คริปโตเคอเรนซี่
Scoop : เฝ้าระวัง Sell in May Ep.1 : ส่องท่าเล่น Whales หลังการประกาศขึ้นดอกเบี้ยของ Fed


 

 

 

ผ่านไปแล้วกับการประกาศผลการประชุมจากทางธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ Fed ในช่วงเวลาประมาณตีหนึ่ง ของวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีผลเป็นไปตามคาดว่า Fed ได้ยืนยันการขึ้นดอกเบี้ย 0.50% และจะเริ่มทำ QT หรือ การปรับลดงบดุลทันทีในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่จะถึงนี้ โดยเริ่มจากเดือนละ 47.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และขึ้นเป็นเดือนละ 95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากผ่านไป 3 เดือน

 

 
 
กราฟราคา Bicoin/Usdt ในTF 1ชม. จาก tradingview.com
 
 
ท่าทีตลาดภายหลังการประกาศของ Fed ทันที ก็ดูเหมือนจะไม่มีอาการตื่นกลัวของนักลงทุนในตลาดแต่อย่างใด ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าตลาดนั้นมีภาวะตื่นกลัว ทยอยขายออกเพื่อรอดูท่าที จนราคาไล่ต่ำลงตั้งแต่ช่วงที่ส่งสัญญาณในเดือนเมษายนก่อนหน้าไปแล้ว พอจนถึงวันที่ประกาศอย่างเป็นทางการก็เป็นไปตามคาด ไม่ได้มีเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่าแต่อย่างใด (อย่างเช่นขึ้นดอกเบี้ยไป 0.75% แทน) โดยดูได้จากราคาของ Bitcoin นั้น หลังจากการประกาศของ Fed ราคากลับทะยานขึ้นสูงจนเขย่งไปแตะอยู่ที่ 40,023.77 ดอลลาร์สหรัฐ (Timeframe 1 ชั่วโมง อ้างอิงจากกระดานเทรดบน Binance) และทำ Sideway ขึ้นลงอยู่ในแนวกรอบช่วงราคา 39,000 ดอลลาร์สหรัฐตลอดวัน เป็นเหตุให้ตลาด Altcoin ก็ขึ้นบวกตามไปด้วย สถานการณ์กำลังจะดี นักลงทุนหลายๆคนฝันหวานว่าแคมเปญ 5.5 Super Sale และปรากฏการณ์อย่าง Sell in May คงจะไม่มาเยือนซ้ำรอยประวัติศาสตร์แล้ว แต่ในที่สุดช่วงเวลา 20.00 น. ของวันเดียวกันก็ได้มีมือดีเทกระจาดขาย Bitcoin ลงมาจนราคาตกลงมาอยู่ที่ระดับช่วงราคา 36,000 ดอลลาร์สหรัฐกว่าๆ และทำให้บรรยากาศวันถัดมานั้นตกอยู่ในสภาวะความกลัวอีกครั้ง ที่เกิดการ Sideway อยู่ที่ช่วงระดับราคา 36,000 ดอลลาร์สหรัฐ และก้าวเข้าเขตแดนช่วงราคา 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้หวาดเสียวกันเล่นๆ ว่าจะหลุดลงไปกว่านี้ไหม

ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้?

ผู้อ่านหลายๆคนยังจำกันได้ใช่หรือไม่ว่า การเผยแพร่รายงานการประชุมของ Fed เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา ที่ Fed ได้มีการส่งสัญญาณว่าจะทำการปรับลดงบดุล หรือก็คือการดึงเงินออกจากตลาด ประกอบกับจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ซึ่งเป็นการปรับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2543 จึงไม่แปลกที่หลังจากนักลงทุนได้รับรู้ถึงสัญญาณดังกล่าว ก็ได้เกิดความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจในสหรัฐจะเกิดการชะลอตัวลง ทำให้ในตลาดวอลล์สตรีทได้เกิดการเทกระจาดขายหุ้นครั้งใหญ่ และกระทบกับตลาดลงทุนไปทั่ว ลามไปถึงตลาดคริปโต (ราคา Bitcoin มีการลดต่ำลงทันที 5.08%) เนื่องจากคนในตลาดมีการเทขาย กระโดดหนีเอาเงินของตัวเองออกมา เพื่อรอดูท่าทีที่แน่ชัดจากการประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวตลาดคริปโตตกอยู่ในอาการซบเซาและหวาดกลัว (อ้างอิงจากดัชนีชี้วัด Fear & Greed Index) ซึ่งจากท่าทีของตลาดดังกล่าว จะสามารถสังเกตได้เลยว่าตลาดคริปโตโดยรวมนั้นได้ปรับตัวต่ำลงล่วงหน้าไปก่อนแล้ว หรือบรรยากาศมันชิงอึมครึมก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นไปแล้ว จึงเป็น 1 ในเหตุผลว่าทำไมพอมีการประกาศอย่างเป็นทางการที่ทำตามการส่งสัญญาณทุกอย่าง ช่วงแรกตลาดจึงไม่เกิดการ Panic Sell

