แบงก์-นอนแบงก์
"กรุงศรี คอนซูมเมอร์" ชู 3 กลยุทธ์ ก้าวสู่โลกการเงินยุคใหม่ เน้น "ดิจิทัล-ร่วมมือพันธมิตร-พัฒนาศักยภาพองค์กร" เตรียมเข็นโปรดักส์ใหม่โดนใจ "ซื้อก่อน ผ่อนจ่ายทีหลัง" ตั้งเป้าใช้จ่ายผ่านบัตรโต 10% สินเชื่อใหม่โต 11%


"ณญาณี" ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ลั่นปีนี้พร้อมก้าวสู่โลกการเงินยุคใหม่ ดึงกลุ่มคน GEN Z เสริมทัพ พัฒนานวัตกรรมโปรดักส์ใหม่ตอบโจทย์โดนใจผู้บริโภค เตรียมเข็นทีเด็ด "ซื้อก่อน ผ่อนจ่ายทีหลัง" ออกสู่ตลาดเร็วๆนี้ ชู 3 กลยุทธ์ "ใช้ระบบดิจิทัล ข้อมูล ยกระดับผลิตภัณฑ์บริการ -ร่วมมือพันธมิตรสร้างธุรกิจสู่อนาคต-พัฒนาศักยภาพองค์กร" ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรปีนี้โต 10% คว้า 312,300 ล้านบาท และยอดสินเชื่อใหม่โต 11%

 

 
 
นางสาวณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในโลกยุคใหม่จำเป็นต้องเสริมศักยภาพให้สอดรับกับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เพื่อพัฒนาศักยภาพองค์กรให้พร้อมก้าวสู่โลกการเงินยุคใหม่ และรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ดังนั้นในปี 2565 นี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ โดยวาง 3 กลยุทธ์หลัก ดังนี้

 

 
 
1.การใช้ระบบดิจิทัลและข้อมูลในการทำธุรกิจสำหรับอนาคต โดยมุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศน์ดิจิทัล ผ่านการขยายแพลตฟอร์มข้อมูล และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการใหม่ๆ ผ่านช่องทางดิจิทัล ทั้งการพัฒนาบัตรเครดิตดิจิทัลใหม่ๆ ที่มีจุดเด่นหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ซึ่งจะทยอยเปิดตัวภายในปีนี้ รวมถึงบริการใหม่ ๆ เช่น การปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล โดยกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจจากธนาคารแห่งประเทศไทย และคาดว่าจะเริ่มให้บริการในครึ่งปีหลังของปี 2565, พร้อมอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ายิ่งขึ้น โดยพัฒนาบริการใหม่ เช่น การขยายจุดรับบริการยืนยันตัวตนในการสมัครบัตรในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์, การพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ในแอป UCHOOSE เป็นเวอร์ชั่น UCHOOSE 2.0  เช่น บริการสมัครบัตรใหม่ผ่านแอป, บริการ UCASH บริการเบิกเงินสดจากวงเงินบัตรผ่านแอปโดยโอนเข้าบัญชีธนาคาร, บริการผ่อนก่อนจ่ายทีหลัง (BNPL – Buy Now Pay Later) ผ่านแอป ซึ่งสามารถขอทำรายการผ่อนชำระสินค้าด้วยตนเอง,รวมถึงการนำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้ในการทำการตลาดเฉพาะบุคคล เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และโปรโมชั่นที่ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น

 
 
 
 
2. การสร้างความเติบโตโดยผสานความร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรี และพันธมิตรชั้นนำทางธุรกิจ รวมทั้งการขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะการทำงานแบบ Krungsri One Retail ซึ่งจะผสานความร่วมมือระหว่างหลายกลุ่มธุรกิจในเครือกรุงศรี โดยมุ่งเน้นความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ข้อมูล ผลิตภัณฑ์ และช่องทางการขาย โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น,ควบคู่กับการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในธุรกิจ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และโปรโมชันที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า พร้อมกับการปรับโมเดลธุรกิจเพื่อแสวงหาแหล่งรายได้ใหม่ๆ เช่น นำเสนอบริการ ‘Call Center as a Service’, ‘Collection as a Service’ เพื่อให้บริการกับพันธมิตร เป็นต้น รวมทั้งขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน เช่น ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยผสานความร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรี ในภูมิภาค

3. การพัฒนาศักยภาพองค์กร โดยเฉพาะการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ก้าวทันโลกธุรกิจยุคใหม่ พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานแบบยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ เพื่อดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะดึงกลุ่มคน GEN Z ให้เข้ามาร่วมงานเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญเพื่อให้มีมุมมองใหม่ๆ ต่อการนำเสนอโปรดักต์ใหม่ๆ ในโลกการเงินแห่งอนาคต 
 
 
 
 
นางสาวณญาณีกล่าวว่า เป้าหมายการดำเนินงานในปี 2565 จากการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ 3 ประการ ที่เน้นดิจิทัล ร่วมมือกับพันธมิตร และพัฒนาศักยภาพองค์กร กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร เติบโต 10% คิดเป็นเม็ดเงิน 312,300 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่เติบโต 11% คิดเป็นเม็ดเงิน 4,600 ล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้าง เติบโต 7% คิดเป็นเม็ดเงิน 149,600 ล้านบาท
 
