กองทุนรวม
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.60-32.80 มองแนวโน้มแข็งค่าต่อในปีหน้า


 กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.60-32.80 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 32.76 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลงมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ตามคาด ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยมูลค่า 1.2 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 2.01 หมื่นล้านบาท  ส่วนเงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ยกเว้นเยน โดยในภาพรวมตลาดได้ปรับตัวรับข่าวการอนุมัติกฎหมายปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ของสภาคองเกรสสหรัฐฯ ไปก่อนหน้านี้แล้ว ขณะที่มีแรงเทขายเงินเยนหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับขึ้น อีกทั้งมีสัญญาณจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งระบุว่าจะยังคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากเป็นพิเศษต่อไป 

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า แม้มีแรงซื้อเงินดอลลาร์กลับเข้ามาหลังพรรคที่สนับสนุนการแยกตัวจากสเปนชนะการเลือกตั้งในแคว้นกาตาลุญญา รวมถึงความสำเร็จของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในการอนุมัติร่างกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานราชการจนถึงวันที่ 19 มกราคม 2561แต่ปริมาณธุรกรรมที่ลดลงในช่วงสิ้นปีและสภาพคล่องการซื้อขายที่มีไม่มากในช่วงเทศกาลคริสต์มาสอาจส่งผลให้ตลาดเคลื่อนไหวมากเกินจริงตามกระแสข่าวต่างๆ ก่อนที่นักลงทุนจะกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้งหลังปีใหม่ 

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ข้อมูลการค้าเดือนพฤศจิกายนบ่งชี้ว่า ยอดส่งออกไทยขยายตัวสูงถึง 13.4% เมื่อเทียบรายปี ส่วนการนำเข้ายังคงฟื้นตัวต่อเนื่องในอัตรา 13.7% สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจที่สดใส สอดคล้องกับการประเมินของกนง.ในเรื่องความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจว่าสมดุลมากขึ้น โดยกนง.ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการเติบโตของจีดีพีของไทยในปี 2560 และ 2561 เป็น 3.9% จากเดิมที่ 3.8% ด้วยปัจจัยหนุนจากการส่งออกและการท่องเที่ยว ส่วนการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวอย่างช้าๆ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง ในระยะถัดไป หากภาครัฐเบิกจ่ายลงทุนได้ตามแผน จะเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมเช่นกัน นอกจากนี้ กนง.เห็นว่าค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวสอดคล้องกับสกุลเงินภูมิภาค ท่าทีดังกล่าวทำให้เรายังคงมุมมองที่ว่ามีโอกาสที่ทางการจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายก่อนสิ้นปี 2561 หากแรงส่งเชิงบวกของเศรษฐกิจยังมีต่อเนื่อง ส่วนเงินบาทมีทิศทางแข็งค่าในอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับปีนี้เนื่องจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยอาจลดลงหลังความต้องการนำเข้าฟื้นตัว อีกทั้งบัญชีเงินทุนมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนมากขึ้น


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 ธ.ค. 2560 เวลา : 22:45:51
25-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (24 เม.ย.67) บวก 3.64 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.10 จุด

2. ประกาศ กปน.: 27 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 เม.ย.67) บวก 3.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,360.90 จุด

4. MTS Gold คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,335 เหรียญ

5. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (23 เม.ย.67) ร่วง 4.30 เหรียญ คลายความกังวลตะวันออกกลาง-จับตาเงินเฟ้อและGDPสหรัฐ

6. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (23 เม.ย.67) พุ่งขึ้น 263.71 จุด ขานรับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่งเกินคาด

7. ทั่วไทยมีฝนฟ้าคะนอง ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตต. 20% ภาคใต้ ฝั่ง ตอ.10% กรุงเทพปริมณฑล ฝนเล็กน้อยบางแห่ง

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.80-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (24 เม.ย.67) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 36.93 บาทต่อดอลลาร์

10. ทองเปิดตลาด (24 เม.ย. 67) ปรับขึ้น 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 40,950 บาท

11. ตลาดหุ้นไทยเปิด (24 เม.ย.67) บวก 7.26 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.72 จุด

12. ประกาศ กปน.: 25 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนกาญจนาภิเษก (ด้านตะวันตก)

13. ประกาศ กปน.: 25 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนประชาร่วมใจ

14. ตลาดหุ้นปิด (23 เม.ย.67) บวก 7.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,357.46 จุด

15. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (23 เม.ย.67) บวก 11.57 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.09 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 5:15 am