คริปโตเคอเรนซี่
Scoop : เฝ้าระวัง Sell in May Ep.2 : ทำความรู้จัก "Nonfarm" และ "CPI" ดัชนีชี้เป็นชี้ตายของภาคเศรษฐกิจ


จาก Ep ที่แล้วเราได้เห็นถึงความเล่นใหญ่ที่วาดลวดลายล้างสาย Short สาย Long ให้นักเทรดมือใหม่หลายๆคนหวาดกลัวไปตามๆกัน และไม่รู้ว่าต่อไปเราควรจะขยับตัว ใช้เครื่องมืออะไรในการเทรดดี ใน Ep ที่ 2 นี้ "AC News" เลยจะพาทุกคนมารู้จักกับดัชนีที่เรียกว่า “Nonfarm” และ “CPI” เป็นดัชนีที่สำคัญที่สามารถกำหนดทิศทางของเศรษฐกิจล่วงหน้าได้


 
 
 
Non-Farm Payrolls หรือที่ในหมู่นักลงทุนนิยมเรียกกันว่า Nonfarm คือรายงานตัวเลขอัตราการจ้างงานของสหรัฐอเมริกาทั้งหมด ทั้งในครัวเรือนและในองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร แต่ไม่รวมถึงอุตสาหกรรมภาคการเกษตร โดยเป็นดัชนีที่บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในแต่ละเดือนว่า มีปริมาณการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และสะท้อนให้เห็นถึงว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัวหรือหดตัวลง โดยถ้าตัวเลขอัตราการจ้างงานลดต่ำลง ก็แสดงว่าภาคการใช้จ่ายของผู้บริโภค (เป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุดของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ) นั้นลดลง ภาวะเศรษฐกิจก็จะเข้าสู่การชะลอตัวหดตัวลง แต่ถ้ากลับกัน ตัวเลขอัตราการจ้างงานนั้นปรับตัวสูงขึ้น ก็แสดงว่าภาคการใช้จ่ายของผู้บริโภค มีการจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคักมากกว่าเดิม ภาวะเศรษฐกิจก็จะโตขึ้นตามไปด้วย และยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการในการจ้างงานคนที่เพิ่มขึ้น (เนื่องจากเห็นแนวโน้มว่าเศรษฐกิจจะยังขยายตัวต่อเนื่อง จึงเพิ่ม Cost ต้นทุนแรงงานเพื่อให้กิจการตัวเองทำผลกำไรได้มากกว่าเดิม)

NonFarm จึงเป็นดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจที่นักลงทุนในทุกๆตลาดทั่วโลกให้ความสนใจอย่างมาก โดยจะประกาศในทุกวันศุกร์แรกของเดือน เวลา 19.30 น.ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งจะมีตัวเลขคาดการณ์กำกับไว้อยู่ก่อนแล้ว หากตัวเลขประกาศจริงดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ ก็จะเป็นลักษณะเชิงบวกให้กับเงินสกุลดอลลาร์ และส่งผลบวกนี้ไปยังกราฟในตลาดทุน หรือเงินทุนส่วนใหญ่จะไหลไปที่ตลาดหุ้น ตลาดคริปโต หรือตลาดทุนที่มีการเติบโตสูง ส่วนตลาดทองคำในเวลาที่เศรษฐกิจดีอย่างนี้ก็จะมีแรงเทขายออกไป (เพราะค่าเงินไม่ได้อ่อนลงจนต้องกักเก็บความมั่งคั่งไว้ในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทอง) แต่ถ้าตัวเลขค่าจริงดีกว่าแค่เพียงตัวเลขคาดการณ์ ไม่ได้เติบโตหรือมีค่าใกล้เคียงกับตัวเลขครั้งก่อน ตลาดทุนก็จะส่งผลบวกแค่ในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น ทำให้กราฟราคาสินทรัพย์ เช่นตลาดคริปโตมีการรีบาวน์ขึ้นในระยะเวลาสั้นๆเพียงเท่านั้น ก่อนปรับตัวลงมาเหมือนเดิม
 
 
 
 
 
โดยวันศุกร์แรกที่ผ่านมาของเดือนพฤษภาคม ดัชนี Nonfarm ที่ตัวเลขครั้งก่อนอยู่ที่ 428k คาดการณ์ 391k และค่าที่ออกมาจริงคือ 428k เป็นตัวเลขที่ดีกว่าคาดแต่ก็ยังมีอัตราที่เท่าเดิมกับครั้งก่อนหน้า ทำให้ตลาดคริปโตมีผลเป็นบวกในระยะเวลาสั้นๆ เห็นได้จากกราฟของ Bitcoin ด้านบนใน Time Frame 30 นาที ในช่วงเวลา 19.30 น. ภายหลังการประกาศ มีการเปิดแท่งอยู่ที่ราคา 36,339.26 ดอลลาร์สหรัฐ และราคาปิดแท่งลดต่ำลงอยู่ที่ราคา 35,770.49 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะทำ Sideways ขึ้นลงที่ระดับราคาคงเดิม ซึ่งสำหรับนักลงทุนสาย Spot ที่จะซื้อเหรียญเก็บเข้ากระเป๋า อาจจะไม่ใช่สัญญาณของการเข้าซื้อที่ดีนัก แต่หากว่าจะทำการเทรดในแบบ Futures ก็อาจจะเป็นโอกาสในการเปิด Long ช่วงสั้นๆเป็นค่าขนมเล็กๆน้อยๆได้

