คริปโตเคอเรนซี่
Scoop : เทรดเหรียญคริปโตแบบ Futures คืออะไร? มีความเสี่ยงกว่าเทรดแบบธรรมดาหรือไม่?


 

 

หากเราเคยท่องจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน คงจะคุ้นตากันดีกับคำว่า Future ที่แปลตรงตัวว่า อนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง และไม่มีใครสามารถรู้แน่ชัดได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง อย่าง ‘เลขหวยที่เราซื้อไปจะถูกรางวันที่ 1 ไหม?’ ‘เราจะได้แต่งงานก่อนอายุ 30 รึเปล่า?’ หรือว่า ‘ราคาของ Bitcoin จะมีมูลค่ามากกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐไหมในปี 2023?’ ไม่มีอะไรที่จะสามารถฟันธงกับเราได้ 100% เลยว่าให้เราทำอะไรแบบไหน แล้วจะได้ผลลัพธ์เป็นสิ่งนั้น หรือสิ่งที่เราปรารถนากลับมา แม้แต่ศาสตร์ของการดูดวงเอง ก็เป็นเพียงคำทำนายที่ให้ไว้เป็นแนวทางปฏิบัติแต่เพียงเท่านั้น (เพราะไม่อย่างงั้นแล้ว ทุกคนในตลาดลงทุนก็คงร่ำรวยเท่าเทียมกัน เพราะรู้ว่าสินทรัพย์อันไหนราคาจะขึ้น หรือจะลง)


ในด้านของตลาดลงทุนเอง นอกจากการเก็งกำไรเทรดแบบซื้อถูกขายแพง เช่นในตลาดคริปโต เราจะเรียกว่า ‘Spot’ หรือการซื้อเหรียญคริปโตที่เราจะเป็นเจ้าของเหรียญที่เราซื้อมา ไม่ว่าราคาจะขึ้นจะลง จำนวนของเหรียญที่เรามีจะคงอยู่เท่าเดิม เช่นเราซื้อ 1 Bitcoin ในราคา 900,000 บาท ไม่ว่าราคาจะขึ้นไปเป็นล้าน หรือปรับราคาต่ำลงมาจนเราติดดอย เราก็ยังคงสถานะของการเป็นเจ้าของ 1 Bitcoin อยู่ดี หากยังไม่ได้ขายออกไป แต่การเทรดอีกชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า ฟิวเจอร์ส (Futures) นั้น แตกต่างกับการเทรดแบบ Spot ซึ่งมีตัวแปรเป็น ‘อนาคต’ ว่าเราจะได้กำไรหรือขาดทุน

ฟิวเจอร์ส (Futures) คือรูปแบบของสัญญาที่ผู้ซื้อกับผู้ขายตกลงจะซื้อขายสินค้ากันล่วงหน้า ซึ่งจะ ตกลงกัน ณ ขณะที่ทำสัญญาโดยใช้ราคาในอนาคต และค่อยส่งมอบสินทรัพย์และชำระเงินในอนาคตเช่นกัน สินค้าและสินทรัพย์ที่มีการเทรดแบบฟิวเจอร์ส ก็มีตั้งแต่ ทองคำ น้ำมัน หุ้น พันธบัตร เงินตราต่างประเทศ ตลาดอนุพันธ์ รวมไปถึงเหรียญคริปโต

และการสร้างสถานะสัญญาฟิวเจอร์ส จะต้องมีตัวละครหลักอยู่ 2 ฝั่ง ซึ่งก็คือผู้ซื้อ กับผู้ขาย โดยฝั่งผู้ซื้อสัญญา จะเรียกว่ามี “สถานะซื้อ” หรือ Long Position ส่วนฝั่งผู้ขาย เรียกว่ามี “สถานะขาย” หรือ Short Position

Long Position เป็นผู้มีสถานะซื้อ หรือเรามีการคาดการณ์ว่าสินทรัพย์นั้นจะมีราคา ‘สูงขึ้น’ ในอนาคต ถ้าราคาของสินทรัพย์มีราคาขึ้นจากที่เรา Long ไป เราก็จะได้กำไรกลับมา แต่ถ้าผิดทาง ราคากลับต่ำลงเราก็จะขาดทุน

Short Position ก็ตรงข้ามกัน เราจะมีสถานะเป็นผู้ขาย ที่เราตั้งเป้าว่าสินทรัพย์นั้นจะมีราคาที่ ‘ต่ำ ลง’ หากราคาของสินทรัพย์มีราคาลงจากที่เรา Short ไป เราก็จะได้กำไรกลับมา แต่ถ้าผิดทาง ราคากลับสูงขึ้น เราก็จะขาดทุน
 

 
 ตัวอย่างการโดน Liquidated  จากทั้ง Long และ Short Position
 
 
จริงๆก็สามารถอธิบายได้แบบง่ายๆว่า ถ้าเราคิดว่าสินทรัพย์นั้นราคาจะสูงขึ้น ก็เลือกเทรด Long Position แต่หากคิดว่าราคาจะลงจากเดิมก็เลือกเทรด Short Position ไป ถ้าคิดถูกเราก็จะได้รับกำไร แต่ถ้ามองว่าจะขึ้น แต่กลับลง และลงลึกไปเรื่อยๆ เงินที่เราลงไว้ก็จะหายไปเรื่อยๆ และในที่สุดถ้าผิดทางแบบ 100% (Margin Ratio 100%) เราก็จะถูกตลาดบังคับขายทั้งหมดโดยอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่าโดน ‘Liquidated’ ที่เงินทั้งหมดที่ลงไปหายเหลือเป็น 0 นั่นเอง การ Short แบบผิดทางก็สามารถโดน Liquidated ได้เช่นเดียวกัน เราเลยได้ยินคนในตลาดชอบพูดกันบ่อยๆว่า ล้างสาย Short สาย Long เวลาตลาดมี Whales เข้ามา Manipulate ราคา

 
แล้วการเทรดแบบ Futures นั้นทำงานอย่างไร?
 

