ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 756 คน เป็นติดเชื้อในประเทศ 746 คน ส่วนใหญ่พบจากการคัดกรองเชิงรุกในจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมเตรียมเอาผิดตามกฎหมาย ผู้ที่ปกปิดข้อมูล หรือให้ข้อมูลเป็นเท็จ ซึ่งเป็นปัญหาในการสอบสวนและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ? (ศบค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในวันนี้ (28 ม.ค.64 ) พบผู้ป่วยรายใหม่ 756 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 746 คน ซึ่งมาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 22 คน และการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 724 คน และผู้เดินทางจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 10 คน
ส่งผลให้ผู้ป่วยยืนยันสะสม 16,221 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 13,804 คน จากการคัดกรองเชิงรุก 6,972 คน จากผู้เดินทางจากต่างประเทศ 2,417 คน และสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 1,820 คน มีผู้ป่วยหายเพิ่ม 233 คน รวมหายป่วยแล้ว 11,284 คน อยู่ระหว่างการรักษา 4,858 คน เสียชีวิต 76 คน
โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ พบจำนวนมากจากการคัดกรองในชุมชน โดยเฉพาะที่จังหวัดสมุทรสาคร พบจำนวน 724 คน
สำหรับการติดเชื้อกรณี "ดีเจมะตูม" จากการสอบสวนพบผู้เกี่ยวข้องที่ติดเชื้อมีเพิ่มขึ้น 26 คน ยังไม่รวมผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงสูงอีก 113 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำอีก 53 คน และจากการสอบสวนโรคผู้เกี่ยวข้องจะมีการทยอยรายงานต่อเนื่อง
กรมควบคุมโรคติดต่อมีความกังวลกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับ ดีเจมะตูม มีการสอบสวนโรค พบว่าได้ไปสถานที่หลายแห่ง ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร แต่พบว่ามีการให้ข้อมูลไม่สอดคล้องกัน และปกปิดข้อมูล ทั้งที่ไปสถานที่ใกล้เคียงกัน กรณีแบบนี้อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดทำให้การป้องกันควบคุมล่าช้า ไม่ทันการ
กรมควบคุมโรค จึงทำหนังสือถึง ผอ.สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร โดยเห็นว่าถือว่าเป็นพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืน และไม่ปฎิบัติตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อปี 58 ควบคุมโรค มีความผิดฐานขัดขวาง ไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ต้องระวางโทษปรับ 2 หมื่น และอาจมีความผิดฐานแจ้งข้อความเป็นเท็จ อาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนได้รับความเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำและปรับ
ส่วนสถานที่ที่ใช้จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนการห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค และไม่จัดมาตรการป้องกันแพร่ระบาดของโรค และบุคคลที่ร่วมงานเลี้ยงเข้าข่ายฝ่าฝืนการห้ามทำกิจกรรม มั่วสุมในสถานที่แออัด เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ย่อมเป็นความผิดจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"กทม.ถือเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้นต้องติดตามว่าจะมีการรายงานฐานความผิดอย่างไร และขอให้ประชาชนได้เรียนรู้ร่วมกันเพื่อหามาตรการป้องกัน"
สำหรับการประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันพรุ่งนี้ (29 ม.ค.64) จะมีการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ โดยจะใช้ชุดข้อมูลอย่างละเอียด ทั้งด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ สังคม เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจ
ข่าวเด่น