หุ้นทอง
บล.ทิสโก้ปรับเป้าดัชนีครึ่งปีแรกเหลือ 1,750 จุด


บล.ทิสโก้ปรับเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยครึ่งปีแรกเหลือ1,750 จุด หลังกำไรบริษัทจดทะเบียนออกมาต่ำกว่าคาด เศรษฐกิจโตชะลอ แต่เชื่อว่าดัชนียังไปต่อได้อีกจากปัจัยหนุนเรื่องการเมืองชัด ปันผลสูงและMSCI จ่อเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย


นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ กล่าวถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทยในงานสัมมนาTISCO Monthly Guru Updatesว่า บล.ทิสโก้ปรับเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยครึ่งปีแรกเหลือ 1,750 จุด จากเดิมที่ให้เป้าหมายดัชนีไว้ที่1,850 จุด เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยคาดว่าGDPไทยปี2562จะทำได้เพียง3.5% ปรับลงจากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 4% เพราะภาคการส่งออกได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า และการลงทุนภาครัฐโดยเฉพาะโครงการโครงสร้างพื้นฐานใน EEC อาจล่าช้ากว่าคาด

ประกอบกับตัวเลขผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 4/2561 จำนวน 496 บริษัทจากทั้งหมด 613 บริษัทออกมาต่ำกว่าที่คาดอย่างมาก ส่งผลให้นักวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 2562 ลงมาอยู่ที่ 110.3 บาท ลดลงจากประมาณการเดิม 4.4% และปรับลด EPS ปี 2563 มาอยู่ที่ 120.3 บาท ลดลงจากเดิม 3.7%

อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจัยลบจะยังมีอยู่ แต่บล.ทิสโก้ประเมินว่าในเดือนมีนาคมและเมษายนตลาดหุ้นไทยจะค่อยๆ ฟื้นตัวและดัชนีจะปรับขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,700 จุดได้ในเดือนเมษายน ผลบวกจากบริษัทจดทะเบียนทยอยประกาศจ่ายปันผลซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงเพราะราคาหุ้นปรับลงไปมาก นอกจากนี้ การเลือกตั้งในประเทศที่จะเริ่มเห็นความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลแล้วว่าจะมีพรรคการเมืองใดบ้างที่ร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์มองว่ากรณีที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือ หลังเลือกตั้งแล้วจะได้รัฐบาลผสมที่มี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากการเปลี่ยนกฎเกณฑ์เรื่องการนำหุ้นเข้าคำนวนดัชนี MSCI Emerging Market(MSCI)ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยต้องจับตามว่าในวนัที่ 29 มีนาคม 2562 MSCI จะประกาศนำใบแสดงสิทธิ NVDR เข้ามาคำนวณในดัชนีหรือไม่ หากประกาศใช้จะส่งผลให้หุ้นไทยถูกปรับน้ำหนักในดัชนี MSCI เพิ่มขึ้นจาก 2.5% เป็น 3.0% ซึ่งจะทำให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้าซื้อหุ้นไทยเพิ่มประมาณ 5 หมื่นล้านบาท

นายวิวัฒน์กล่าวอีกว่า สำหรับหุ้นแนะนำในเดือนมีนาคม2562มีหุ้นแนะนำทั้งหมด 3 ธีมการลงทุนคือ หุ้นที่คาดว่าจะได้รับการปรับน้ำหนักเพิ่มจากการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของ MSCI และมีพื้นฐานที่ดี ได้แก่ BDMS, DTAC, RATCH และSCCหุ้นที่คาดจะถูกปรับประมาณการกำไรขึ้น ได้แก่ JWD และ MAJOR และหุ้นที่คาดว่ากำไรไตรมาสที่ 1/2562จะออกมาคือ ได้แก่ BEM, RS และ STEC

ทั้งนี้งานสัมมนาTISCO Monthly GURU Updatesเป็นหนึ่งในกิจกรรมสัมมนาที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือนเพื่อเผยแพร่บทวิเคราะห์และทิศทางการลงทุนเพื่อช่วยให้ลูกค้าทิสโก้และนักลงทุนบรรลุเป้าหมายทางการเงิน ตามกลยุทธ์ของทิสโก้ในการเป็นผู้แนะนำการลงทุนชั้นนำหรือ Top Advisory House

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 มี.ค. 2562 เวลา : 22:14:38
20-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. พรุ่งนี้ (20 เม.ย.) ราคาน้ำมันดีเซล ปรับขึ้น 50 สต./ลิตร ตามมติ กบน. มีผลเที่ยงคืนนี้

2. ตลาดหุ้นปิด (19 เม.ย.67) ลบ 28.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,332.08 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 เม.ย.67) ลบ 25.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,335.93 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,385 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ

5. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.20%

6. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวก 9.60 เหรียญ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวกแค่ 22.07 จุด เจ้าหน้าที่เฟดตบเท้าหนุนไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.75-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 เม.ย.67) ลบ 20.39 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,340.63 จุด

10. ทองเปิดตลาด (19 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 550 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 42,500 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.85 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราษฎร์บูรณะ

13. ตลาดหุ้นปิด (18 เม.ย.67) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.02 จุด

14. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.67) บวก 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,368.77 จุด

15. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.ฝน 20%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 7:16 pm