เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
'เงินบาท' รับปีจอแข็งค่าทำสถิติรอบกว่า 3 ปี


 ต้อนรับปีจอด้วยความแข็งแกร่ง   หลังเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น ทำสถิติในรอบกว่า 3 ปี  ตั้งแต่วันที่เริ่มเปิดทำการในวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา   แนะเอสเอ็มอีป้องกันความเสี่ยง

 


          
ซึ่งดร.สมคิด  จาตุศรีพิทักษ์   รองนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า แนวโน้มเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง  เป็นการเคลื่อนไหวสอดคล้องกับประเทศในภูมิภาค เพราะเงินทุนไหลเข้าจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า   ขณะที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวมากขึ้น และจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนนับว่าภาคเอกชนรายใหญ่ให้ความสำคัญในการป้องกันความเสี่ยง   ขณะที่ผู้ประกอบการรายย่อย หรือเอสเอ็มอี ยังให้ ความสนใจในเรื่องดังกล่าวน้อยมาก ดังนั้นจึงแนะให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ความสำคัญกับการป้องกันความเสี่ยง

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยขยายตัวดีขึ้น จากนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐผ่านการลงทุนมีความชัดเจน   จึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มียอดขอลงทุนเกินเป้าหมาย

 



นายสุวิชญ โรจนวานิช  ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)กล่าวว่า เงินบาทแข็งค่าจากพื้นฐานเศรษฐกิจเข้มแข็ง เพราะเงินทุนไหลเข้า ขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จับตาดูแลอย่างใกล้ชิด จึงไม่น่าเป็นห่วง 

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า  เงินบาทแข็งค่าขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีเข้าใกล้ ระดับ 32.20 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับ ที่แข็งค่าที่สุดในรอบกว่า 3 ปี สอดคล้องกับ ทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค  ขณะที่ เงินดอลลาร์ ยังคงไร้ปัจจัยสนับสนุนที่มี นัยสำคัญ แม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่ธนาคารกลาง สหรัฐฯ (เฟด) ยังคงทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นท่าทีที่แตกต่างไปจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยของไทยซึ่งมีโอกาสทรงตัวที่ระดับ 1.50% ในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของปี 2561
          
โดยภาพดังกล่าวสะท้อนว่า  ความผันผวนของทิศทางค่าเงินบาทท่ามกลางความไม่แน่นอนของหลายๆ ปัจจัยในต่างประเทศ  จะยังคงเป็นสถานการณ์ที่ต้อง ติดตามอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องในปีนี้   เพราะต้องยอมรับว่า การที่อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ของสหรัฐฯ จะกลับขึ้นไปอยู่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย   อาจจะไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่มีผลต่อกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในปีนี้  แต่คงจะต้องจับตาปัจจัยอื่นๆ ในระหว่างปีด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะแรงหนุนเงินบาทจากยอดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย ความไม่แน่นอนของ "จังหวะเวลา" ไม่ใช่ "จำนวนครั้ง" ของการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งความผันแปรของประเด็นทาง การเมืองภายในและระหว่างประเทศ ของสหรัฐฯ
          
ดังนั้นการเลือกใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยง (อาทิ สัญญาฟอร์เวิร์ด ออปชั่น และการเปิดบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ) ที่เหมาะสม   อาจช่วยให้ภาคธุรกิจที่มีส่วน เกี่ยวข้องกับธุรกรรมระหว่างประเทศ สามารถจัดการกับกระแสรายรับและบริหารต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ ที่ผันผวนของค่าเงินบาทในปีนี้ที่อาจมีภาพที่ไม่แตกต่างไปจากปีที่ผ่านมา


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 ม.ค. 2561 เวลา : 10:26:17
25-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (25 เม.ย.67) บวก 3.17 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.27 จุด

2. ประกาศ กปน.: 29 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบ้านบางไผ่-บ้านหนองเพรางาย

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ลบ 42.77 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด บดบังผลประกอบการ บจ.แกร่ง

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ร่วง 3.70 เหรียญ นักลงทุนคลายกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

7. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่งตต. 20% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 10%

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 37.00-37.25 บาท/ดอลลาร์

9. ทองเปิดตลาด (25 เม.ย. 67) ปรับขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 41,300 บาท

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนึ้ (25 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.08 บาทต่อดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นไทยเปิด (25 เม.ย.67) ลบ 2.13 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,358.97 จุด

12. ตลาดหุ้นปิด (24 เม.ย.67) บวก 3.64 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.10 จุด

13. ประกาศ กปน.: 27 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 เม.ย.67) บวก 3.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,360.90 จุด

15. MTS Gold คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,335 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 9:04 pm