การเลือก Leverage ใน Exchange Binance
 
 
ปกติการเทรดแบบ Spot ที่พูดถึงไปข้างต้น ว่าเราจะเป็นเจ้าของสินทรัพย์หรือเหรียญคริปโตนั้นๆเลย โดยที่เราจำเป็นจะต้องจ่ายเงินแบบ Full Payment เช่น ถ้าเหรียญ ETH มีราคาอยู่ที่เหรียญละ 100,000 บาท หากเราต้องการซื้อ 1 เหรียญ เราก็ต้องใช้เงิน 100,000 บาทจ่ายไปเต็มๆ แต่การเทรดแบบ Futures เราไม่ได้ซื้อขายสินทรัพย์จริงๆ แต่เราซื้อขายสัญญา ซึ่งจะมีระบบที่เรียกว่า ‘Leverage’ หรือตัวคูณ กล่าวคือ ถ้าเราต้องการซื้อขายสัญญาเหรียญ ETH 1 เหรียญ เราไม่จำเป็นต้องมีเงิน 100,000 บาท แต่เราสามารถใช้ Leverage มาคูณกับเงินทุนที่เรามี (ซึ่งใน Exchange ของ Binance สามารถเลือก Leverage ได้ตั้งแต่ 1x - 125x) หากเรามีทุนอยู่ 10,000 บาท เราก็สามารถใช้ Leverage 10x คูณเข้าไปได้ แต่สิ่งที่อันตรายมากๆก็คือ ผลตอบแทนและความเสี่ยงจะมีความสัมพันธ์กับตัวคูณ Leverage ที่เราเลือก ยิ่ง Leverage สูงเท่าไหร่ ความเสี่ยงก็จะสูงมากขึ้นเท่านั้น หากใช้ตัวอย่างเดิม เราเลือก Short เหรียญ ETH ที่ Leverage 10x หากถูกทางราคาลดลง 1% ก็เท่ากับว่าเราจะได้กำไร 10% แต่หากราคาขึ้นไป 1% เราก็จะขาดทุน 10% เช่นกัน ซึ่งถ้าขึ้นไป 100% ก็เท่ากับพอร์ตแตก หรือโดน Liquidated นั่นเอง และยิ่งไม่ต้องพูดถึงหากเราเลือกตัวคูณที่มากกว่านี้ ก็เท่ากับว่าเราจะได้กำไรมหาศาล และก็มีโอกาสขาดทุนเหลือ 0 ได้ ตามแบบฉบับ High Risk High Return

ต้องบอกว่าการเทรดแบบ Futures เป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ เพราะมีความเสี่ยงที่สูง ยิ่งเทรดในสินทรัพย์ที่มีราคาผันผวน สวิงขึ้นลงรวดเร็ว เราอาจจะได้กำไรในระยะเวลาแบบติดจรวด หรือไม่ก็โดนล้างพอร์ตเงินหายไปในพริบตา ฉะนั้นคนที่จะเทรด Futures ได้ แนะนำว่าต้องมีชั่วโมงบินในการเทรดแบบปกติที่ชำนาญเสียก่อน หรือต้องเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ทิศทางราคาโดยใช้ข่าว องค์ความรู้เกี่ยวกับการเทรด เพื่อลดโอกาสในการสูญเสียเงิน ไม่ใช่การมั่วสุ่มเข้า แทงขึ้นแทงลง โดยไม่ใช้ข้อมูลบริบทรอบข้างมาวิเคราะห์ก่อนเทรด เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว สิ่งที่ทำอยู่มันไม่ใช่การลงทุน แต่มันคือการพนันดีๆนี่เอง

LastUpdate 15/05/2565 15:40:18 โดย : Admin
19-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราษฎร์บูรณะ

2. ตลาดหุ้นปิด (18 เม.ย.67) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.02 จุด

3. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.67) บวก 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,368.77 จุด

4. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.ฝน 20%

5. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (17 เม.ย.67) ร่วง 19.40 เหรียญ กังวลเฟดชะลอลดดอกเบี้ย

6. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (17 เม.ย.67) ลบ 45.66 จุด กังวลทิศทางดอกเบี้ยเฟด-ผิดหวังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

7. ทองเปิดตลาด (18 เม.ย. 67) ร่วงลง 350 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 41,800 บาท

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (18 เม.ย.67) บวก 5.7 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,372.01 จุด

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนึ้ (18 เม.ย.67) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 36.78 บาทต่อดอลลาร์

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.65-36.95 บาท/ดอลลาร์

11. พรุ่งนี้ (18 เม.ย. 67) ราคาน้ำมันเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ปรับขึ้น 40 สต./ลิตร

12. ตลาดหุ้นปิด (17 เม.ย.67) ลบ 29.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,366.94 จุด

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า(17 เม.ย.67) ลบ 30.34 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,366.04 จุด

14. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับระยะสั้นที่ระดับ 2,365 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,400 เหรียญ

15. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.55-36.80 บาท/ดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 8:03 am