เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
กลุ่มอุตฯบริการทางการเงินในไทยเปิดทางผู้หญิงโตในสายอาชีพสวนทางทั่วโลก


PwC เผยกลุ่มอุตสาหกรรมบริการทางการเงินทั่วโลก ยังคงล้าหลังกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ในการสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้หญิงสามารถเติบโตในสายอาชีพ โดยผลสำรวจพบ ผู้หญิงในอุตฯ บริการทางการเงินมากกว่าครึ่ง เชื่อว่า ความแตกต่างทางเพศยังเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าในการทำงาน และกังวลหากใช้สิทธินโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่น จะทำให้หมดโอกาสเติบโต ด้าน PwC มองว่า อุตฯ บริการทางการเงินของไทยให้โอกาสหญิงเก่งมากขึ้น เห็นจากองค์กรขนาดใหญ่หนุนให้ผู้หญิงตบเท้าก้าวขึ้นเป็นผู้นำ 

ผลสำรวจ Seeing Is Believing: clearing the barriers to women’s progress in financial services ได้ทำการสำรวจผู้หญิงทำงานในอุตสาหกรรมบริการทางการเงินทั่วโลกจำนวน 290 คน ที่มีอายุระหว่าง 28 ถึง 40 ปี ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งของรายงานที่ทำการสำรวจผู้หญิงทำงานจำนวนทั้งสิ้น 3,627 คนในทุกอุตสาหกรรมจากทั่วโลกว่า อุตสาหกรรมบริการทางการเงิน (Financial Services) ยังคงล้าหลังอุตสาหกรรมอื่น ในการสนับสนุนความก้าวหน้าในการทำงานและส่งเสริมให้ผู้หญิงดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง 

 

 

 

นายบุญเลิศ กมลชนกกุล หุ้นส่วน และหัวหน้าสายงาน Clients and Markets บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวว่า ในรายงานระบุว่า 54% ของผู้หญิงทำงานในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน เชื่อว่า ความแตกต่างทางเพศเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าในสายอาชีพภายในองค์กร เปรียบเทียบกับผู้หญิงในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นที่ 45% โดยเกือบครึ่งหนึ่ง (43%) ของผู้หญิงทำงานในอุตสาหกรรมบริการทางการเงินทั่วโลก เคยมีประสบการณ์ในการต้องเผชิญกับคำพูดที่ดูหมิ่น ข่มขู่ และการใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม เทียบกับอุตสาหกรรมอื่นโดยเฉลี่ยที่ 34%

นอกจากนี้ รายงานยังชี้ให้เห็นถึงความกังวลจากผลกระทบของนโยบายในที่ทำงานที่สนับสนุนผู้หญิงทำงานที่เป็นคุณแม่ว่า โดยเกือบ 60% ของคุณแม่มือใหม่ในอุตฯ นี้เชื่อว่า พวกเขาถูกมองข้าม หรือหมดโอกาสในการที่จะก้าวหน้าในสายอาชีพ หลังจากกลับมาทำงานจากลาคลอด ซึ่งมากกว่าครึ่งยังเชื่อด้วยว่า นโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่นในที่ทำงานอาจส่งผลกระทบต่ออนาคตหากพวกเขาปฏิบัติตาม โดย 52% มองว่า นโยบายดังกล่าวไม่พร้อมใช้ในทางปฏิบัติสำหรับพวกเขา ขณะที่ 51% มองว่า อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่ออนาคตการทำงาน หากพวกเขาปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว

นอกจากนี้ ผลสำรวจได้แสดงให้เห็นถึงสัญญาณเชิงบวกในการส่งเสริมความก้าวหน้าของผู้หญิงในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน โดยมากกว่า 60% ระบุว่า พวกเขามีการเจรจาต่อรองเพื่อขอเลื่อนตำแหน่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เปรียบเทียบกับผู้หญิงในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่ 48% 

 

นอกจากนี้ มากกว่า 80% ของผู้หญิงทำงานในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน ยังมีความมั่นใจในการเป็นผู้นำ และเชื่อในความสามารถที่จะผลักดันให้ตนเดินไปสู่เป้าหมายในหน้าที่การงานที่วางไว้

ทั้งนี้ มี 3 ประเด็นสำคัญที่ผู้บริหารต้องพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ได้แก่ 1.ให้ความสำคัญกับการสร้างความโปร่งใส การสื่อสาร และการสร้างความไว้วางใจ เพื่อโน้มน้าวให้ผู้หญิงเห็นว่า พวกเขาก็สามารถประสบความสำเร็จในองค์กรได้ และทำให้พวกเขาเข้าใจว่า ตนควรทำอย่างไรจึงจะก้าวหน้าในสายอาชีพ

2.ให้การสนับสนุนพนักงานอย่างเต็มที่ในการวางตัวผู้นำในอนาคต และต้องมั่นใจได้ว่า คนเหล่านี้ได้รับประสบการณ์ที่จำเป็นและสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้และเครือข่ายที่จะช่วยพัฒนาขีดความสามารถของพวกเขา และ 3. สร้างสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมองค์กรที่ช่วยสร้างสมดุลระหว่างเรื่องส่วนตัวและแรงบันดาลในการทำงานให้กับผู้หญิง มากกว่าที่จะมีนโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่นเพียงอย่างเดียว

