แม้ว่าปีนี้รัฐบาลจะพยายามออกมาตรการต่างๆ มากระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค พร้อมกับประกาศให้วันตรุษจีนเป็นวันหยุดพิเศษ 1 วัน แต่ก็ยังไม่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคมากนัก เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังคงต้องอยู่ในความระมัดระะวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้น จึงทำให้ภาพรวมเทศกาลตรุษจีนในปี 2564 นี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร เพราะทุกคนยังคงต้องรักษาระยะห่าง และใส่ใจในด้านของความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น
จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า เม็ดเงินการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 11,700 ล้านบาท ปรับตัวลดลงประมาณ 10.4% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่อาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากนัก เมื่อเทียบกับเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ โดยเม็ดเงินดังกล่าวแบ่งเป็น การใช้จ่ายเครื่องเซ่นไหว้ 5,600 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 5.1% การใช้จ่ายท่องเที่ยว ทำบุญ และทานข้าวนอกบ้าน 2,900 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 20.8% และการแจกเงินแต๊ะเอีย 3,200 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 8.1%
อย่างไรก็ดี การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือ ผู้บริโภคส่วนใหญ่โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีการปรับพฤติกรรมหันมาสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ หรือโทรสั่งซื้อให้ผู้ประกอบการให้จัดส่งสินค้าถึงหน้าบ้านแทนการออกไปเลือกซื้อสินค้าด้วยตัวเองมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคบางส่วนยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย และพยายามเว้นระยะห่าง หรือหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้านหากไม่จำเป็น (Social distancing)
นอกจากนี้ การที่ผู้ประกอบการมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด ด้วยการหันมาจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่ และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหรือรายย่อย ที่มีการขยายช่องทางการสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หรือโทรสั่งและมีบริการจัดส่งถึงที่พักกันมากขึ้น ส่งผลให้ปีนี้รูปแบบของการจัดเตรียมของเซ่นไหว้มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น คือ คนกรุงเทพฯ มากกว่า 34% หันมาซื้อเครื่องเซ่นไหว้ตรุษจีนผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีการซื้อเครื่องเซ่นไหว้ในช่องทางออนไลน์เพียง 11% เท่านั้น
พร้อมกันนี้ จากผลการสำรวจยังพบว่า คนกรุงเทพฯ ประมาณ 43% มีความสนใจซื้อเครื่องเซ่นไหว้ที่จัดสำเร็จรูปไว้แล้วเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน 22% ของคนที่ตอบแบบสอบถาม โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบครันและสะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะการตอบโจทย์พฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นอีกกลุ่มที่ท้าทายสำหรับผู้ประกอบการในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดทางด้านเวลา ความรู้ความเข้าใจในการทำพิธี รวมถึงข้อจำกัดทางด้านที่พักอาศัยที่อาจจะไม่เอื้อต่อการไหว้ตรุษจีน
ดังนั้น หากผู้ประกอบการมีการปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคได้เร็ว ก็น่าจะช่วยให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องยังคงมีรายได้เข้ามาหมุนเวียน หรือประคับประคองธุรกิจภายใต้แรงกดดันต่างๆ ไว้ได้ ซึ่งสิ่งที่ต้องยึดปฏิบัติเป็นหลัก คือ การเร่งสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของคุณภาพสินค้าและราคาที่เหมาะสม เพราะสิ่งดังกล่าวถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเครื่องเซ่นไหว้ผ่านช่องทางออนไลน์
อย่างไรก็ดี หากมองไปที่คนกรุงเทพฯ ที่ยังไม่สนใจซื้อเครื่องเซ่นไหว้ผ่านช่องทางออนไลน์หรือโทรสั่ง จากการสำรวจพบว่า คนกรุงเทพฯ กลุ่มนี้มองว่า ยังมีความกังวลในเรื่องของคุณภาพเครื่องเซ่นไหว้ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์และผลไม้ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 80% ตามด้วยการมองว่า เครื่องเซ่นไหว้มีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าเมื่อเทียบกับการออกไปเลือกซื้อเอง 75% และ มองว่า เครื่องเซ่นไหว้ที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ยังมีให้เลือกจำกัด ไม่หลากหลาย 60%
จากความกังวลที่เกิดขึ้นดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า หากผู้ประกอบการสามารถปรับกลยุทธ์และแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้ โดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพ และจำหน่ายในราคาที่ไม่แพงหรือแตกต่างจากหน้าร้านมากเกินไป เพื่อทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความคุ้มค่าคุ้มราคา ก็น่าจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้มากขึ้น เช่น มีการจัดเซ็ตเครื่องเซ่นไหว้สำเร็จรูปหลากหลายราคาให้ผู้บริโภคเลือก หรือให้ผู้บริโภคเป็นคนกำหนดราคาว่าต้องการชุดเซ็ตเครื่องเซ่นไหว้สำเร็จรูปที่ราคาไม่เกินงบประมาณเท่าไหร่ ซึ่งราคาก็อาจจะขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ชนิดหรือประเภทของเนื้อสัตว์และผลไม้
ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกและจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาสนใจซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ผู้ประกอบการควรมีการทำโปรโมชั่น และบริการจัดส่งฟรี ในกรณีที่ผู้บริโภคสั่งซื้อเป็นเซ็ตตามยอดใช้จ่ายที่กำหนด หรือจัดส่งฟรีทุกคำสั่งซื้อ ก็น่าจะจูงใจผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีท่ามกลางกำลังซื้อที่เปราะบางแบบนี้
จากสถานการณ์ที่บีบรัดในด้านของการทำตลาด ทำให้ล่าสุดผู้ประกอบการต่างๆ ต้องหันมาจำหน่ายเครื่องเซ่นไหว้ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ เห็นได้ชัดก็ผู้ประกอบการห้างค้าปลีก ล่าสุดเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ออกมาเปิดตัวแคมเปญ “THE MALL HAPPY CHINESE NEW YEAR 2021 : ยุทธภพความสุข เดอะซีรีส์” เฮงรับปี 2021 ลุ้นรับทองคำ 21 รางวัล, ลุ้นโชคกับดิจิตอลอั่งเปาสูงสุด 900 บาท และของรางวัลต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 1–28 ก.พ. 2564 พร้อม คัดเมนูอาหารมงคล จากโรงแรมดัง และภัตตาคารจีนชั้นนำมาจำหน่ายในราคาพิเศษกว่า 100 ร้านในศูนย์การค้า เพื่อผลักดันให้มียอดขายเติบโตจากช่วงปกติไม่ต่ำกว่า 15%
ด้านศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัล จัดแคมเปญใหญ่ “The Great Chinese New Year 2021” ตรุษจีนปีฉลูทอง 60 ปีมีครั้งเดียว สะอาด ปลอดภัย ครบจบที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ พร้อมอัดโปรโมชั่นสินค้าราคาถูกลดสูงสุด 70% และ New Collection ลดสูงสุด 30% เจาะกลุ่ม High Spending ช้อปลุ้นอั่งเป่ามูลค่าสูงสุด 100,000 บาท จี้เพชร ของรางวัลอื่นๆ รวม 110 รางวัล และอั่งเปา ‘Cashback’ สูงสุดถึง 21% ตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.- 21 ก.พ. 2564 ออกมาจัดแคมเปญกระตุ้นกันขนาดนี้ก็น่าจะพอช่วยสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจกันสมควร ถ้าสินค้าดีราคาโดนยังไงก็ขายได้
ข่าวเด่น