส่วนมาจากภาคการค้า ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบการจับจ่ายในจังหวัดเฉลี่ย 300 ล้านบาทต่อวัน
ทั้งนี้ จากผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอยู่ที่ประมาณ 45,000 – 60,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจประมาณ 0.2-0.3% ซึ่งไม่มากนักเมื่อเทียบกับมูลค่าเศรษฐกิจ 15.5 ล้านล้านล้านบาท แต่หากมีการล็อกดาวน์และใช้มาตรการเหมือนช่วงต้นปีจะกระทบจีดีดีพี 12% แม้จะมีระบาดหลายพื้นที่แต่คงประมาณเศรษฐกิจปี 2563 ติดลบ 6.3% และปี 64 ขยายตัว 2.8%
อย่างไรก็ดี หากไม่มีการระบาดระลอกใหม่ ทั่วประเทศไทยจะมีการจัดงานเคาน์ดาวน์กันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่งปีนี้จะมีจุดการจัดงานเคาน์ดาวน์ด้วยกันหลายจุดด้วยกันเริ่มจากงานใหญ่ประจำปีอย่าง “Thailand & Centralworld Bangkok Countdown 2021” ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ตามด้วยงานเคาน์ดาวน์ที่ห้างเมกาบางนา ซึ่งถือเป็นแลนมาร์คติด 1 ใน 3 ที่มีผู้คนไปเคาท์ดาวน์มากที่สุดในประเทศไทย และงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ 2564 Mitrtown Countdown 2021 ที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เป็นต้น
ส่วนต่างจังหวัดเองก็มีการยกเลิกเช่นกัน เริ่มจาก MONO29 PATTAYA COUNTDOWN 2021 แหลมบาลีฮาย พัทยา จังหวัดชลบุรี ตามด้วยงาน Bangsaen Countdown 2021 บางแสน จังหวัดชลบุรี งานKorat countdown Festival 2021 ณ Mayfair Market โคราช จังหวัดนครราชสีมา งานCOUNTDOWN PATONG 2021 จังหวัดภูเก็ต งาน Countdown @Betong 2021 อำเภอเบตง จังหวัดยะลา งาน SONGKLA Countdown 2021 จังหวัดสงขลา งาน Amazing Thailand Countdown 2021 จังหวัดเชียงใหม่ งานแสงเหนือ Countdown Festival สิงห์ ปาร์ค จังหวัดเชียงราย งาน Amazing night Sukhothai Countdown 2021 อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย เป็นต้น
จากมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการบางแห่งต้องปรับรูปแบบของการจัดงานเคาน์ดาวน์ออกมาในรูปแบบของออนไลน์ หรือจุดพลุเท่านั้น เช่น ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ผ่านทางแอปพลิเคชั่น TrueID, โทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD 30, ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 HD และช่องทางออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก ICONSIAM และเพจ Khaosod – ข่าวสด
เช่นเดียวกับ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ที่ปรับรูปแบบการจัดงานเคาน์ดาวน์เหลือเพียงแค่การจุดพลุ พร้อมเพลง “พรปีใหม่” โดยทีมออกแบบพลุ PYRO 2000 แชมป์โลกจากประเทศอังกฤษ ขณะที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ก็ได้มีการปรับรูปแบบเป็นการรับชมผ่านช่องทางอนไลน์ทางช่อง ONE31 และ LINE TV โดยการแสดงพลุจะเป็นในส่วนของชุด A Symbol of Hope ผสานจอดิจิทัลยักษ์ the panOramix ความยาว 5 นาที
สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงแบบนี้จะเดินทางไปไหนก็อย่าลืมดูแลตัวเอง สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือบ่อยๆ เพราะการกลับมาของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ระบาดเร็วกว่าครั้งที่แล้วค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะธุรกิจไหนก็ต้องประคับคองตัวกันไป เพราะถ้าเราผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตอะไรนับจากนี้เราก็มีภูมิคุ้มกัน ปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจให้เหมาะสม เพื่อยอดขายที่ตามมาในอนาคต
ข่าวเด่น