เมืองไทยประกันภัย ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยปี 2561 สูงถึง 13,500 ล้านบาท เน้นการเข้าถึงลูกค้า เสริมความแข็งแกร่งแบรนด์ สู่ยุคดิจิทัล พร้อมขยายช่องทางการขายออนไลน์ผ่านดิจิทัล เล็งฐานลูกค้ารายใหม่เพิ่มกลุ่ม Gen Y 

นางนางพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2561 บริษัทฯ ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวม 13,500 ล้านบาท โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 10 ซึ่งมาจากสัดส่วนเบี้ยรับประกัน Motor คิดเป็น  52 % และ Non-Motor คิดเป็น 48 % รวมทั้งได้มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการขยายช่องทางการขายออนไลน์ผ่านระบบดิจิทัล เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยมากยิ่งขึ้น โดยทิศทางในปี 61 นี้ มีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลากหลายประเภท โดยเน้นผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ (Health) ในด้านประกันรถยนต์เน้นแบบประกัน 2+ และ 3+ ซึ่งเพิ่มความคุ้มครองครอบคลุมความเสียหายของรถที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ทั้งน้ำท่วม และเหตุแผ่นดินไหว ลูกเห็บและลมพายุ ซึ่งแต่เดิมจะคุ้มครองเฉพาะกรณีชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น นอกจากนี้ยังพัฒนาให้มี ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองส่วนเพิ่มจากประกันรถยนต์ปกติ (Motor Top Up) ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองหมวดที่ต้องการได้เองโดยไม่ถูกบังคับแบบแพคเกจ เช่น เงินชดเชยระหว่างรถเข้าซ่อม เงินชดเชยรายวันกรณีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เงินชดเชยทรัพย์สินภายในกรณีรถถูกโจรกรรม ด้านประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซึ่งเป็นแผนประกันภัยสำหรับวัยทำงาน ครอบครัว และเด็ก ที่มีจุดเด่นที่ต่างกันในแต่ละแผน โดยแผนครอบครัวมีทุนประกันภัยหลักถึง 1 ล้านบาท พร้อมความคุ้มครองคู่สมรส และบุตรสูงสุด 2 คน อีกทั้งยังร่วมโครงการเพื่อส่งเสริมการประกันสุขภาพ ที่ให้ประชาชนสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพมาหักลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลธรรมดาได้ไม่เกิน 15,000 บาท รวมถึงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานโครงการขนาดใหญ่ (Mega Project) ของภาครัฐ อีกด้วย

ซึ่งปี 2561บริษัทฯ จะเน้นช่องทางการขายผ่านออนไลน์ E-Commerce ผ่านช่องทาง "MTI connect ต่อติดประกันภัยยุคดิจิทัล" ซึ่งจะก้าวสู่โลกออนไลน์เต็มรูปแบบ ด้วยเว็บไซต์ใหม่ www.mticonnect.com ที่ให้บริการขายประกันออนไลน์ครบวงจร มีแผนประกันภัยต่างๆ ให้เลือกมากมาย ทั้งประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท ประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยโรคมะเร็ง รวมถึงประกันอัคคีภัย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ด้วยขั้นตอนง่ายๆ สามารถชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ได้ทันที โดยเฉพาะการประกันภัยการเดินทาง ระบบจะทำการจัดส่งกรมธรรม์ให้ลูกค้าทางอีเมลได้ทันที เพื่อนำไปใช้เป็นเอกสารประกอบการขอวีซ่าได้อย่างสะดวกสบาย 

บริษัทฯ ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยสำหรับการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งถือว่าเป็นปีแรกอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท นอกจากนี้ MTI connect ยังมีฟังก์ชั่นพิเศษโดยเปิดให้บริการออนไลน์ 24 ชม. เพิ่มความใกล้ชิด และความสะดวกสบายมากขึ้น  เช่น บริการต่ออายุประกันภัย (เฉพาะผู้ที่ซื้อผ่านระบบออนไลน์) บริการแจ้งเคลมออนไลน์ บริการค้นหาอู่และศูนย์คู่สัญญาออนไลน์ รวมถึงรายชื่อโรงพยาบาลออนไลน์ และอีกความพิเศษ Online Customer Service เพราะคุณคือลูกค้าคนสำคัญ ระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ลูกค้าสมาชิกผู้ถือกรมธรรม์ของเมืองไทยประกันภัย สามารถตรวจสอบรายการซื้อประกันออนไลน์, สอบถามประวัติ, รับสำเนากรมธรรม์, ตรวจสอบสิทธิพิเศษที่ได้รับ, พร้อมตรวจเช็คข้อมูลกรมธรรม์ต่างๆ ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ www.mticonnect.com ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ ลูกค้าที่สมัครเป็นสมาชิกระบบออนไลน์ จะได้รับความสะดวกมากขึ้น เมื่อใดก็ตามที่ซื้อประกันออนไลน์ ระบบจะดึงข้อมูลพื้นฐานจากกรมธรรม์ฉบับก่อนมาใช้ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลากรอกข้อมูลส่วนตัวซ้ำของเดิมอีกต่อไป และอีกหนึ่งช่องทางประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ออนไลน์สามารถเข้าไปได้ที่เพจ "ยิ้มได้เมื่อภัยมา MTI connect"  ซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ บน Facebook Fanpage ที่ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 3 ของธุรกิจประกันภัยในเมืองไทย มีสมาชิกมากกว่า 170,000 คน โดยตั้งเป้าขึ้นเป็นอันดับ 1 ในปีนี้ เพจ MTI connect ประกอบไปด้วย content หลากหลายอ่านแล้วมีความสุขยิ้มได้ เพราะมีทั้งสาระความรู้ที่ทำให้รู้ทันภัยรอบตัว และโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันภัยผ่านระบบออนไลน์

นางนวลพรรณ ล่ำซำ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้จะเป็นปีที่เมืองไทยประกันภัยให้ความสำคัญ และเน้นย้ำในเรื่องการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งเป็นที่จดจำมากขึ้น เพื่อขยายการเข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มคน Gen Y ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป โดยใช้การสื่อสารภาพลักษณ์ที่ทันสมัยเข้าถึงง่าย ผ่านช่องทางดิจิทัล และโซเชียลมีเดีย โดยมีการวางกรอบกลยุทธ์การสื่อสารแบรนด์ ภายใต้แนวคิดหลัก “Engaged Brand” เพื่อตอกย้ำ Positioning brand เมืองไทยประกันภัยที่เน้น “การเข้าถึง” โดยในปีนี้จะมีการพัฒนาการสื่อสารผ่านช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้มีรูปแบบที่ทันสมัย เข้าถึงง่าย เหมาะกับไลฟ์สไตส์ของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มลูกค้าเดิม และลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็น Gen Y ซึ่งกำหนดทิศทางการสื่อสารให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคการตลาดดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูงและรวดเร็ว มุ่งสร้างโอกาสและความได้เปรียบเหนือคู่แข่งขัน เพื่อก้าวสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ผ่านการสร้างความผูกพันระหว่างลูกค้ากับองค์กร ด้วยการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเคียงข้างเสมือนเพื่อนสนิทที่รู้ใจ สร้างรอยยิ้มและแรงบันดาลใจตลอดทุกช่วงเวลา เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างและตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีเว็บไซต์หลัก www.muangthaiinsurance.com ที่ให้บริการข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ รวมถึงโปรโมชั่นพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าเมืองไทยประกันภัยและผู้สนใจ หากท่านใดสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1484