เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ส่งออกไทยเดือน ส.ค. ขยายตัวที่ 6.7%YOY ชะลอตัวลงตามสินค้าหมวดสำคัญ และสงครามการค้า


มูลค่าการส่งออกไทยเดือนสิงหาคมขยายตัว 6.7%YOYชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 8.3%YOY นำโดยการชะลอตัวในหมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ที่ขยายตัว 2.1%YOY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 10.7%YOY ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และน้ำตาลทราย เป็นต้น และหมวดสินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัว 5.8%YOY ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.7%YOY  ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์-อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์และพลาสติก และโดยเฉพาะทองคำที่หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่ -66.6%YOY โดยเมื่อพิจารณาการส่งออกที่ไม่รวมทองคำจะขยายตัวที่ 10.3%YOY เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 8.2%YOY อย่างไรก็ตาม สินค้าหมวดเกษตรกลับมาขยายตัวที่ 5.6%YOY หลังจากหดตัวในเดือนก่อนหน้าที่ -2.3%YOY ได้แก่ ข้าว และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นต้น ทั้งนี้ การส่งออกในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2018 เติบโตที่ 10.0%YOY

มาตรการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อเนื่องโดยในเดือนสิงหาคม มูลค่าสินค้าที่ถูกตั้งเก็บภาษีนำเข้าโดยสหรัฐฯ ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ (แผงโซลาร์) และเครื่องซักผ้า-เครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ ที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ หดตัวที่ -80.7%YOY และ -10.3%YOYทำให้มูลค่าการส่งออกของสินค้ากลุ่มดังกล่าวในภาพรวมหดตัว-35.6%YOY และ -0.04%YOY ตามลำดับ ขณะที่สินค้าอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการเดียวกัน ได้แก่ เหล็ก-เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม ในภาพรวมยังขยายตัวได้ที่ 2.7%YOY และ21.8%YOY ตามลำดับ นอกจากนี้ มูลค่าการส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์จากไทยไปยังจีน ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากมาตรการการเก็บภาษีนำเข้าจากจีนของสหรัฐฯ ที่เริ่มบังคับใช้เมื่อ 6กรกฎาคม หดตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2017 ที่ -10.7%YOYทำให้มูลค่าการส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ในภาพรวมขยายตัวที่6.3%YOY ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 14.2%YOY

 

 

มูลค่าการนำเข้าเติบโตเร่งขึ้นที่ 22.8%YOY โดยเป็นการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2018 จากการนำเข้าสินค้าทุนที่ขยายตัวเร่งขึ้นที่ 6.22%YOY จาก 0.6%YOY ในเดือนก่อนหน้า ได้แก่ เหล็ก-เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และเครื่องคอมพิวเตอร์-อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ตามการลงทุนภายในประเทศที่ฟื้นตัว รวมถึงการนำเข้าสินค้าในหมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปขยายตัวเร่งขึ้นที่ 37.8%YOY จาก 2.8%YOY ในเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะมูลค่าการนำเข้าทองคำที่ขยายตัวถึง268.6%YOY สูงสุดในรอบ 11 เดือน โดยการนำเข้าที่ไม่รวมทองคำขยายตัวที่ 13.9%YOY เร่งขึ้นเพียงเล็กจากเดือนก่อนหน้าที่ 13.1%YOY ทั้งนี้ การนำเข้าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2018 เติบโตที่ 15.9%YOY

อีไอซีคงประมาณการอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกทั้งปี 2018 ที่ 8.5% โดยในช่วงที่เหลือของปี 2018 มูลค่าการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวได้ในอัตราที่น้อยกว่าในช่วงครึ่งปีแรก (11.0%YOY)ตามทิศทางการค้าโลก และปัจจัยฐานสูงในปีก่อนหน้าที่จะเริ่มมีผลมากขึ้นรวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบมากขึ้นในบางหมวดสินค้า  อย่างไรก็ดี อีไอซีมองว่าการส่งออกยังเติบโตได้จากเศรษฐกิจคู่ค้าหลักที่ยังขยายตัว และราคาสินค้าส่งออกที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่คาดว่าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

จับตาผลกระทบการส่งออกไทยจากมาตรการตอบโต้ทางการค้าเพิ่มเติมระหว่างสหรัฐฯ และจีน การส่งออกไทยมีแนวโน้มได้รับผลกระทบมากยิ่งขึ้นจากการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติมที่อัตรา 10% โดยเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 24 กันยายน และจะเพิ่มเป็น 25% ในเดือนมกราคม2019 มูลค่ารวมกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้สินค้าส่งออกไทยที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน เช่น ยางแผ่น ไม้แผ่นและไม้แปรรูป เครื่องคอมพิวเตอร์-อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น อาจได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ อีไอซีประเมินว่าสัดส่วนมูลค่าสินค้าส่งออกสินค้าในหมวดดังกล่าวที่ไทยส่งไปจีนคิดเป็นสัดส่วนราว 4.1% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย ขณะที่มาตรการตอบโต้ของจีนที่มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ในครั้งล่าสุดนี้ จะยังไม่กระทบการส่งออกไทยมากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีความเกี่ยวข้องกับการส่งออกไทยค่อนข้างน้อย ในทางกลับกัน การส่งออกของไทยอาจได้รับประโยชน์จากมาตรการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยจากรายงานสำนักงานนโยบายยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ระบุว่าสินค้าส่งออกของไทยมีศักยภาพในการทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯ สูงได้แก่ ข้าวสี ยางแท่ง กรดซิติก และเครื่องยนต์สันดาปภายใน

อีไอซีคาดมูลค่าการนำเข้าทั้งปี 2018 จะขยายตัวที่ 15% เพิ่มจากที่เคยคาดไว้ก่อนหน้าที่ 13.5%YOY จากการนำเข้าที่ขยายตัวสูงเกินคาดในช่วงที่ผ่านมา และแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี2018 จากการบริโภค และการลงทุนภายในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ดี รวมถึงราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงกว่าที่คาดซึ่งสนับสนุนให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงมีแนวโน้มสูงขึ้น ทั้งนี้ การนำเข้าที่ขยายตัวสูงและมากกว่าการขยายตัวของการส่งออกทำให้ไทยขาดดุลการค้าในเดือนสิงหาคม 588 ล้านดอลลาร์สหรัฐๆ แต่ดุลการค้า 8 เดือนแรกยังเกินดุลอยู่ในระดับสูงที่ 2,351ล้านดอลลาร์สหรัฐๆ สะท้อนถึงเสถียรภาพระหว่างประเทศของไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 ก.ย. 2561 เวลา : 17:30:43
20-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. พรุ่งนี้ (20 เม.ย.) ราคาน้ำมันดีเซล ปรับขึ้น 50 สต./ลิตร ตามมติ กบน. มีผลเที่ยงคืนนี้

2. ตลาดหุ้นปิด (19 เม.ย.67) ลบ 28.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,332.08 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 เม.ย.67) ลบ 25.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,335.93 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,385 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ

5. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.20%

6. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวก 9.60 เหรียญ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวกแค่ 22.07 จุด เจ้าหน้าที่เฟดตบเท้าหนุนไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.75-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 เม.ย.67) ลบ 20.39 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,340.63 จุด

10. ทองเปิดตลาด (19 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 550 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 42,500 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.85 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราษฎร์บูรณะ

13. ตลาดหุ้นปิด (18 เม.ย.67) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.02 จุด

14. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.67) บวก 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,368.77 จุด

15. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.ฝน 20%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 4:15 pm