 
ทั้งนี้ในปี 2564 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโต 12.3% โดยอยู่ในหมวดการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หลังจากที่คนเริ่มรู้วิธีการใช้ชีวิต ภายใต้การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงดำรงอยู่ต่อไป นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงเดือนมีนาคม 2565 เริ่มเห็นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในส่วนของการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น อาทิ การใช้จ่ายผ่านบัตรในการซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อการเดินทางท่องเที่ยว และจ่ายค่าโรงแรมที่พัก ค่าอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคล มีการเติบโต 8.3% เทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มกระเตื้องขึ้นแล้ว ผู้คนเริ่มออกมาดำเนินชีวิตตามปกติแต่อาจจะไม่เท่ากับก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19
 
 
 
 
 
 
นางสาวณญาณีกล่าวว่า ฉะนั้นเมื่อภาพสะท้อนออกมาแล้วธุรกิจต่างๆ กำลังเริ่มเดินหน้าเริ่มฟื้นตัวเห็นทางสว่าง ทาง กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงไม่รอช้าปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดรับและเริ่มบุกหนักในภาคการขายและสมัครบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านแอปพลิเคชั่น UCHOOSE 2.0 จากเดิมเป็น UCHOOSE 1.0 ซึ่งลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางเสี่ยงภัยมาที่สำนักงานสาขา สามารถสมัครผ่านแอปได้เลย สะดวก ปลอดภัย โดยประมาณกลางปี 2565 นี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะทยอยออกบัตรใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค ซึ่งตั้งเป้าลูกค้าบัตรเครดิตใหม่ประมาณ 5 แสนกว่าบัญชี ซึ่งเป็นตัวเลขก่อนหน้าที่ยึดถือมาโดยตลอดก่อนช่วงเกิดโควิด-19 จากปีก่อนวางไว้ที่เพียง 4 แสนกว่าบัญชี
 
"สำหรับโปรดักต์ใหม่ บริการผ่อนก่อนจ่ายทีหลัง ผ่านแอป ซึ่งก็คือ การซื้อก่อน ผ่อนจ่ายทีหลัง โดยลูกค้าใช้บริการซื้อผ่านแอป และยังไม่ต้องจ่ายเงินจนถึงระยะเวลาหนึ่งอาจจะ 1 เดือน หรือ 2 เดือน แล้วค่อยมาผ่อนชำระยาวๆไป ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการดีไซน์โปรดักต์ในรายละเอียด แต่คาดว่าจะนำออกมาสู่ตลาดได้ในเร็ววันนี้"ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ อธิบายเพิ่มเติมถึงรายละเอียดคร่าวๆ
ของบริการ BNPL - Buy Now Pay Later
 
 
 
 

 
นางสาวณญาณีกล่าวต่อไปว่า สำหรับผลประกอบการของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในปี 2564 ยังคงเติบโตเป็นที่น่าพอใจ แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ โควิด-19 ที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 285,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 76,500 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 139,900 ล้านบาท อันเป็นผลจากการบริหารค่าใช้จ่าย พร้อมใช้เทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ควบคู่กับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม และช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ อยู่ที่ระดับ 1.1% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.8% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ ซึ่งนับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจ

 
 
ทั้งนี้ หมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุดเรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่ 1.ประกันภัย, 2.ช้อปปิ้งออนไลน์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์, 3.ไฮเปอร์มาร์ทและซูเปอร์มาร์เก็ต, 4. ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน, 5. ปั๊มน้ำมัน ส่วนหมวดใช้จ่ายที่มีอัตราเติบโตมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ช้อปปิ้งออนไลน์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (+55%), 2.ไอทีและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (+12%), 3.ปั๊มน้ำมัน (+11%), 4. ประกันภัย (+9%), และ 5. ตกแต่งบ้านและของใช้ในครัวเรือน (+8%) ข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ยอดการช้อปปิ้งผ่านออนไลน์แพลตฟอร์มยังคงเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเพิ่มสูงขึ้นถึง 55% เทียบกับปี 2563 ขณะที่ยอดใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้ายังคงทรงตัว แต่ที่น่าสนใจคือ ยอดใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ของหมวดห้างสรรพสินค้าเติบโตถึง 62% แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการปรับตัวของทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ที่ให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์มากขึ้น มีการปรับรูปแบบเป็นการขายของแบบออมนิแชนเนล คือ ทั้งออนไลน์และหน้าร้าน

"ปี 2565 มองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเริ่มชะลอลงบ้างจากการระบาดของไวรัสโอมิครอน รวมทั้งสภาวะเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังมีปัจจัยหนุนจากมาตรการพยุงกำลังซื้อประชาชน และกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น ภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อในปีนี้ คาดว่าการแข่งขันจะสูงขึ้น รวมไปถึงจะเห็นความร่วมมือระหว่างสถาบันการเงินกับธุรกิจต่างๆ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ๆ มากขึ้น และผู้ประกอบการมีแนวโน้มจะนำเอาระบบดิจิทัลและข้อมูล มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตในรูปแบบดิจิทัล หรือการขอสินเชื่อแบบดิจิทัล เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปิดรับเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น"ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ กล่าวปิดท้าย
 

LastUpdate 14/03/2565 20:02:43 โดย :
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 2:58 pm