ด้านนายจอน เทอร์รี่ หัวหน้าสายงานที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลของธุรกิจบริการทางการเงินทั่วโลกของ PwC กล่าวว่ารายงานฉบับนี้ สะท้อนให้เห็นว่า อุตสาหกรรมบริการทางการเงินทั่วโลกกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่สำคัญในการหันมาส่งเสริมความหลากหลากหลายทางเพศอย่างจริงจัง เพราะเวลานี้องค์กรต่างๆ มีพนักงานที่เต็มไปด้วยกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ความมั่นใจและทะเยอทะยาน โดยปรารถนาที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำมากกว่าช่วงอื่นๆ ในอดีต ขณะที่นายจ้างจำนวนมากยังคงไม่ปรับตัวที่จะรับมือกับความท้าทาย หรือดำเนินการเพื่อลดอุปสรรคในเรื่องนี้ 

 

หากดูเรื่องช่องว่างรายได้ระหว่างชายและหญิงที่ไม่ค่อยแตกต่างกันมาก เมื่อพนักงานมีอายุประมาณ 20 ปลายๆ แต่ช่องว่างนี้กลับกว้างขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อพนักงานเข้าสู่อายุ 40 นี่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่นายจ้างต้องเข้าใจถึงความต้องการและความกังวลของคนกลุ่มนี้ เพื่อให้องค์กรสามารถหาแนวทางปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม 

อย่างไรก็ดี เราควรเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ เป็นโอกาสในการส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศของอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน โดยมองเป็นโอกาสในการที่เราจะได้เพิ่มความแตกต่างหลากหลายให้กับอุตฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับธุรกิจในระยะยาว เพราะหากปล่อยไป จะกลายเป็นความท้าทายในการรักษาและดึงดูดทาเลนต์ในอนาคต 

ส่วนนายบุญเลิศ กล่าวเสริมว่า ในส่วนของอุตสาหกรรมบริการทางการเงินไทยนั้น ผมมองว่า แทบจะไม่มีความเหลื่อมล้ำทางเพศในการทำงานเลยก็ว่าได้ เพราะธุรกิจการเงินหลายแห่ง หรือแม้แต่องค์กรระดับประเทศ ล้วนมีผู้นำองค์กรเป็นผู้หญิง นั่นสะท้อนให้เห็นว่า อุตสาหกรรมบริการทางการเงินของเรา รวมไปถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ เอง ก็ค่อนข้างให้การสนับสนุนผู้หญิงให้มีความก้าวหน้าในอาชีพ และผลักดันให้ผู้หญิงมีโอกาสในการเป็นผู้นำองค์กรมากขึ้น  และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น  

เพราะปัจจุบันมีผู้หญิงทำงานที่อยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับกลางเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่องค์กรไทยควรให้การสนับสนุนและส่งเสริมไม่แพ้กัน คือ นโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่น เพื่อให้ผู้หญิงสามารถบริหารสมดุลในชีวิตครอบครัวและการทำงานได้อย่างลงตัว เพื่อให้พวกเธอทำงานอย่างมีความสุขและผลงานที่ออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้น   


LastUpdate 15/09/2561 09:01:28 โดย : Admin
23-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (23 เม.ย.67) บวก 7.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,357.46 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (23 เม.ย.67) บวก 11.57 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.09 จุด

3. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ 2,330 เหรียญ

4. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (22 เม.ย.67) ร่วง 67.40 เหรียญ แห่เทขายทอง หลังคลายกังวลความตึงเครียดอิหร่าน - อิสราเอล

5. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (22 เม.ย.67) บวก 253.58 จุด รับแรงช้อนซื้อหลังหุ้นตกหนัก -จับตาผลประกอบการบริษัทเทคฯรายใหญ่

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.90-37.15 บาท/ดอลลาร์

7. ทองเปิดตลาด (23 เม.ย. 67) ร่วงแรง 850 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 41,050 บาท

8. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (23 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.06 บาทต่อดอลลาร์

9. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง 20-30% กรุงเทพปริมณฑลและภาคอื่นๆ ฝน 10% / อุตุฯเตือน 24-25 เม.ย.มีพายุฤดูร้อน

10. ตลาดหุ้นไทยเปิด (23 เม.ย.67) บวก 5.89 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,355.41 จุด

11. พรุ่งนี้ น้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ทุกชนิด และพรีเมี่ยม GSH95 ลดลง 0.40 บาทต่อลิตร

12. ตลาดหุ้นปิด (22 เม.ย.67) บวก 17.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,349.52 จุด

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (22 เม.ย.67) บวก 15.02 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,347.10 จุด

14. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,365 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,395 เหรียญ

15. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.80-37.05 บาท/ดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 23, 2024, 5:47 pm