ถึงรายงานตัวเลขอัตราการจ้างงานนี้ได้ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ทาง "AC News" ยกตัวอย่างนำมาบอกกล่าวกับผู้อ่าน ก็เพื่อเป็นการแนะนำ Indicator Nonfarm เอาไว้พิจารณาประกอบแผนการเทรดเพิ่มเติมในช่วงวันศุกร์แรกของเดือนถัดๆไป ซึ่งสามารถเข้าไปเฝ้ารอดูอัตราการจ้างงานนี้ได้จากทาง https://th.investing.com/economic-calendar/

ส่วนรายงานตัวเลขอีกอันที่มีผลอย่างมากกับภาวะทางเศรษฐกิจ และกำลังจะเปิดเผยตัวเลขในวันพุธที่ 11 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ก็คือ Core Consumer Price Index (รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน) หรือที่เรียกสั้นๆว่า CPI เป็นการวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในราคาสินค้าและบริการต่างๆ ที่ไม่รวมถึงสินค้าประเภทอาหารและพลังงาน และดัชนี CPI นี้จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงจากมุมมองของผู้บริโภค โดยที่ตัวเลขที่ออกมาจะสามารถวัดได้ถึงสภาวะเงินเฟ้อ การเติบโตทางเศรษฐกิจ และแน่นอนว่ามีผลกับตลาดคริปโตเต็มๆ
 
 
 
 
โดยหากตัวเลขตามจริงนั้นต่ำกว่าตัวเลขที่มีการคาดการณ์ แปลว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนตัวลง และมีแนวโน้มที่คนจะหอบเงินตรงนั้นไปลงยังตลาดคริปโตเฉกเช่นเดียวกับเดือนเมษายน ที่ภายหลังการประกาศในเดือนดังกล่าวราคาของ Bitcoin ได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 42,976 ดอลลาร์สหรัฐ

แต่หากตัวเลขตามจริงนั้นสูงกว่าตัวเลขที่มีการคาดการณ์ นั้นก็แปลว่าเงินดอลลาร์นั้นแข็งค่าขึ้น เป็นตัวบ่งบอกว่าเศรษฐกิจดี และอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นด้วย ความกังวลของนักลงทุนก็จะมีมากขึ้นโดยปริยาย เพราะอาจเป็นข้อสนับสนุนให้ Fed ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มไปเป็น 0.75% ในการประชุมของเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นความกังวลในทิศทางเดียวกับช่วงวันที่ 6 เมษายนเดือนที่แล้วว่า Fed มีการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย และจะทำ QT ส่งผลให้ตลาดคริปโตมูลค่าทิ้งดิ่งล่วงหน้าก่อนที่จะมีการประกาศจริง และยิ่งตอนนี้เป็นเดือนพฤษภาคม ที่มักมีปรากฏการณ์ Sell in May แล้วด้วย ก็อาจจะทำให้ช่วงวันพุธที่ 11 พฤษภาคม หลังการประกาศ มูลค่าของตลาดคริปโตจะยิ่งต่ำกว่าเดิม

สิ่งที่ "AC News" จะยังขอแนะนำนักเทรดมือใหม่ต่อไป ก็คือการ Take Profit ออกมาดูท่าทีของตลาดกันก่อนในวันพุธที่ 11 พฤษภาคม นี้ กักเก็บกระแสเงินสดของตัวเองสำรองเพื่อรักษาอำนาจในการใช้จ่ายของเราเอาไว้ ไม่ควรสนใจการ Manipulate ลากราคาขึ้นลงของ Whales อย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เพราะไม่อย่างนั้น เราเสียเองที่จะเสียหายหลายแสน แทนที่จะมีกระสุนเงินเอาไว้ช้อนซื้อเหรียญในช่วงที่ราคาปรับตัวต่ำลงมาจริงๆ
 
 

ที่มา
- tradingview.com
- th.investing.com

บันทึกโดย : วันที่ : 08 พ.ค. 2565 เวลา : 13:23:49
20-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. พรุ่งนี้ (20 เม.ย.) ราคาน้ำมันดีเซล ปรับขึ้น 50 สต./ลิตร ตามมติ กบน. มีผลเที่ยงคืนนี้

2. ตลาดหุ้นปิด (19 เม.ย.67) ลบ 28.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,332.08 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 เม.ย.67) ลบ 25.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,335.93 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,385 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ

5. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.20%

6. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวก 9.60 เหรียญ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวกแค่ 22.07 จุด เจ้าหน้าที่เฟดตบเท้าหนุนไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.75-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 เม.ย.67) ลบ 20.39 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,340.63 จุด

10. ทองเปิดตลาด (19 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 550 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 42,500 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.85 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราษฎร์บูรณะ

13. ตลาดหุ้นปิด (18 เม.ย.67) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.02 จุด

14. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.67) บวก 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,368.77 จุด

15. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.ฝน 20%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 8:11 am