หุ้นทอง
"AECS "นับถอยหลังเลือกตั้งหนุนดัชนี


บล.เออีซีจับตาเลือกตั้งหนุนดัชนีจากความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนสถาบันเพิ่มขึ้น แม้ปัจจัยต่างประเทศกดดันอยู่บ้าง อาทิ การเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนต้นเม.ย.นี้ รวมทั้งการ Brexit หลังรัฐสภาอังกฤษมีมติเลื่อนกำหนด Brexit จากวันที่ 29 มี.ค. ออกไปอีก 3 เดือน ให้กรอบดัชนี 1,620-1,675 จุด แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นเด่นได้อานิสงส์เลือกตั้ง ชู BJC-CPALL- AAV- AOT- TKS- BEC-VGI


บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด(มหาชน)หรือ AECS ระบุว่าภาพรวมทิศทางตลาดไทยในสัปดาห์นี้มองSET Index ได้อานิสงส์จากมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน เพราะเข้าใกล้ช่วงโค้งสุดท้ายของวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 โดยคาดว่าจะทำให้ลดความกังวล Political Risk พร้อมกับมามีความเชื่อมั่นมากขึ้น หนุนให้ทั้งการลงทุนและการท่องเที่ยวดีขึ้น

ส่วนปัจจัยต่างประเทศตลาดยังคงรอความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนโดยการประชุมระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีจีน นายสี จิ้นผิง คาดจะเกิดขึ้นช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้ รวมทั้งติดตามความคืบหน้าประเด็น Brexit หลังรัฐสภาอังกฤษมีมติเลื่อนกำหนด Brexit จากวันที่ 29 มี.ค. ออกไปอีก 3 เดือนโดยจะต้องผ่านข้อตกลงที่ทางนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นางเทเรซา เมย์ ยื่นข้อเสนอในวันที่ 20 มี.ค. และทาง EU จะจัดประชุมในวันที่ 21-22 มี.ค.นี้เพื่อลงมติการเลื่อน Brexit ที่กรุงบรัสเซลส์ และการติดตามการประชุม FED ในวันที่ 19-20 มี.ค. คาดยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25-2.50% จาก Implied Prob.การคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 97.7%

ดังนั้นประเมินว่าSET Indexมีแรงซื้อกลับในช่วงปลายเดือนมีนาคมอีกครั้ง โดยกรอบดัชนีรายเดือนมีแนวรับ 1,620 จุด และแนวต้าน 1,675 จุด มองเป็นโอกาสเข้าซื้อ 3 กลุ่ม หุ้นเด่น ดังนี้กลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์หลังเลือกตั้ง เช่น กลุ่มค้าปลีก ซึ่งคาดว่าหลังเลือกตั้งภายใต้รัฐบาลใหม่จะเข้ามาแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นอันดับต้นๆ มองอานิสงส์บวกดังกล่าวหนุนกลุ่มค้าปลีกได้ประโยชน์จากกำลังซื้อที่มากขึ้น เลือกหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์ ได้แก่ BJC, CPALL, หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว โดยคาดว่าหลังจากประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ทำให้นักท่องเที่ยวบางกลุ่มมีมุมมองความเสี่ยงทางการเมืองของประเทศไทยที่ลดลง คาดทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เลือกหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์ ได้แก่ AAV, AOT  และกลุ่มสื่อ ซึ่งคาดว่าเอเจนซี่ที่ชะลอการใช้เม็ดเงินในช่วงก่อนหน้าจะกลับมาอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่อุตสาหกรรมอีกครั้ง หลังการเลือกตั้งมีความชัดเจนและการบริโภคในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น โดยแนะนำกลุ่มที่เห็นสัญญาณบวกจากส่วนแบ่งในเม็ดเงินโฆษณาที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ. ได้แก่ กลุ่มดิจิตอลทีวี  แนะนำ BEC และกลุ่ม Out of Home  แนะนำ VGI Turnaround Stock

นอกจากนี้เลือกหุ้นที่กำไรฟื้นตัวโดดเด่นในปี62 เลือกTKS ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 29.8% จากปีก่อน จากงานบัตรเลือกตั้งและการเพิ่มสินค้าและบริการด้านนวัตกรรม และแนวโน้มสดใส นอกจากนี้มี Upside Risk หากได้งาน E-Passport) หุ้น TWPC ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 146.6% จากแผน Inorganic Growth และสภาวะขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มดีขึ้น หุ้น TVD ปี 62 ตั้งเป้ารายได้รวม 4,800 ลบ. เพิ่มขึ้น 20%แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจของทีวี ไดเร็ค 3,300 ล้านบาท และจาก 6 บริษัทในเครืออีก 1,500 ล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์หลักจากการทำ Omni Channel Direct Marketing Experience โดยผสมผสานการทำตลาดผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

รวมทั้งกลุ่มโรงพยาบาลมองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวนจากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH  ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โตหนุนด้วยการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปีทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจาก 300 ราย/ปีจากเดิมที่ 200 ราย/ปี และเตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียงจากเดิมที่มี 86 เตียง
 
หุ้น BCH แรงหนุนจากการปรับปรุงโรงพยาบาลในเครือและการเพิ่มศูนย์การแพทย์ระดับตติยภูมิ พร้อมกับแนวโน้มสดใสของ WMC และ IVF หุ้น BDMS คาดกำไรปี 62 โต จากแผนยกระดับการให้บริการที่เน้นกลุ่มโรคซับซ้อนมากขึ้น และพัฒนาการของโครงการWellness Clinic  รวมทั้งคาดมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RAM ซึ่งคาดจะบันทึกในช่วงไตรมาส 1/2562  จำนวน 4.6 ล้านนหุ้น ที่ราคา 2,800 บาท/หุ้น ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำมาชำระหนี้เพื่อลดภาระทางการเงิน

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 มี.ค. 2562 เวลา : 11:28:32
20-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. พรุ่งนี้ (20 เม.ย.) ราคาน้ำมันดีเซล ปรับขึ้น 50 สต./ลิตร ตามมติ กบน. มีผลเที่ยงคืนนี้

2. ตลาดหุ้นปิด (19 เม.ย.67) ลบ 28.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,332.08 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 เม.ย.67) ลบ 25.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,335.93 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,385 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ

5. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.20%

6. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวก 9.60 เหรียญ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวกแค่ 22.07 จุด เจ้าหน้าที่เฟดตบเท้าหนุนไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.75-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 เม.ย.67) ลบ 20.39 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,340.63 จุด

10. ทองเปิดตลาด (19 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 550 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 42,500 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.85 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราษฎร์บูรณะ

13. ตลาดหุ้นปิด (18 เม.ย.67) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.02 จุด

14. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.67) บวก 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,368.77 จุด

15. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.ฝน 20%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 11:28 am