เมื่อก้าวเข้าสู่หน้าร้อนแน่นอนหลายธุรกิจก็ต้องออกมาทำแคมเปญส่งเสริมการขายเกี่ยวกับซัมเมอร์ แต่ที่เห็นจะแข่งขันกันอย่างดุเดือดก็น่าจะหนีไม่พ้นธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้ากับศูนย์การค้า เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาธุรกิจดังกล่าวถือว่าได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มากพอสมควร โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563
แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์โดยรวมจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่กำลังซื้อของผู้บริโภคก็ยังไม่กลับมาเป็นปกติ เพราะบางคนมีรายได้ลดลง บางคนรายได้หายไปเพราะตกงาน จึงทำให้หลายคนยังต้องหันมาประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากยังไม่มีมั่นใจว่าโรคโควิด-19 จะจบลงในช่วงเวลาไหน ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจค้าปลีกต้องออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกันอย่างหนัก เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามป้าหมายที่วางไว้
น.ส.วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเดอะมอลล์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพรระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคชะลออย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าผู้ประกอบการจะมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่นกันอย่างต่อเนื่องก็ยังไม่สามารถกระตุ้นยอดขายกลับคืนมาได้ เนื่องจากจำนวนทราฟฟิกยังคงปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา จึงทำให้ต้องมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่นถี่ขึ้นไปอีก ซึ่งในส่วนของห้างค้าปลีกในเครือเดอะมอลล์ ยอมรับว่ามีทราฟฟิกลดลงไปประมาณ 10%
ทั้งนี้ จากผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ เดอะมอลล์ ออกมาประกาศการทำแคมเปญส่งเสริมการขายในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง โดยล่าสุดได้มีการจัดแคมเปญ FIGHT TOGETHER ด้วยการมอบส่วนลดสูงสุด 70% ให้กับลูกค้า หลังจากทำแคมเปญส่งเสริมการขายในรูปแบบดังกล่าวในช่วงเทศกาลตรุษจีน และ pay day ที่ผ่านมาสามารถกระตุ้นยอดขายกลับมาเติบโตได้ 25-30%
ขณะเดียวกัน นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัล ก็ออกมาเปิดเผยว่าได้ร่วมกับร้านอาหารภายในศูนย์การค้าจัดโปรโมชั่นมอบส่วนลดพิเศษทั้งเมนูอาหาร-เครื่องดื่ม พร้อมโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิตต่างๆ รวมไปถึงการเดินหน้าจัดงานอีเวนต์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค โดยล่าสุดได้มีการจัดแคมเปญ “ไทยเฮ เปย์คุ้ม” ด้วยการจับมือกับพันธมิตรร้านค้ากว่า 300 แบรนด์ มอบส่วนลดให้กับลูกค้าเมื่อซื้อสินค้าแฟชั่นในศูนย์ ครบ 2,500 บาท รับไปเลย cash voucher ส่วนลด 500 บาท หรือรับประทานอาหารในศูนย์ ครบ 800 บาท รับ cash voucher ส่วนลด 100 บาท (ถึง 21 มี.ค. 2564)
นอกจากนี้ ยังจะมีการจัดแคมเปญรับหน้าร้อน ด้วยการจัดโปรโมชั่นและสร้างแลนด์มาร์กที่จะเป็นไฮไลต์ในแต่ละศูนย์ และต่อด้วยแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยการจับมือกับพันธมิตรธุรกิจโรงแรมประมาณ 100 แห่งทั่วไทย จัดมหกรรมงานท่องเที่ยว ด้วยการรวมแพ็กเกจโปรฯสุดคุ้ม ทั้งโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน ร้านอาหาร และสปา มาไว้ในงานนี้งานเดียว