และอีก 1 เหตุผลที่นักเทรดหลายคนควรรู้คือ เหตุการณ์ตรงนี้เป็น 1 ในท่าเล่นของ Whales (บุคคลที่ถือเหรียญในปริมาณมาก การตั้ง Volume ซื้อขาย สามารถชักจูงราคาขึ้นลง และ Manipulate คนในตลาดนั้นๆได้) เพราะรูปแบบ Event การเทขายล่วงหน้าเพื่อรอดูท่าทีก่อนเกิดเหตุการณ์สำคัญๆที่จะมีผลกับตลาดลงทุนนั้น มันสะท้อนได้ถึงการแสดงออกของคนส่วนมากในตลาด ที่มีความกลัว ไม่กล้าเข้าเติมของสะสม และมีพฤติกรรมเอนเอียงไปทางเดียวกันว่าคนในตลาดที่ถอนเอาเงินออกมาถือก่อนนั้น พวกเขาจดๆจ้องๆรอเข้าช้อนซื้อในช่วงที่ราคาต่ำลงหลังเกิดเหตุการณ์ หรือคาดการณ์เหมือนๆกันว่าราคาของเหรียญคริปโตจะมีมูลค่าต่ำลง ส่วนในด้านของผู้ที่เทรด Futures ก็มีแนวโน้มในการเปิด Short เป็นส่วนใหญ่เช่นกัน ภาพของคนในตลาดตรงหน้าดังกล่าวมันเลยเป็นเหมือนกับอาหารอันโอชะในหมู่ของ Whales พอเกิดเหตุการณ์อย่างการประกาศอย่างเป็นทางการของ Fed ที่เกิดขึ้นนี้ Whales จึงได้ทำการ Manipulate ตลาด เข้าซื้อเพื่อดึงราคาขึ้นไป ทำให้คนในตลาดส่วนใหญ่ ที่ถือเงินเพื่อรอช้อนซื้อนั้น Follow Buy ตามไปด้วยเป็นโขยง เพราะกลัวว่าราคาที่รอรับอยู่นั้นมันจะไม่ลงไปหาแล้ว และที่สำคัญยังเป็นการล้างสาย Short กินเงินของพวกเขาไปจนเรียบ

แต่ความอยากอาหารของ Whales ก็ยังไม่พอเพียงแค่นี้ เพราะการดันหลังให้คนในตลาดเข้าซื้อตาม จนราคาขยับขึ้นไปยังแนวกรอบช่วงราคา 39,000 ดอลลาร์สหรัฐ และไกด์ให้คนที่เทรด Futures เปลี่ยนไปเปิด Long แทน ก็เป็นการล่อเหยื่อด้วยความหวังในการทำกำไร ให้พวกเขาเดินเข้าไปในปากของ Whales อย่างเต็มใจ รอจนได้คำใหญ่ ก็ทำการการฮุบปากเทขายจนราคาทิ้งดิ่งลงไปแตะที่ระดับ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐปลายๆ ทำให้ตลาดเกิดความกลัวกับการมาของ Event Sell in May อีกครั้ง เรียกได้ว่าเป็นท่าของ Whales ที่ล้างทั้งสาย Short และ สาย Long เลยทีเดียว

การกลับมาของ Event ที่ยิ่งใหญ่อย่าง Sell in May ที่ประเดิมด้วยท่าเล่นล้างสาย Short สาย Long ของ Whales ดูท่าว่าสถานการณ์ในตลาดช่วงตลอดเดือนนี้คงเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้งเหมือนกับปีก่อนแน่ๆ หากผู้อ่านที่เป็นนักเทรดมือใหม่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นยังไง หรือเป็นเหยื่อของ Whales ในเหตุการณ์ที่ผ่านมาไปแล้ว มาหาทางออกร่วมกันได้ในสกู๊ปต่อไปกับ “เฝ้าระวัง Sell in May Ep.2: ทำความรู้จัก Nonfarm และ CPI ดัชนีชี้เป็นชี้ตายของภาคเศรษฐกิจ”
 
 
 
ที่มา
- tradingview.com
- th.investing.com

บันทึกโดย : วันที่ : 08 พ.ค. 2565 เวลา : 12:05:19
25-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (24 เม.ย.67) บวก 3.64 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.10 จุด

2. ประกาศ กปน.: 27 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 เม.ย.67) บวก 3.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,360.90 จุด

4. MTS Gold คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,335 เหรียญ

5. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (23 เม.ย.67) ร่วง 4.30 เหรียญ คลายความกังวลตะวันออกกลาง-จับตาเงินเฟ้อและGDPสหรัฐ

6. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (23 เม.ย.67) พุ่งขึ้น 263.71 จุด ขานรับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่งเกินคาด

7. ทั่วไทยมีฝนฟ้าคะนอง ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตต. 20% ภาคใต้ ฝั่ง ตอ.10% กรุงเทพปริมณฑล ฝนเล็กน้อยบางแห่ง

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.80-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (24 เม.ย.67) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 36.93 บาทต่อดอลลาร์

10. ทองเปิดตลาด (24 เม.ย. 67) ปรับขึ้น 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 40,950 บาท

11. ตลาดหุ้นไทยเปิด (24 เม.ย.67) บวก 7.26 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.72 จุด

12. ประกาศ กปน.: 25 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนกาญจนาภิเษก (ด้านตะวันตก)

13. ประกาศ กปน.: 25 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนประชาร่วมใจ

14. ตลาดหุ้นปิด (23 เม.ย.67) บวก 7.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,357.46 จุด

15. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (23 เม.ย.67) บวก 11.57 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.09 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 9:23 am