เอสเอ็มอี
SME Development Bank จัดสินเชื่อดอกเบี้ยถูก 1 % ผนึก 5 หน่วยงาน พลิกโฉมเอสเอ็มอีสู่ยุคดิจิทัล


SME Development Bank ประกาศเดินหน้าบทบาทสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อยกระดับเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยก้าวทันโลกธุรกิจยุคใหม่ ร่วมมหกรรม “SME TRANSFORM”  จัดสินเชื่อดอกเบี้ยถูก 1 % พร้อมผนึก 5 หน่วยงาน ผลักดันเถ้าแก่ 4.0 เชื่อม Big Data ติดปีกเอสเอ็มอีสู่ยุคดิจิทัล

 


 

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank หรือ ธพว.)  กล่าวว่า ธนาคารพร้อมทำหน้าที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อการพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยอย่างครบวงจรให้ก้าวสู่การเป็นเอสเอ็มอียุคดิจิทัลมีขีดความสามารถสูงพร้อมปรับตัวเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุค 4.0  โดยนำเทคโนโลยียุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักร หุ่นยนต์ ดีไซน์ ระบบไอที และออนไลน์  มาช่วยสนับสนุนเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจ

ทั้งนี้ มาตรการสนับสนุนของ ธพว. จะถูกนำมาให้บริการภายในงาน 'SME TRANSFORM #พร้อมแล้วเปลี่ยน ประชารัฐร่วมใจ เชื่อม SME ไทยสู่สากล  Financial Zone   ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี  ระหว่างวันที่ 18-20 พฤษภาคม 2561  ได้แก่ สินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 เพื่อให้เอสเอ็มอีใช้เป็นเงินทุนยกระดับปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล วงเงินรวม 8,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 1%   ต่อปี  ซึ่งถือเป็นอัตราดอกเบี้ยถูกที่สุดในประวัติศาสตร์การให้บริการสินเชื่อธุรกิจของสถาบันการเงินไทย  สามารถกู้ได้สูงสุด 1 ล้านบาทต่อราย  สำหรับนิติบุคคล  (บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลไม่ต้องมีหลักประกัน  ผ่อนนาน 7 ปี  ปลอดชำระเงินต้น 3 ปีแรก  แม้จะมีประวัติการชำระเงินไม่สม่ำเสมอก็สามารถกู้ได้ ใช้เอกสารประกอบการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามสภาพข้อเท็จจริงของกิจการ

 

 

อีกทั้ง ได้นำหน่วยรถม้าเติมทุน ส่งเสริม SMEs ไทย ฉับไว ไปถึงถิ่น”  มาจอดให้บริการภายในบูธ   พร้อมสาธิตการทำงาน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปพบผู้ประกอบการถึงสถานที่ประกอบกิจการจริงทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบการยืนยันตัวตนและตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นเพียงใช้บัตรประชาชน  โดยทำงานควบคู่แอพพลิเคชั่น “SME D Bank” ที่ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอสินเชื่อผ่านสมาร์ทโฟน และติดตามสถานะในการพิจารณาสินเชื่อ ภายใน 7 วันถัดไป  ผ่านบริการ Call Center 1357

นอกจากนั้น เพื่อจะช่วยสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ธพว. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ผลักดันเถ้าแก่ 4.0 สู่แหล่งทุน”   กับ 5 หน่วยงานนำร่อง ประกอบด้วย  สมาคมการพิมพ์ไทย  นายพงศ์ธีระ พัฒนพีระเดช นายกสมาคมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (คลัสเตอร์ยางพารา)   รองศาสตราจารย์ ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดี  , ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)  นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชนนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่  และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ โดย  ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์  รองนายกรัฐมนตรี และนายอุตตม สาวนายน  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นสักขีพยานในการลงนามครั้งนี้  เพื่อบูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลเป็นบิ๊กดาต้า” (Big Data) เพื่อการสร้างโอกาสสนับสนุนยกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้แข็งแกร่ง

 


 

อุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์  ยางพารา รวมถึง ภาคเกษตรล้วนมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทยอย่างยิ่ง  ทว่า ปัจจุบัน ยังประสบปัญหาปรับตัวไม่ทันต่อการแข่งขัน  การลงนามครั้งนี้ จึงนับเป็นมิติใหม่ของร่วมมือระหว่างภาครัฐ สถาบันการเงิน สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน ที่จะผนึกพลังร่วมกันพัฒนาโดยยกระดับอุตสาหกรรมดังกล่าวอย่างครบวงจร ผ่านนวัตกรรม เทคโนโลยี เครื่องจักร และสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำนายมงคล กล่าว

นอกจากนั้น เพื่อให้เห็นตัวอย่างจริงแห่งความสำเร็จ ภายในงานนี้ ธนาคารได้นำต้นแบบของเอสเอ็มอียุคดิจิทัลมาแสดงในมุม “SME Show Case” เช่น  แบรนด์ ‘Tonnam’ .เชียงราย ธุรกิจคลัสเตอร์สมุนไพรไทยที่ประสบความสำเร็จจากการทำตลาดผ่านเว็บไซต์ "Alibaba"  หรือ แบรนด์ "หม่ำอินเตอร์" .ขอนแก่น ที่สร้างมาตรฐานอาหารพื้นบ้านอย่างหม่ำจนก้าวไปไกลระดับสากล เป็นต้น  ซึ่งจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และจุดประกายให้เอสเอ็มอีรายอื่นๆ เห็นว่า หากมุ่งมั่นปรับเปลี่ยนธุรกิจด้วยเทคโนโลยียุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรม  มาตรฐาน ดีไซน์ และออนไลน์ จะสามารถก้าวถึงความสำเร็จได้เช่นกัน รวมถึง ยังก่อให้เกิดการต่อยอด เชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วยกันเอง เพื่อช่วยเหลือและแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน    นำไปสู่การสร้างสังคมผู้ประกอบการไทยอันจะเป็นฐานรากที่แข็งแกร่งของระบบเศรษฐกิจไทยต่อไป


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 พ.ค. 2561 เวลา : 16:37:48
19-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. พรุ่งนี้ (20 เม.ย.) ราคาน้ำมันดีเซล ปรับขึ้น 50 สต./ลิตร ตามมติ กบน. มีผลเที่ยงคืนนี้

2. ตลาดหุ้นปิด (19 เม.ย.67) ลบ 28.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,332.08 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 เม.ย.67) ลบ 25.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,335.93 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,385 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ

5. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.20%

6. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวก 9.60 เหรียญ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวกแค่ 22.07 จุด เจ้าหน้าที่เฟดตบเท้าหนุนไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.75-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 เม.ย.67) ลบ 20.39 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,340.63 จุด

10. ทองเปิดตลาด (19 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 550 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 42,500 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.85 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราษฎร์บูรณะ

13. ตลาดหุ้นปิด (18 เม.ย.67) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.02 จุด

14. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.67) บวก 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,368.77 จุด

15. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.ฝน 20%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 9:11 pm