ด้านนางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่สายส่งเสริมการตลาดและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม ประกอบด้วย สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ กล่าวว่า บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในตอนนี้โดยรวมดีขึ้น เห็นได้จากจำนวนทราฟฟิที่เริ่มกลับมา ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีขึ้นดังกล่าวคาดว่าจำนวนทราฟฟิกน่าจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นและกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2-3 เดือนนับจากนี้ หลังจากมีปัจจัยบวกในด้านของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศไทย
ล่าสุดได้มีการใช้งบ 150 ล้านบาท จัดบิ๊กแคมเปญ “SIAM PARAGON SHOPARAZZI PHENOMENON” ระหว่างวันที่ 1 มี.ค.- 16 พ.ค.2564 ด้วยการชู 3 กลุ่มสินค้าไฮไลท์ดึงดูดนักช้อปรับซัมเมอร์ ตลอด 3 เดือน ประกอบด้วย 1. WORLD CLASS BEAUTY DESTINATION พารากอนตอกย้ำการเป็นบิวตี้เดสทิเนชั่นอันดับหนึ่งของเมืองไทย ที่เครื่องสำอางแบรนด์ดังระดับโลกต้องการมาเปิดตัวและจำหน่ายสินค้าเป็นแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมอัพเดตคอลเลกชั่นซัมเมอร์จากแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำระดับโลกกว่า 250 แบรนด์ และสินค้าลิมิเต็ดเอ็ดดิชั่นสุดพิเศษจากกว่า 12 EXCLUSIVE BRANDS เฉพาะที่ บิวตี้ฮอลล์ พารากอน พร้อมบริการด้านความงามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
2. WORLD CLASS FASHION DESTINATION สร้างปรากฏการณ์แฟชั่นสุดยิ่งใหญ่ ด้วยแบรนด์แฟชั่นชั้นนำร่วม 500 แบรนด์ ที่ขนทัพสินค้ามาเปิดประสบการณ์แฟชั่นคอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุดรับซัมเมอร์ และ 3. WORLD CLASS FOOD DESTINATION ศูนย์กลางความอร่อยระดับโลกตั้งแต่สตรีทฟู้ดจนถึงมิชลินสตาร์ และกูร์เมต์ มาร์เก็ต ที่สุดของซูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม โฉมใหม่ ยิ่งใหญ่กว่า 6,000 ตร.ม มาพร้อมคอนเซ็ปต์โซนใหม่ และสินค้าคุณภาพจากทั่วโลกรวมกว่า 50,000 รายการ ซึ่งหลังจากจบแคมเปญดังกล่าวคาดว่าจะมียอดขายในพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท
ทางฝั่งศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ก็ออกมาจัดแคมเปญ “ซัมเมอร์นี้ กินดี มีดีล” ด้วยการมอบส่วนลดสูงสุด 50% ทั้งห้างฯ และศูนย์การค้าฯ เมื่อซื้อเมนูเด็ด โปรฯ ดังรับไปเลยโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 จากร้านอาหารในเครือไมเนอร์ฟู๊ด กรุ๊ป ไม่ว่าจะเป็น เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, ซิซซ์เล่อร์, แดรี่ควีน, สเวนเซ่นส์ (เฉพาะเมนูที่ร่วมรายการ) ช้อปปุ๊บ สแกนปั๊บ แลกรับเครดิตเงินคืน 12% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC ตั้งแต่วันนี้ – 31 มี.ค. 2564 ที่ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ทุกสาขา
นายจักรภพ ปิยะรัตน์ Head of Property Management ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กลาวว่า ช่วงซัมเมอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่คนไทยนิยมใช้เวลากับครอบครัว และคนรักในการท่องเที่ยว และพักผ่อน ตามสถานที่ต่างๆ ด้วยเหตุนี้ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในฐานะไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นแห่งการ ‘กิน ช้อป เที่ยว’ ที่สมบูรณ์แบบ จึงขอเดินหน้าตอบรับเทรนด์ความต้องการของนักช้อป ด้วยการเปิดแคมเปญใหญ่ ‘ซัมเมอร์นี้ กินดี มีดีล’ ตลอดเดือนมี.ค. นี้ ซึ่งระหว่างที่จัดแคมเปญดังกล่าวบริษัทมีความเชื่อมั่นว่า จะสามารถช่วยกระตุ้นยอดขาย และสร้างบรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอยได้เป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องจากบริษัทมีมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 เป็นอย่างดี โดยจบแคมเปญบริษัทมั่นใจว่าจะมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
ข่าวเด่น